เรื่องน่ารู้

Blogs

เหนื่อยง่าย ไม่สดใส ต้องดีท็อกซ์ตับ

การดริปวิตามิน

เคยรู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้า เหมือนแบกของหนักอยู่ตลอดเวลาไหม? หรือมีปัญหาผิวพรรณหมองคล้ำ ไม่สดใส ทั้งที่พยายามดูแลตัวเองอย่างดี บางทีต้นตอของปัญหาเหล่านี้อาจไม่ได้อยู่ที่ภายนอก แต่อยู่ลึกเข้าไปภายใน…ที่ “ตับ” ของคุณ

ตับ คือ อวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย แต่ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลภาวะ สารเคมีในอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ทำให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้น และเสี่ยงต่อการสะสมสารพิษจนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา

การดีท็อกซ์ตับ จึงเป็นเสมือนการ “RESET” ให้กับตับของคุณ ช่วยขจัดสารพิษที่ตกค้าง ฟื้นฟูการทำงานของตับให้กลับมาแข็งแรง และช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

การล้างพิษตับ คืออะไร

“ล้างพิษตับ” หรือ Liver Detoxification คือ กระบวนการฟื้นฟูและเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของตับ อวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นเสมือน “โรงงานกำจัดของเสีย” ของร่างกาย

ตับมีบทบาทสำคัญในการกรองและขจัดสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสารพิษจากอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรือแม้กระทั่งมลภาวะในอากาศ นอกจากนี้ ตับยังทำหน้าที่ผลิตน้ำดี ซึ่งมีความสำคัญในการย่อยอาหาร โดยเฉพาะไขมัน และยังทำหน้าที่สะสมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และกลูโคส รวมถึงสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย

ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลภาวะ สารเคมีในอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ทำให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้น และเสี่ยงต่อการสะสมสารพิษจนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา เช่น ภาวะไขมันพอกตับ ตับอักเสบ หรือแม้กระทั่งมะเร็งตับ

การล้างพิษตับจึงเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดี ช่วยให้ตับทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บ และ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การล้างพิษตับ มีประโยชน์อย่างไร

การล้างพิษตับ หรือ Liver Detox ไม่ใช่แค่การกำจัดสารพิษออกจากร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ 

ประโยชน์ของการล้างพิษตับมีมากมาย อาทิ

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ: เมื่อขับสารพิษออกจากตับ ตับจะสามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายสามารถย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร และขจัดของเสียได้ดีขึ้น 
  • ลดความเสี่ยงของโรคตับ: การล้างพิษตับช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตับ เช่น โรคไขมันพอกตับ ตับอักเสบ และมะเร็งตับ ซึ่งเป็นภัยเงียบที่อาจคุกคามชีวิตได้
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ตับมีบทบาทสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การล้างพิษตับช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ ทำให้ร่างกายสามารถรับมือกับเชื้อโรคและภัยคุกคามต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มพลังงานและความสดชื่น: เมื่อตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานมากขึ้น พร้อมสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน
  • ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง: ตับทำหน้าที่กรองและขจัดสารพิษออกจากเลือด เมื่อตับทำงานได้ดีขึ้น ผิวพรรณก็จะดูสดใส เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดีขึ้น
  • ลดอาการภูมิแพ้: การล้างพิษตับอาจช่วยลดอาการภูมิแพ้บางชนิดได้ เนื่องจากตับมีบทบาทในการควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับอาการภูมิแพ้ที่คอยกวนใจ

อาการแบบไหนที่ควรล้างพิษตับ

ตับเปรียบเสมือน “โรงงานกำจัดของเสีย” ที่ทำงานอย่างหนักตลอดเวลา แต่เมื่อไรที่ตับเริ่มอ่อนล้า หรือรับภาระหนักเกินไป ก็จะส่งสัญญาณเตือนออกมาในรูปแบบของอาการต่างๆ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาที่ต้อง ล้างพิษตับ 

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจต้องการล้างพิษตับ ได้แก่:

  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย: รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แม้จะนอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้ว อาจเป็นสัญญาณว่าตับกำลังทำงานหนักเกินไป จนไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่
  • ปวดศีรษะไมเกรน: ปวดศีรษะเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณขมับหรือหน้าผาก ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสารพิษที่สะสมในตับและส่งผลต่อระบบประสาท
  • ท้องอืด อาหารไม่ย่อย: รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย แม้จะรับประทานอาหารในปริมาณไม่มาก อาจเป็นเพราะตับผลิตน้ำดีได้ไม่เพียงพอ ทำให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ
  • ภูมิแพ้กำเริบ: มีอาการภูมิแพ้ต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก ผื่นคัน หรือหอบหืดกำเริบ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ตับทำงานได้ไม่เต็มที่ในการกำจัดสารก่อภูมิแพ้
  • ผิวพรรณหมองคล้ำ มีปัญหาสิว: สารพิษที่สะสมในตับอาจส่งผลให้ผิวพรรณหมองคล้ำ ไม่สดใส และเกิดปัญหาสิวได้ง่าย เนื่องจากตับไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีกลิ่นตัวแรง: กลิ่นตัวที่รุนแรงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าตับกำลังทำงานหนักในการขจัดสารพิษ และไม่สามารถกำจัดได้หมด ทำให้สารพิษบางส่วนถูกขับออกมาทางเหงื่อและลมหายใจ
  • การเปลี่ยนแปลงของเสียในร่างกาย: เช่น ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระมีสีซีด หรือมีกลิ่นแรง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติในการทำงานของตับ

หากคุณมีอาการเหล่านี้ หรือสงสัยว่าตับของคุณอาจกำลังทำงานหนักเกินไป การล้างพิษตับอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพตับและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตับได้

การล้างพิษตับเหมาะกับใคร

การล้างตับขับสารพิษไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพตับเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง หรือต้องการดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ

  • ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ: แอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสารพิษที่ส่งผลเสียต่อตับมากที่สุด การล้างพิษตับจะช่วยลดภาระของตับและช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับที่เสียหายจากการดื่มแอลกอฮอล์
  • ผู้ที่สูบบุหรี่จัด: บุหรี่มีสารพิษหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อตับ การล้างพิษตับจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่จัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคตับ
  • ผู้ที่รับประทานยาหรืออาหารเสริมเป็นประจำ: ยาและอาหารเสริมบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงต่อตับ การล้างพิษตับจะช่วยขจัดสารตกค้างจากยาและอาหารเสริมเหล่านี้ออกจากร่างกาย
  • ผู้ที่สัมผัสกับสารเคมีหรือมลภาวะเป็นประจำ: หากคุณทำงานหรืออาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะสูง หรือต้องสัมผัสกับสารเคมีเป็นประจำ การล้างพิษตับจะช่วยลดการสะสมของสารพิษในร่างกาย
  • ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคตับ: หากคุณมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคตับ เช่น โรคตับอักเสบ หรือมะเร็งตับ คุณอาจมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคตับเช่นกัน การล้างพิษตับเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว
  • ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน: แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ การล้างพิษตับก็เป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพตับและป้องกันการเกิดโรคในอนาคต
  • ผู้ที่มีอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะไมเกรน ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ภูมิแพ้กำเริบ ผิวพรรณหมองคล้ำ หรือมีกลิ่นตัวแรง: อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตับของคุณต้องการการล้างพิษ

การล้างพิษตับจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตับ

การฟื้นฟูตับทำอย่างไรบ้าง

การล้างสารพิษในตับ เป็นกระบวนการที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของตับ ทำให้ตับสามารถกรองและขจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตับ

ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย การฟื้นฟูตับจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ตับสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตับ

มี 6 วิธีการหลักๆ ที่สามารถทำได้ คือ

1. ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร:

เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีนจากปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ลดอาหารแปรรูป อาหารรสจัด

2. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ: 

ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เพื่อให้ตับทำงานได้อย่างเป็นปกติ

3. งดอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นพิษต่อตับ: 

เช่น แอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำตาล อาหารที่มีไขมันสูง

4. พักผ่อนให้เพียงพอ:

การพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง ลดความเครียด ช่วยให้ร่างกายขับสารพิษ ทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ 

5. ทำ Liver Detox IV Drip

การดริปวิตามิน หรือการทำ IV drip สูตร Liver Detox คือการให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยตรงเข้าสู่หลอดเลือดดำ เพื่อช่วยล้างพิษตับ เป็นวิธีการล้างพิษที่ตรงจุด ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ  และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อควรระวังในการล้างพิษตับ

การขับสารพิษในตับเป็นกระบวนการที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของตับ แต่การล้างพิษตับก็มีความเสี่ยง และผลข้างเคียง เช่นกัน ดังนั้น จึงควรศึกษาข้อมูลและข้อควรระวังอย่างละเอียด เพื่อให้การล้างพิษตับปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี

ข้อควรระวังในการล้างพิษตับ มีดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์ก่อนล้างพิษตับ: โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ หรือผู้ที่กำลังทานยาอยู่ เพราะการล้างพิษตับอาจส่งผลกระทบต่อยาที่ทานอยู่ หรืออาจมีผลข้างเคียงกับโรคประจำตัว
  • หลีกเลี่ยงการล้างพิษตับด้วยตัวเอง: การล้างพิษตับด้วยตัวเองอาจเป็นอันตราย โดยเฉพาะการใช้ยา สมุนไพรบํารุงตับ วิตามินอาหารเสริมต่างๆ  หรือน้ำปั่นดีท็อกซ์ ควรปรึกษาแพทเพื่อให้คำแนะนำที่ถูกต้อง 
  • ไม่ควรล้างพิษตับบ่อยเกินไป: การล้างพิษตับบ่อยเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร หรือเกิดความไม่สมดุลในร่างกาย ควรล้างพิษตับ ปีละ 1-2 ครั้ง หรือตามคำแนะนำของแพทย์

ตรวจล้างพิษตับได้ที่ S’RENE คลินิกสุขภาพคนเมือง

ตับเป็นอวัยวะสำคัญ เปรียบเสมือนโรงงานกำจัดของเสีย ทำหน้าที่กรองและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ทั้งสารพิษจากอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรือแม้กระทั่งมลภาวะต่างๆ ทำให้ตับทำงานหนักตลอดเวลา ถ้าตับอ่อนล้า ทำงานหนักเกินไป ก็ส่งผลต่อสุขภาพของคุณทั้งภายในและภายนอก อาจเกิดปัญหาต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ ผิวพรรณหมองคล้ำ หรือแม้กระทั่งโรคตับร้ายแรง

S’RENE by SLC คลินิกสุขภาพคนเมือง เข้าใจถึงความสำคัญของสุขภาพตับ เรามีบริการล้างพิษตับด้วยการทำ IV Drip สูตร Liver Detox ที่ช่วยฟื้นฟูตับให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยขจัดสารพิษที่สะสมในตับ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคตับ เช่น โรคไขมันพอกตับ ตับอักเสบ และยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้ การล้างพิษตับยังช่วยเพิ่มพลังงาน ทำให้รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา และช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง มีสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการภูมิแพ้

S’RENE by SLC พร้อมดูแลคุณ ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน พร้อมให้คำปรึกษาบริการ IV Drip สูตร Liver Detox และดูแลปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างองค์รวม

อย่าปล่อยให้ปัญหาตับเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือจองคิวปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ S’RENE by SLC ได้แล้ววันนี้

  • สาขาทองหล่อ  064 184 5237
  • สาขา Charn แจ้งวัฒนะ ชั้น 2  099 807 7261
  • สาขา Paradise Park ชั้น 3  081 249 7055
  • LINE: @SRENEbySLC หรือคลิก https://bit.ly/3IlXtvw

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Casas-Grajales, S., & Muriel, P. (2015). Antioxidants in liver health. World journal of gastrointestinal pharmacology and therapeutics, 6(3), 59–72. https://doi.org/10.4292/wjgpt.v6.i3.59 

Gupta, M. (2024, June 13). Liver cleanse: How to detox your liver naturally. PSRI Hospital. https://psrihospital.com/simple-ways-to-detox-your-liver/  

WebMD. (2024, May 25). Liver detox: Definition, facts, safety. WebMD. https://www.webmd.com/digestive-disorders/liver-detox  

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่