เคยสงสัยไหมว่าทำไมผิวพรรณถึงดูเปล่งปลั่งในบางช่วง? หรือทำไมรอบเดือนจึงมีความเปลี่ยนแปลง? ทุกอย่างนี้อาจมี “ฮอร์โมนเอสโตรเจน” เป็นตัวแปรสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะเพศหญิง แล้ว Estrogen คืออะไรกันนะ?
ในระบบร่างกายของมนุษย์ทุกคน จะมี Estrogen ซึ่งถือเป็นฮอร์โมนหลักในกลุ่มเพศหญิง แต่ก็มีอยู่ในร่างกายของผู้ชายด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะมีในปริมาณที่น้อยกว่า โดยฮอร์โมนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการควบคุมระบบสืบพันธุ์ แต่ยังมีผลต่ออารมณ์ กระดูก ผิวพรรณ และสุขภาพโดยรวมอีกด้วย ซึ่งถ้าแยกย่อยประเภทของฮอร์โมนเพศหญิงที่มีอยู่ในกลุ่ม Estrogen ก็สามารถแบ่งออกมาได้เป็น Estradiol, Estrone และ Estriol ซึ่งทุกตัวล้วนมีความสำคัญหมด
วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Estrogen อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความหมาย หน้าที่ และประเภทต่าง ๆ ที่พบในร่างกาย เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของฮอร์โมนนี้และวิธีดูแลสมดุลในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น!
ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?
Estrogen คือ ฮอร์โมนเพศหญิงที่ผลิตจากรังไข่เป็นหลัก โดยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของระบบสืบพันธุ์และสุขภาพโดยรวมของผู้หญิง นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมรอบเดือน ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และส่งผลต่อการเติบโตของลักษณะต่าง ๆ ของเพศหญิง เช่น เต้านม ผิวพรรณ และการเจริญเติบโตของอวัยวะเพศ
ประเภทของ Estrogen ในร่างกาย
ภายในระบบของร่างกายจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยที่พบได้บ่อยก็จะมีอยู่ 3 ชนิดหลัก ได้แก่
- Estradiol (E2)
เป็นรูปแบบของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีความเข้มข้นมากที่สุดในช่วงวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิง โดย Estradiol คือ ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของมดลูก เต้านม และช่วยในการควบคุมรอบเดือน นอกจากนี้ยังมีผลต่อสุขภาพกระดูกและการทำงานของสมอง - Estrone (E1)
เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนที่พบในช่วงวัยหมดประจำเดือน มีความเข้มข้นต่ำกว่า Estradiol และถูกผลิตจากเซลล์ไขมันและต่อมหมวกไต - Estriol (E3)
เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ โดยถูกผลิตจากรกและมีบทบาทสำคัญในการเสริมสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์
บทบาทและหน้าที่ของ Estrogen ในร่างกาย ทำไมถึงต้องคอยปรับสมดุล
Estrogen คือ ฮอร์โมนเพศที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มเพศหญิง นอกจากการส่งเสริมลักษณะเฉพาะทางเพศแล้ว ยังมีผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายอีกมากมาย ซึ่งบทบาทสำคัญของ เอสโตรเจน ที่ควรรู้ มีดังนี้
1. บทบาทในระบบสืบพันธุ์
- กระตุ้นการเจริญเติบโตของมดลูกและอวัยวะเพศหญิง
- ควบคุมการตกไข่และรอบเดือนให้เป็นปกติ
- เตรียมมดลูกสำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต
2. บทบาทในระบบกระดูก
- ช่วยเสริมสร้างและคงความแข็งแรงของกระดูก
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือนเมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
3. บำรุงผิวพรรณ
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง
- ลดการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
4. ควบคุมอารมณ์และสมอง
- ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ ลดความเสี่ยงต่อความเครียดหรือภาวะซึมเศร้า
- มีผลต่อความจำและการทำงานของสมองในระยะยาว
5. ดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL)
- เสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
6. บทบาทในการพัฒนาลักษณะทางเพศในผู้หญิง
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเต้านมในช่วงวัยเจริญพันธุ์
- มีบทบาทในการกระตุ้นลักษณะเฉพาะของเพศหญิง เช่น เสียงที่นุ่มนวลและโครงสร้างร่างกาย
7. ควบคุมระบบเผาผลาญ
- มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและควบคุมน้ำหนัก
- ลดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องในช่วงวัยเจริญพันธุ์
8. กระตุ้นการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ
- ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนการทำงานของระบบขับถ่ายและการไหลเวียนของเลือด
ฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่ได้มีผลต่อการสืบพันธุ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงการดูแลสุขภาพโดยรวม ดังนั้น การรักษาสมดุลของฮอร์โมนนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ หากมีความผิดปกติเกี่ยวกับระดับฮอร์โมน เช่น อาการของฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงหรือต่ำ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อสุขภาพของแต่ละคน
การเปลี่ยนแปลงของระดับ Estrogen ในแต่ละช่วงวัย
ระดับของ ฮอร์โมนเอสโตรเจน มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัย ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายและสุขภาพในหลายด้าน จนไปถึงการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบในแต่ละทุกช่วงวัย
Estrogen ในช่วงวัยรุ่น
- เริ่มต้นการผลิตฮอร์โมน: ร่างกายเริ่มผลิตเอสโตรเจนจากรังไข่ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น (ช่วงอายุ 8–13 ปี) ซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์
- กระตุ้นการพัฒนาลักษณะทางเพศ: ฮอร์โมนเอสโตรเจนช่วยกระตุ้นการพัฒนาเต้านมและการเติบโตของมดลูก รวมถึงลักษณะทางเพศหญิงอื่น ๆ เช่น เสียงที่นุ่มนวลและรูปร่างที่เปลี่ยนแปลง
- เริ่มต้นรอบเดือน: เอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในกระบวนการตกไข่และการมีประจำเดือนครั้งแรก (Menarche)
- ผลกระทบทางอารมณ์: ระดับเอสโตรเจนที่แปรปรวนอาจทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนและปัญหาสิวในวัยรุ่น
การเปลี่ยนแปลงของ Estrogen ในวัยเจริญพันธุ์
- ระดับเอสโตรเจนสูงสุด: ในวัยเจริญพันธุ์ (ช่วงอายุ 20–35 ปี) ระดับเอสโตรเจนอยู่ในช่วงสูงสุด ทำให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
- ควบคุมระบบสืบพันธุ์: เอสโตรเจนช่วยควบคุมการตกไข่ การเจริญเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูก และการมีรอบเดือนที่สม่ำเสมอ
- ส่งเสริมผิวพรรณ: ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และมีความชุ่มชื้น เนื่องจากเอสโตรเจนกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- ดูแลสุขภาพกระดูก: ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อกระดูกพรุนในระยะนี้
- ผลกระทบทางอารมณ์: ระดับเอสโตรเจนที่สมดุลช่วยลดความเครียดและส่งผลดีต่ออารมณ์โดยรวม
Estrogen ในวัยหมดประจำเดือน (Menopause)
- ลดการผลิตฮอร์โมน: เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (ช่วงอายุ 45–55 ปี) รังไข่จะหยุดผลิตเอสโตรเจน ทำให้ระดับฮอร์โมนลดลงอย่างรวดเร็ว
- ผลกระทบต่อรอบเดือน: การหมดประจำเดือนเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายไม่มีการตกไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกไม่ถูกสร้างขึ้นอีกต่อไป
- ส่งผลต่อกระดูก: ระดับเอสโตรเจนต่ำทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
- ผลกระทบต่อระบบหัวใจ: การลดลงของเอสโตรเจนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- อาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกตอนกลางคืน: เป็นอาการที่พบบ่อยในวัยนี้ เนื่องจากระบบฮอร์โมนที่ไม่สมดุล
- ผลต่ออารมณ์และสมอง: บางคนอาจรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล หรือมีปัญหาเรื่องความจำ
- ผลต่อผิวพรรณ: ผิวเริ่มแห้งและสูญเสียความยืดหยุ่น เนื่องจากการผลิตคอลลาเจนลดลง
การดูแลฮอร์โมนเอสโตรเจนในแต่ละช่วงวัย
การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของเอสโตรเจนในแต่ละช่วงวัยช่วยให้เราสามารถปรับตัวและดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น เช่น การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนจากธรรมชาติ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮอร์โมน
การรักษาและการปรับสมดุลของ Estrogen
การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน (HRT)
ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy หรือ HRT) เป็นวิธีการรักษาที่ใช้ในกรณีที่ระดับเอสโตรเจนในร่างกายต่ำกว่าปกติ โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหรือผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพจากการลดลงของเอสโตรเจน
วิธีการธรรมชาติในการปรับสมดุล Estrogen
หากไม่ต้องการใช้ฮอร์โมนทดแทน การปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนด้วยวิธีธรรมชาติก็เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัย โดยสามารถทำได้ผ่านวิถีชีวิตประจำวันดังนี้
1. การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มหรือปรับสมดุล Estrogen
- อาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogens): เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ เมล็ดแฟลกซ์ และธัญพืชต่าง ๆ ช่วยเพิ่มเอสโตรเจนจากธรรมชาติในร่างกาย
- ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ: เช่น บรอกโคลี ผักโขม และเบอร์รี ช่วยลดการสะสมของเอสโตรเจนเกินในร่างกาย
- ไขมันดี: เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก และปลาแซลมอน ช่วยเสริมสุขภาพฮอร์โมนโดยรวม
- หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มการสะสมของเอสโตรเจน: เช่น อาหารแปรรูป ไขมันทรานส์ และน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้ระดับเอสโตรเจนเสียสมดุล
2. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว วิ่ง หรือว่ายน้ำ ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนให้สมดุลและลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นแหล่งผลิตเอสโตรเจนเกิน
- การฝึกโยคะและการทำสมาธิ ช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความไม่สมดุลของฮอร์โมน
3. การพักผ่อนและการลดความเครียด
- การนอนหลับให้เพียงพอ (7-9 ชั่วโมงต่อวัน) มีผลต่อการทำงานของระบบฮอร์โมน
- การผ่อนคลายด้วยกิจกรรมที่ชอบ เช่น ฟังเพลง หรือใช้เวลากับธรรมชาติ ช่วยลดความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิต
Estrogen กับ Progesterone ต่างกันอย่างไร?
Estrogen และ Progesterone เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ระบบสืบพันธุ์และร่างกายทำงานอย่างสมดุล แต่มีหน้าที่ต่างกัน ดังนี้
- Estrogen
- กระตุ้นพัฒนาการของลักษณะทางเพศหญิง เช่น มดลูกและเต้านม
- ควบคุมรอบเดือนและส่งเสริมการตกไข่
- ช่วยเสริมสุขภาพกระดูกและผิวพรรณ
- Progesterone
- เตรียมมดลูกสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนในระหว่างการตั้งครรภ์
- ควบคุมการตั้งครรภ์และลดการหดตัวของมดลูก
- ส่งเสริมสมดุลของฮอร์โมนในรอบเดือน
FAQ: ทำไม Estrogen คือฮอร์โมนที่ไม่ควรมองข้าม!
Q: Estrogen ทำหน้าที่อะไรในร่างกาย?
ตอบ: Estrogen เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะเพศหญิงและการทำงานของระบบสืบพันธุ์ เช่น การควบคุมรอบเดือนและการตั้งครรภ์
Q: อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับ Estrogen เปลี่ยนแปลง?
ตอบ:
- การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ: ในวัยเจริญพันธุ์ ระดับเอสโตรเจนจะเพิ่มขึ้นตามรอบเดือน ขณะที่ในวัยหมดประจำเดือน ระดับจะลดลงเนื่องจากรังไข่หยุดการผลิต
- การตั้งครรภ์: ระดับเอสโตรเจนจะเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของตัวอ่อนในมดลูก
- ความผิดปกติของฮอร์โมน: เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ
- ปัจจัยภายนอก: เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ความเครียด การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือโรคเรื้อรัง
Q: ระดับ Estrogen ต่ำส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?
ตอบ: ระดับ Estrogen ต่ำ สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้หลายด้าน เช่น ทำให้ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปกติ ผิวแห้ง ผมร่วง อารมณ์แปรปรวน หรือรู้สึกซึมเศร้า นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เนื่องจากความหนาแน่นของกระดูกลดลง รวมถึงอาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกในตอนกลางคืนที่มักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวมในระยะยาวหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
Q: Estrogen สูงเกินไปมีผลเสียไหม?
ตอบ: มีผลเสีย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำหนักขึ้น อารมณ์แปรปรวน และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม
Q: การเสริม Estrogen มีผลข้างเคียงไหม?
ตอบ: อาจมีอาการบวม น้ำหนักขึ้น หรือความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
Q: ใครที่มีความเสี่ยงต่อการขาด Estrogen?
ตอบ:
- ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
- ผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมนผิดปกติ
- ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดรังไข่
Q: ควรปรึกษาแพทย์เมื่อใด?
ตอบ: หากมีอาการขาดฮอร์โมน หรือมีอาการที่บ่งบอกว่าฮอร์โมนไม่สมดุล ควรรีบปรึกษาแพทย์ พร้อมวางแผนใช้ฮอร์โมนเสริม และรับคำแนะนำเฉพาะทาง
สรุปว่า Estrogen คือฮอร์โมนเพศที่สำคัญ ควรตรวจระดับฮอร์โมนอยู่เสมอและปรับสมดุลให้สุขภาพดี!
Estrogen คือฮอร์โมนเพศที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาททั้งในระบบสืบพันธุ์ สุขภาพกระดูก ผิวพรรณ และอารมณ์ การรักษาสมดุลของฮอร์โมนนี้ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ แต่ยังส่งเสริมสุขภาพโดยรวมในระยะยาว ดังนั้นอย่าลืมตรวจเช็กและปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างมั่นใจ
สำหรับที่ซีรีน เรามีบริการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพศจากผลเลือดกับโปรแกรม His & Her Wellness Lab Check Up (15,900 บาท) โดยมีการตรวจ 13 รายการ พร้อมทั้งอ่านผล และหาสาเหตุปัญหาสุขภาพ รวมถึงทางออกให้กับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างยั่งยืน โดยแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ป้องกัน
ใครที่กำลังมีปัญหาในเรื่องฮอร์โมนไม่สมดุล หรือสนใจปรึกษาเรื่องฮอร์โมน สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ S’RENE by SLC สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ทุกสาขา
▪️ สาขา ทองหล่อ – โทร 064 184 5237
▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
_________________________________________________________
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Estrogen: Types, Function, and Health Implications. Medical News Today.
https://www.medicalnewstoday.com/articles/277177
Estrogen Overview. Cleveland Clinic.
https://my.clevelandclinic.org/health/body/22353-Estrogen
Estrogen. National Center for Biotechnology Information (NCBI).
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK538260/
Estrogen and Women’s Emotions: Effects and Insights. WebMD.
https://www.webmd.com/women/Estrogen-and-womens-emotions
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่