โปรแกรม นวดแผนไทย ประยุกต์ ฟื้นฟูสุขภาพอย่างตรงจุด รักษาปวดเมื่อยแบบองค์รวม
ชีวิตเร่งรีบ ร่างกายอ่อนล้า ปวดเมื่อยตามมา
ชีวิตคนเมืองในปัจจุบันต้องเผชิญกับความเร่งรีบและความเครียดในทุกๆ วัน การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ หรือแม้แต่การยืนเดินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย ตึงตามกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย
หลายคนอาจคุ้นเคยกับอาการปวดตึงที่คอ บ่า และไหล่ ปวดหลัง นิ้วล็อก หรือข้อเข่าเสื่อม ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ยังกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและคุณภาพชีวิตโดยรวม
การแก้ปัญหาอาการเหล่านี้ หลายคนมักพึ่งยาแก้ปวดหรือปล่อยให้หายเอง ซึ่งเป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุและไม่ได้แก้ไขที่ต้นตอของปัญหา โปรแกรม นวดแผนไทย ประยุกต์ หรือ Medical Manual Massage (TH) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยผสมผสานระหว่างศาสตร์การแพทย์แผนไทยดั้งเดิมกับความรู้ทางการแพทย์สมัยใหม่
อาการและปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในคนเมือง
Office Syndrome ภัยเงียบของคนทำงาน
“Office Syndrome” หรืออาการป่วยจากการทำงานในออฟฟิศ เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการอยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
อาการที่พบบ่อยได้แก่:
- ปวดตึงคอ บ่า และไหล่
- ปวดหลังส่วนล่าง
- อาการชาที่นิ้วมือหรือแขน
- ปวดข้อมือจากการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด
- ปวดศีรษะเนื่องจากความตึงที่คอและต้นคอ
- อาการตาล้า วิงเวียน จากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ การขาดการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวที่ไม่เพียงพอ ยังส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบการเผาผลาญช้าลง และเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงาน
อาการปวดเมื่อยเรื้อรังไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายทางร่างกาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย เมื่อร่างกายเจ็บปวด การจดจ่อกับงานจะลดลง อารมณ์หงุดหงิดเพิ่มขึ้น และความสุขในชีวิตประจำวันก็ลดน้อยลงไปด้วย
หลายคนพยายามทนกับอาการเหล่านี้ด้วยการพึ่งยาแก้ปวด ซึ่งนำมาซึ่งผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น ปัญหาระบบทางเดินอาหารและตับ หรือการพึ่งพายาที่มากเกินไป
การแก้ไขที่ต้นเหตุด้วยวิธีที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน โปรแกรมนวดแผนไทยประยุกต์ที่ผสมผสานศาสตร์การแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ศาสตร์การ นวดแผนไทย และการประยุกต์ใช้
จากภูมิปัญญาดั้งเดิมสู่การแพทย์แผนไทยประยุกต์
การนวดแผนไทยมีประวัติอันยาวนาน สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และมีการบันทึกความรู้ไว้ในตำราหรือจารึกต่างๆ ในอดีต การนวดเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ไม่เพียงแต่บรรเทาอาการเจ็บป่วย แต่ยังช่วยคงความสมดุลของร่างกายและจิตใจ
ในปัจจุบัน ศาสตร์การนวดแผนไทยได้ถูกพัฒนาและผสมผสานกับความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน เกิดเป็น “การแพทย์แผนไทยประยุกต์” ที่นำเอาองค์ความรู้ทางการแพทย์สมัยใหม่ เช่น กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิวิทยา และเภสัชวิทยา มาประยุกต์ใช้ร่วมกับหลักการแพทย์แผนไทยดั้งเดิม
ความแตกต่างระหว่างนวดแผนไทยทั่วไปกับนวดแผนไทยประยุกต์
การนวดแผนไทยทั่วไปมักเน้นการนวดตามเส้นประสาทและจุดสำคัญตามตำราโบราณ แต่การนวดแผนไทยประยุกต์จะมีการวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพตามหลักกายวิภาคและสรีรวิทยาก่อน เพื่อให้การรักษาตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของการนวดแผนไทยประยุกต์ คือ:
- การวินิจฉัยโดยอาศัยความรู้ทางการแพทย์สมัยใหม่
- เทคนิคการนวดที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
- การใช้เครื่องมือสมัยใหม่เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
- การให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพที่เป็นองค์รวมตาม
การผสมผสานความรู้แผนปัจจุบัน
แพทย์แผนไทยประยุกต์ได้รับการศึกษาทั้งในด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนปัจจุบัน ทำให้สามารถประเมินอาการของผู้รับบริการได้อย่างครอบคลุม เข้าใจกลไกการเกิดโรคและอาการปวด รวมถึงสามารถเลือกใช้เทคนิคการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์ช่วยให้แพทย์แผนไทยประยุกต์เข้าใจถึงตำแหน่งของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ขณะที่ความรู้ด้านสรีรวิทยาทำให้เข้าใจการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย และสามารถอธิบายให้ผู้รับบริการเข้าใจถึงสาเหตุของอาการและวิธีการดูแลตนเองที่ถูกต้อง
โปรแกรม นวดแผนไทย ประยุกต์ที่ S’RENE by SLC
ที่ S’RENE by SLC มีโปรแกรมการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ผสมผสานกับวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้รับบริการ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว และฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างเป็นองค์รวม
โปรแกรม Medical Manual Massage (TH) หรือโปรแกรมการนวดแผนไทยประยุกต์ เป็นการรักษาด้วยเทคนิคการนวดเฉพาะทางที่ผสมผสานความรู้ทางการแพทย์ โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์จะทำการตรวจวินิจฉัย ค้นหาจุดที่กล้ามเนื้ออักเสบหรือตึงตัวมากกว่าปกติ รวมถึงบริเวณที่มีพังผืด เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
ขั้นตอนการรักษา
- การตรวจวินิจฉัย – แพทย์แผนไทยประยุกต์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อค้นหาสาเหตุของอาการปวดเมื่อย พร้อมทั้งค้นหาจุดที่กล้ามเนื้อตึงตัวหรือมีพังผืด
- การนวดรักษา – ใช้เทคนิคการนวดเฉพาะเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว ลดการอักเสบ และเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณที่มีปัญหา โดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
- การประคบอุ่น – หลังจากการนวด จะมีการประคบอุ่นด้วย Thermo Pad หรือแผ่นให้ความร้อนด้วยไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดและช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
เทคนิคการนวดใน Medical Manual Massage (TH) มีความแตกต่างจากการนวดทั่วไป เนื่องจากแพทย์แผนไทยประยุกต์จะใช้ความรู้ทางกายวิภาคศาสตร์ในการค้นหาและรักษาตรงจุดที่มีปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่การนวดคลายเส้นทั่วไป ทำให้สามารถบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดมากยิ่งขึ้น
นวดนักกีฬา Sport Massage ในโปรแกรม Medical Manual Massage (TH)
โปรแกรม Medical Manual Massage (TH) ที่ S’RENE by SLC สามารถปรับใช้เทคนิค Sport Massage สำหรับนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักได้ด้วย เพื่อช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย ป้องกันการบาดเจ็บ และเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย
เช่นเดียวกับการนวดรักษาทั่วไป การนวดแบบ Sport Massage จะตามด้วยการประคบอุ่นด้วย Thermo Pad เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์จะปรับเทคนิคการนวดให้เหมาะสมกับชนิดกีฬาและความต้องการเฉพาะของผู้รับบริการแต่ละคน
ประโยชน์และจุดเด่นของโปรแกรม นวดแผนไทย ประยุกต์
โปรแกรม นวดแผนไทย ประยุกต์มีประโยชน์อย่างไร
โปรแกรมนวดแผนไทยประยุกต์มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ดังนี้:
- บรรเทาอาการปวดเมื่อย – ลดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ซึ่งพบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ
- คลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว – ช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกและลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บ
- เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ – ป้องกันอาการข้อติดและเพิ่มขอบเขตการเคลื่อนไหว
- กระตุ้นการไหลเวียนเลือด – เพิ่มการนำออกซิเจนและสารอาหารสู่เซลล์ และช่วยกำจัดของเสีย
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล – ส่งเสริมการหลั่งสารแห่งความสุขในร่างกาย
- ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น – ร่างกายผ่อนคลายส่งผลให้คุณภาพการนอนดีขึ้น
จุดเด่นของโปรแกรมนวดแผนไทยประยุกต์ที่ S’RENE by SLC
สิ่งที่ทำให้โปรแกรมนวดแผนไทยประยุกต์ที่ S’RENE by SLC แตกต่างจากสถานบริการอื่นๆ คือ:
การดูแลโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ – ผู้ให้บริการที่ S’RENE by SLC เป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์สามารถวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้องตามหลักการแพทย์
การผสมผสานเทคโนโลยีทางการแพทย์ – นอกจากการนวดด้วยมือแล้ว ยังมีการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น Thermo Pad เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
การรักษาที่ตรงจุด – ด้วยความรู้ทางกายวิภาคศาสตร์ แพทย์แผนไทยประยุกต์สามารถค้นหาและรักษาตรงจุดที่เป็นสาเหตุของอาการปวด ไม่ใช่เพียงการนวดคลายเส้นเพื่อความผ่อนคลายทั่วไป
การดูแลแบบองค์รวม – นอกจากการรักษาด้วยการนวด ยังมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับท่าทาง การออกกำลังกาย และการดูแลตนเองที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการกลับมาของอาการปวดในอนาคต
คำถามที่พบบ่อย
ควรนวดแผนไทยประยุกต์บ่อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสม?
การกำหนดความถี่ในการนวดแผนไทยประยุกต์ไม่มีกฎตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการนวดและสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญคือไม่ควรนวดติดต่อกันทุกวัน เพราะร่างกายต้องการเวลาในการปรับตัวและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับการกระตุ้นจากการนวด
ทั้งนี้ แพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ S’RENE by SLC จะประเมินสภาพร่างกายและให้คำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลาและความถี่ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ
มีข้อควรระวังและข้อห้ามในการนวดแผนไทยประยุกต์หรือไม่?
แม้ว่าการนวดแผนไทยประยุกต์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับบางกรณี ดังนี้:
ไม่ควรนวดในกรณี:
- มีไข้สูงหรือกำลังป่วยด้วยโรคติดเชื้อ
- มีอาการอักเสบเฉียบพลัน สังเกตจากอาการบวม แดง ร้อน
- มีบาดแผลเปิดหรือการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณที่จะนวด
- เพิ่งได้รับการผ่าตัดในระยะเวลาไม่เกิน 6 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัด)
- มีภาวะหลอดเลือดดำอักเสบหรือลิ่มเลือดอุดตัน
- มีโรคกระดูกพรุนรุนแรง
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนวดในกรณี:
- ตั้งครรภ์
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
- กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- เพิ่งได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
การเตรียมตัวและการปฏิบัติตัวหลังรับบริการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ:
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดรูปจนเกินไป หรือสามารถเปลี่ยนชุดที่ทางคลินิกจัดเตรียมไว้ให้
- แจ้งประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว และยาที่รับประทานอยู่ให้แพทย์แผนไทยประยุกต์ทราบ
- หากมีอาการปวดเฉพาะจุด ควรแจ้งให้แพทย์แผนไทยประยุกต์ทราบเพื่อให้การรักษาตรงจุด
การปฏิบัติตัวหลังรับบริการ:
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ใช้แรงมากในวันที่รับบริการ
- อาจรู้สึกปวดเมื่อยเล็กน้อยหลังการนวด ซึ่งเป็นเรื่องปกติและมักจะหายไปภายใน 24-48 ชั่วโมง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์แผนไทยประยุกต์เกี่ยวกับการดูแลตนเองต่อเนื่องที่บ้าน
สรุปและข้อมูลการติดต่อ
ในยุคที่ความเร่งรีบและความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ โปรแกรมนวดแผนไทยประยุกต์ที่ S’RENE by SLC นำเสนอทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ผสมผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับความรู้ทางการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด
ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน Office Syndrome ปัญหาข้อเข่าเสื่อม หรือเพียงต้องการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ โปรแกรมนวดแผนไทยประยุกต์สามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคุณได้
สามารถติดต่อเพื่อนัดหมายหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
- สาขาทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237
- สาขาชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร 099 807 7261
- สาขาพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
- สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
LINE Official: @SRENEbySLC หรือคลิก https://bit.ly/3IlXtvw