แก้ปัญหาน้องชายไม่แข็ง นกเขาไม่ขัน ผ่านศึกไม่ไหว! ด้วยการฉีด P Shot (PRP)

อีกหนึ่งเคล็ดลับของคุณผู้ชาย กับ S’RENE P Booster หรือ P Shot (PRP) โปรแกรมการรักษาที่จะมาเพิ่มความมั่นใจให้กับชายไทย เนื่องจากปัญหาเรื่อง ‘น้องชายไม่แข็ง’ ไม่สู้ดี หรือที่เรียกกันว่า “นกเขาไม่ขัน” ปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ของคุณผู้ชาย และสามารถเป็นได้ทุกวัย ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น โรคประจำตัวบางชนิด มีการใช้ยาบางตัว ความเครียด หรือมีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย เป็นต้น ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในตัวเอง และความสัมพันธ์ทางเพศของผู้ชายเป็นอย่างมาก

ทำให้ในปัจจุบัน มีวิธีการรักษาปัญหาน้องชายไม่แข็ง ผ่านศึกไม่ไหว ได้หลากหลายวิธี เช่น การใช้ยา การผ่าตัด และการฉีดสารเข้าบริเวณองคชาต ซึ่งวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ก็คือการฉีดสารเข้าบริเวณองคชาต หรือที่เรียกกันว่า “พีช็อต” กับโปรแกรมการรักษา S’RENE P Booster โดย S’RENE by SLC นั่นเอง

S’RENE P Booster หรือการรักษาด้วยการฉีด P-Shot คืออะไร? ช่วยอะไรคุณผู้ชายได้บ้าง?

S’RENE P Booster เป็นโปรแกรมรักษาด้วยการฉีด P Shot หรือก็คือสาร Platelet-Rich Plasma (PRP) เข้าไปที่บริเวณองคชาต ซึ่ง PRP เป็นสารที่ได้จากการสกัด Platelet Stem cell จากเลือดให้มีความเข้มข้นขึ้นมากถึง 10-20x โดยผ่านเครื่องมือที่ได้รับมาตรฐาน แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปที่เนื้อเยื่อฟองน้ำ บริเวณอวัยวะเพศ โดยที่สาร PRP จะมี Growth Factor อยู่หลายชนิด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้มีการซ่อมแซมหลอดเลือดฝอยให้แข็งแรงขึ้น และช่วยการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อบริเวณองคชาต พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณองคชาตได้ดีขึ้น ส่งผลให้น้องชายแข็งตัว ปึ๋งปั๋ง และอยู่ได้ยาวนานขึ้น

ทำไมต้อง S’RENE P Booster มีการฉีด P Shot แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?

สำหรับโปรแกรม S’RENE P Booster ที่ S’RENE by SLC จะเป็นโปรแกรมการรักษาด้วยพีช็อตที่ไม่ได้เป็นแค่การฉีดรักษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการให้บริการปรึกษา แก้ปัญหา และตรวจลึกลงไปถึงระดับฮอร์โมน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง หรือมีการแนะนําเฉพาะบุคคล มีการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้ ในแต่ละที่ยังมีเทคนิคในการรักษาที่ไม่เหมือนกัน นั่นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงทำให้ S’RENE by SLC มีการบริการที่แตกต่างจากที่อื่น ด้วยเทคนิคพิเศษ ของคุณหมอแมน – นายแพทย์ศิวพล ฐิตยารักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน His & Her and Preventive Wellness พร้อมให้บริการดูแลในเรื่องของสุขภาพทางเพศ อีกทั้งยังเป็นอาจารย์ผู้สอนที่ศูนย์สุขภาพทางเพศอีกด้วย ทำให้ในขณะเวลาฉีดผู้ที่มารับการรักษาจะรู้สึก Painless หรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย แถมยังได้ PRP ในปริมาณที่มากด้วย

จุดเด่นของโปรแกรม S’RENE P Booster

• เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง
• ไม่ต้องพักฟื้น
• ผลลัพธ์จากการทำ นั้นสามารถคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
• ช่วยเพิ่มขนาด และความแข็งตัวขององคชาต
• ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง และความสุขทางเพศ

อาการหย่อน หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สังเกตได้อย่างไร?

• ไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอหรือไม่สามารถรักษาการแข็งตัวเอาไว้ได้นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์
• การแข็งตัวของอวัยวะเพศอ่อนลงหรือหายไปในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
• ความต้องการทางเพศลดลง
• มีปัญหาในการหลั่งน้ำอสุจิ
• มีอาการเจ็บปวดหรือไม่สบายขณะมีเพศสัมพันธ์
• สามารถเช็กวัดระดับความแข็งได้ 4 ระดับ โดยระดับที่ 1 คือแตงกวาแข็ง ระดับที่ 2 คือกล้วยหอมยังไม่ได้ปอกเปลือก ระดับที่ 3 คือกล้วยหอมปอกเปลือก ระดับที่ 4 คือเต้าหู้ ซึ่งเป็นสกอร์ที่ไว้ใช้วัดถึงความแข็ง และถ้าหากความแข็งของน้องชายคุณอยู่ลำดับท้าย นั่นแสดงว่า เริ่มมีอาการหย่อนของสมรรถภาพทางเพศ ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน

การรักษาด้วยโปรแกรม S’RENE P Booster เหมาะกับใครบ้าง? 

S’RENE P Booster เหมาะสำหรับผู้ชายทุกวัย ที่มีปัญหาในเรื่องการแข็งตัวขององคชาต เช่น องคชาตแข็งตัวไม่เต็มที่ องคชาตแข็งตัวได้ไม่นาน หรือองคชาตไม่แข็งตัวเลย นอกจากนี้ P-Shot ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดขององคชาตให้ใหญ่ขึ้น และอึด ถึก ทนได้อีกด้วย แต่ก็สามารถแยกไปได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

• ผู้ชายที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีปัญหาการแข็งตัวน้อยลง หรือมีปัญหาที่ค่อนข้างรุนแรงแล้ว รวมไปถึงผู้สูงอายุที่เริ่มมีอาการนกเขาไม่ขัน
• ผู้ชายที่ยังไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่อยากป้องกันไว้ก่อน รวมไปถึงอยากจะเสริมความมั่นใจให้กับน้องชาย เพิ่มสัมผัสที่รู้สึกดีขึ้น และยังช่วยให้ตัวของน้องชายดูดีขึ้น

การเตรียมตัวก่อนรักษาด้วยโปรแกรม S’RENE P Booster

• นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
• ดื่มน้ำเยอะๆ
• งดทานของทอด หรืออาหารที่มีความมัน
• งดดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ ในวันที่จะมาทำ PRP และรับการรักษา
• ไม่ต้องงดน้ำ งดข้าว และให้เน้นอาหารสุขภาพ

ขั้นตอนการรักษาด้วยโปรแกรม S’RENE P Booster

1. แพทย์จะทำการซักประวัติ และตรวจร่างกายเบื้องต้น พร้อมพูดคุยสอบถามผู้ที่เข้ามารับการรักษา เพื่อประเมินความเหมาะสมในการทำพีช็อต
2. แพทย์จะทำการเจาะเลือดออกมาจากข้อพับ ในปริมาณ 20-30 ซีซี พร้อมนำเลือดใส่ลงไปในหลอด แล้วนำไปปั่น เพื่อแยกเอา PRP ออกมา
3. แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณองคชาต และฉีดยาชาเฉพาะที่ ระหว่างรอ PRP
4. เมื่อได้ PRP เรียบร้อยแล้ว แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เข้าไปยังบริเวณองคชาต โดยจะฉีดทั้งหมด 4-6 จุด (ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส)
5. หลังจากฉีดเสร็จแล้ว แพทย์จะให้ผู้เข้ารับการรักษา นอนพักประมาณ 30 นาที
6. ผู้เข้ารับการรักษา สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังจากฉีดพีช็อต

การดูแลตัวเองหลังการฉีด P Shot กับ S’RENE P Booster

โปรแกรมรักษาด้วยการฉีดพีช็อต เป็นวิธีการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันที และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในวันถัดไป โดยที่หลังทำจะไม่มีอาการบวม และจะไม่รู้สึกเจ็บ ถ้าหากรู้สึกเจ็บแสดงว่าทำด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง

*ข้อควรระวัง หลังจากแผลหายประมาณ 12 ชม. สามารถใช้งานน้องชายได้ตามปกติ แต่แนะนำว่า ควรงดการมีเพศสัมพันธ์หลังทำ 1 วัน หรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่ไม่ใช่พาร์ทเนอร์ เนื่องจากความเสี่ยงในการติดเชื้อ

หลังการฉีดพีช็อตกับ S’RENE P Booster จะเห็นผลลัพธ์ได้เร็วแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของการทำพีช็อต จะเริ่มเห็นได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยจะรู้สึกว่าองคชาตแข็งตัวได้ดี และยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความหนาขององคชาต และเพิ่มความไวต่อการสัมผัส ทำให้รู้สึกเสียวซ่าน รู้สึกสัมผัสได้ดีขึ้น สำหรับขนาด และวอลุ่มนั้น จะเห็นได้ทันทีหลังฉีด แต่ในเรื่องของเส้นเลือดนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดพีช็อตด้วยโปรแกรม S’RENE P Booster 

การฉีดพีช็อต ยังเป็นการเพิ่มขนาดแบบธรรมชาติ โดยในระยะยาวขนาดจะค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่จะไม่ได้ยาวขึ้น จากคนที่เคยมีขนาด 48-49 ก็อาจจะขยับมาเป็น 51-52 ในระยะยาว ระหว่างการรักษา ในส่วนของเส้นเลือดนั้น อาจจะใช้เวลาถึง 3-6 เดือน ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้น เพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ครั้งแรกที่ทำก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ขนาดที่ใหญ่ขึ้น หนักขึ้น แข็งตัวดีขึ้น

ควรฉีดพีช็อตกับโปรแกรม S’RENE P Booster กี่ครั้ง? 

ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และการประเมินของแพทย์ อาจจะต้องทำการรักษาด้วยพีช็อตกับ S’RENE P Booster จำนวน 1-3 ครั้ง เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง

จะต้องไปพบแพทย์หลังจากฉีด P Shot หรือไม่?

หลังจากทำการรักษาพีช็อตครบ 1 เดือน ควรมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อติดตามดูอาการหลังฉีดว่าเป็นอย่างไรบ้าง ควรจะเพิ่มอะไร หรือควรลดอะไรหรือเปล่า เช่น ผู้เข้ารับการรักษาอยากได้ผลลัพธ์ที่เพิ่มมากกว่านี้ ทางแพทย์ก็จะมีโปรแกรม หรือการรักษา รวมไปถึงวิตามินบำรุงอื่นๆ ให้ไปเสริมเพิ่มเติมในการรักษา

เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้ดียิ่งขึ้นด้วย Duo Therapy 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพขึ้น การรักษาอาการน้องชายไม่แข็ง ด้วยวิธีแบบ Duo Therapy ตอบโจทย์คนที่มีปัญหาค่อนข้างหนัก หรือต้องการผลลัพธ์แบบเห็นชัดเจน โดย Duo Therapy นั้น จะเป็นการรักษาด้วย การทำ Focus Shockwave Therapy  ที่เป็นการยิงคลื่นกระแทกชนิดโฟกัส เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอย และช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ควบคู่ไปกับการฉีดด้วย P Shot เพื่อให้น้องชายได้ฟื้นฟูแบบเต็มกำลัง มีพลังกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ต่อให้ทำการรักษาแบบใด แบบหนึ่ง จะดีอยู่แล้ว แต่พอทำคู่กัน ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่าเดิม

________________________________________________

ติดต่อจองคิว S’RENE by SLC ได้ที่

สาขา ทองหล่อ – โทร 064 184 5237
สาขา Charn แจ้งวัฒนะ – โทร  099 807 7261
สาขา Paradise Park ชั้น 3 – โทร  083 996 6959

LINE: @SRENEbySLC 

 

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่

Facebook: www.facebook.com/SrenebySLC

IG: www.instagram.com/srenebyslc

TikTok: www.tiktok.com/@srenebyslc