รายละเอียดบริการ

Service details

S’RENE Hormonal Balacne for Men โปรแกรม ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย T-Shot

คืนความฟิต เฟิร์ม เติมพลังชายกับ โปรแกรม Hormonal Balance for Men ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย T-Shot ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน

สอบถามข้อมูล

รายละเอียดบริการ

 

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือเผชิญกับความเครียดสะสม ผู้ชายหลายคนอาจเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คุ้นเคย พลังงานที่เคยเต็มเปี่ยมกลับลดลง ความฟิตของร่างกายไม่เหมือนเดิม หรือสมรรถภาพทางเพศที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าสมดุล “ฮอร์โมนเพศชาย” หรือ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) กำลังลดลง ดังนั้นการ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ และหนึ่งในวิธีที่ใช้กันนั่นก็คือการให้ฮอร์โมนทดแทนด้วยการฉีด หรือที่เรียกว่า T-Shot 

S’RENE by SLC เข้าใจดีว่า สุขภาพและความมั่นใจของผู้ชายเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้ออกแบบ โปรแกรม Hormonal Balance for Men ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้คุณผู้ชายกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง ฟิตสมบูรณ์ และเปี่ยมด้วยพลังอีกครั้ง ผ่านการ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย อย่างตรงจุด ด้วยการบำบัดด้วย T-Shot (Testosterone Injection) ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน

 

ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย Testosterone: กุญแจสำคัญสู่ความเป็นชาย 

เทสโทสเตอโรน คือ ฮอร์โมนหลักที่กำหนดลักษณะความเป็นชาย มีบทบาทสำคัญต่อ

  • สมรรถภาพทางเพศ: ควบคุมความต้องการทางเพศ (Libido) และการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
  • มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง: ช่วยเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  • มวลกระดูก: รักษามวลกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • ระดับพลังงานและอารมณ์: ช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉง ควบคุมอารมณ์ให้คงที่ มีสมาธิ
  • การเผาผลาญและไขมัน: ช่วยควบคุมการสะสมไขมันในร่างกาย

โดยธรรมชาติ ระดับเทสโทสเตอโรนจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ

 

สัญญาณเตือน “ฮอร์โมนเพศชายต่ำ” ที่ไม่ควรมองข้าม

เมื่อระดับเทสโทสเตอโรนในเลือดต่ำกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ จะเรียกว่า ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Male Hypogonadism) ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น (หลังอายุ 30-40 ปี ระดับฮอร์โมนมักค่อยๆ ลดลง), โรคประจำตัวบางชนิด (เช่น เบาหวาน, โรคอ้วน), การบาดเจ็บที่อัณฑะ, ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด หรือปัญหาที่ต่อมใต้สมอง

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ฮอร์โมนเพศชายยังสมดุลอยู่หรือไม่ โดยสามารถเข้าไปเช็กได้เบื้องต้นจากการทำ Adam Question และถ้าหากคุณกำลังประสบกับอาการเหล่านี้ ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Low Testosterone) หรือ ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายอยู่ก็ได้

  • อ่อนเพลียเรื้อรัง รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
  • ความต้องการทางเพศลดลง
  • สมรรถภาพทางเพศถดถอย อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่นาน (Erectile Dysfunction – ED)
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หรือมีภาวะซึมเศร้า
  • มวลกล้ามเนื้อลดลง แม้ออกกำลังกาย
  • มีไขมันสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะรอบเอว
  • ขาดสมาธิ ความจำไม่ดีเท่าเดิม
  • คุณภาพการนอนลดลง

*หมายเหตุสำคัญ: การวินิจฉัยภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำที่แน่นอน จำเป็นต้องได้รับการตรวจเลือด เพื่อ วัดระดับฮอร์โมน โดยแพทย์เท่านั้น เพื่อทำการรักษา และฟื้นฟู รวมถึง ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ได้อย่างถูกต้อง

 

คืนความฟิต เฟิร์ม เติมพลังชายกับ โปรแกรม Hormonal Balance for Men ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย T-Shot 

โปรแกรมของเราออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาฮอร์โมนเพศชายต่ำ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย อย่างเป็นระบบและปลอดภัย โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. การวินิจฉัยที่แม่นยำ: เริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ ซักประวัติอย่างละเอียด และ ตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน Testosterone และค่าอื่นๆ ที่จำเป็น (เช่น PSA สำหรับต่อมลูกหมาก, ความเข้มข้นเลือด)
  2. แผนการรักษาส่วนบุคคล: แพทย์จะวิเคราะห์ผลตรวจและอาการ เพื่อวางแผนการรักษาและ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย T-Shot ที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ ทั้งในด้านขนาดยาและความถี่
  3. การบำบัดที่มีประสิทธิภาพ: ดำเนินการรักษาด้วย T-Shot ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์
  4. การติดตามผลอย่างใกล้ชิด: มีการนัดหมายเพื่อติดตามอาการและ ตรวจเลือดเป็นระยะ เพื่อประเมินการตอบสนอง ปรับขนาดยา และเฝ้าระวังผลข้างเคียง

 

T-Shot คืออะไร? การฉีด Testosterone เพื่อการบำบัดที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย

T-Shot (Testosterone Shot) คือ หนึ่งในรูปแบบของการให้ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทดแทน (Testosterone Replacement Therapy – TRT) โดยเป็นการฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสังเคราะห์เข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่มักฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular Injection) เช่น บริเวณสะโพก หรือต้นขา

การฉีด T-Shot ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือใกล้เคียงปกติ เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมน ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยความถี่ในการฉีดจะแตกต่างกันไปตามชนิดของยาและดุลยพินิจของแพทย์ เช่น ทุก 1-4 สัปดาห์

 

ฉีด Testosterone (T-Shot) ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ช่วยอะไรบ้าง?

สำหรับผู้ชายที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย การฉีด T-Shot จะช่วย ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย และอาจบรรเทาอาการและส่งผลดีในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  • ปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศ: เพิ่มความต้องการทางเพศ (Libido) และช่วยเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
  • เพิ่มพลังงาน ลดความอ่อนเพลีย: รู้สึกกระฉับกระเฉง รู้สึกสดชื่น มีเรี่ยวแรงมากขึ้น เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เต็มที่
  • ปรับปรุงอารมณ์: ลดอาการซึมเศร้า ความหงุดหงิด ช่วยให้อารมณ์คงที่ขึ้น
  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง: ช่วยให้สร้างกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้นเมื่อออกกำลังกาย 
  • เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก: ลดความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนในระยะยาว
  • ควบคุมน้ำหนักและลดไขมัน: ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น ลดการสะสมไขมัน
  • ปรับปรุงสมาธิและอารมณ์: ช่วยให้โฟกัสได้ดีขึ้น อารมณ์มั่นคง ลดความหงุดหงิด ช่วยให้มีสมาธิดีขึ้น

ข้อดีของการรักษาด้วย T-Shot ภายใต้การดูแลของ S’RENE by SLC

  • ประสิทธิภาพสูง: เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่าสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมน และ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ควบคุมปริมาณยาแม่นยำ: แพทย์สามารถกำหนดขนาดยาที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล
  • แผนการรักษาสะดวก: ความถี่ในการฉีดไม่บ่อย (เช่น ทุก 1-4 สัปดาห์) ทำให้สะดวกในการจัดการตารางเวลา
  • ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ป้องกัน: มั่นใจได้ในความรู้ ความเชี่ยวชาญ และการดูแลที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์

ความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยง

แม้ว่า T-Shot จะมีประสิทธิภาพ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกับการรักษาอื่นๆ เช่น อาการบริเวณที่ฉีด, การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์, หรือการเปลี่ยนแปลงค่าเลือดบางอย่าง โปรแกรม Hormonal Balance for Men ของเราให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย โดย

  • ตรวจประเมินอย่างละเอียด: ก่อนเริ่มการรักษา เพื่อคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง
  • ตรวจเลือดติดตามสม่ำเสมอ: เฝ้าระวังค่าความเข้มข้นเม็ดเลือดแดง (Hematocrit) และค่า PSA (สำหรับต่อมลูกหมาก) อย่างใกล้ชิด
  • ปรับขนาดยาโดยแพทย์: เพื่อให้ได้ระดับฮอร์โมนที่เหมาะสมและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
  • ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด: ทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลหากมีอาการผิดปกติ

 

โปรแกรม ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย นี้เหมาะสำหรับใครบ้าง?

  • ผู้ชายที่มีอาการเข้าข่ายภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
  • ผู้ชายที่ ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ และผลตรวจเลือดยืนยันว่ามีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าเกณฑ์
  • ผู้ชายที่ต้องการฟื้นฟูพลังงาน สมรรถภาพทางกายและทางเพศ ความสดใส และคุณภาพชีวิตโดยรวม
  • ผู้ชายที่ต้องการโปรแกรมดูแลสุขภาพที่น่าเชื่อถือ มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

 

ข้อห้าม หรือ กลุ่มที่ไม่เหมาะกับการฉีด T-Shot (หรือต้องพิจารณาอย่างรอบคอบโดยแพทย์)

  • ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือ มะเร็งเต้านม
  • ผู้ที่มีค่า PSA (Prostate-Specific Antigen) สูงผิดปกติ หรือสงสัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดข้น (Polycythemia) คือมีเม็ดเลือดแดงสูงผิดปกติ
  • ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ชนิดรุนแรง ที่ยังไม่ได้รับการรักษา
  • ผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) ที่ควบคุมอาการไม่ได้
  • ผู้ชายที่ยังต้องการมีบุตรในอนาคต (เนื่องจาก TRT อาจยับยั้งการสร้างอสุจิ)

*หมายเหตุสำคัญ: T-Shot ไม่ใช่ ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศสำหรับคนปกติ, ไม่ใช่ยาสำหรับนักกีฬา หรือยาชะลอวัยสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีภาวะพร่องฮอร์โมน การใช้ในผู้ที่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์อาจเกิดโทษมากกว่าประโยชน์

 

ข้อดีของการฉีด Testosterone (T-Shot)

  • ประสิทธิภาพสูง: สามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระดับยาค่อนข้างคงที่ (ในบางรูปแบบ): รูปแบบที่ออกฤทธิ์นานอาจช่วยรักษาระดับฮอร์โมนได้ค่อนข้างคงที่กว่ารูปแบบอื่น
  • ความสะดวก: ความถี่ในการฉีดไม่บ่อยนัก (เช่น ทุก 1-4 สัปดาห์) เมื่อเทียบกับการทาเจลหรือแปะแผ่นแปะทุกวัน
  • อาจคุ้มค่ากว่า: ในบางประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อครั้งอาจถูกกว่า TRT รูปแบบอื่น

 

ข้อเสียและความเสี่ยงของการฉีด Testosterone (T-Shot)

การฉีด T-Shot ก็เหมือนกับการรักษาอื่นๆ ที่อาจมีข้อเสียและผลข้างเคียงได้:

  • ปฏิกิริยาบริเวณที่ฉีด: อาจมีอาการปวด บวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด
  • ระดับฮอร์โมนไม่คงที่ (Fluctuations): อาจเกิดภาวะ “Rollercoaster Effect” คือระดับฮอร์โมนขึ้นสูงหลังฉีด และค่อยๆ ลดลงก่อนถึงกำหนดฉีดครั้งต่อไป ทำให้มีอาการอารมณ์แปรปรวน หรือพลังงานไม่คงที่ได้ในบางราย
  • ภาวะเลือดข้น (Polycythemia): เพิ่มความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน ต้องตรวจเลือดติดตามอย่างสม่ำเสมอ
  • อาจทำให้อาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับแย่ลง
  • อาจกระตุ้นต่อมลูกหมากโต (BPH): ในผู้ที่มีภาวะนี้อยู่แล้ว หรืออาจเร่งการเจริญเติบโตของมะเร็งต่อมลูกหมากที่ยังไม่แสดงอาการ (จึงต้องตรวจคัดกรองก่อนและติดตามระหว่างรักษา)
  • ปัญหาผิวหนัง: อาจเกิดสิว ผิวมัน
  • ภาวะคั่งน้ำ (Fluid Retention): อาจทำให้ดูบวมขึ้น
  • ลดการสร้างอสุจิ / ภาวะมีบุตรยาก: การได้รับฮอร์โมนจากภายนอกจะไปกดการสร้างฮอร์โมนและการสร้างอสุจิของร่างกายเอง
  • อัณฑะฝ่อ: เนื่องจากอัณฑะทำงานน้อยลง
  • ต้องมาฉีดที่คลินิก/โรงพยาบาล หรือเรียนรู้วิธีฉีดด้วยตนเอง

 

คำแนะนำและการติดตามผลหลัง ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย

  • ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์: ห้ามซื้อยามาฉีดเองเด็ดขาด ต้องได้รับการวินิจฉัย สั่งจ่ายยา และติดตามผลโดยการรักษาภาวะฮอร์โมนต่ำ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
  • ตรวจเลือดสม่ำเสมอ: ก่อนเริ่มและระหว่างการรักษา ต้องตรวจเลือดเพื่อติดตามระดับ Testosterone, ค่าความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง (Hematocrit), ค่า PSA และอาจรวมถึงค่าอื่นๆ ตามที่แพทย์เห็นสมควร
  • ปรับขนาดยา: แพทย์จะปรับขนาดยาและความถี่ในการฉีดตามผลเลือดและการตอบสนองของผู้ป่วย
  • แจ้งแพทย์เรื่องผลข้างเคียง: หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพราะการสื่อสารกับแพทย์อย่างเปิดเผยเกี่ยวกับอาการ ความกังวล หรือผลข้างเคียง เป็นสิ่งสำคัญ
  • ปรึกษาเรื่องการมีบุตร: หากยังต้องการมีบุตรในอนาคต ต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนเริ่ม TRT เพราะอาจมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์
  • ปรับพฤติกรรมร่วมด้วย: การรักษาจะได้ผลดีที่สุดเมื่อทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับโปรแกรม ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย T-Shot

Q: ต้องฉีด T-Shot บ่อยแค่ไหน? เจ็บไหม?

ความถี่ขึ้นอยู่กับชนิดของยาและแผนการรักษาของแพทย์ โดยทั่วไปอาจเป็นทุก 1-4 สัปดาห์ อาจรู้สึกตึงเล็กน้อยขณะฉีด แต่ไม่เจ็บรุนแรง

Q: ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล?

ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล บางอาการ เช่น ระดับพลังงาน อาจดีขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ บางอาการ เช่น กล้ามเนื้อหรือสมรรถภาพทางเพศ อาจใช้เวลาหลายเดือน

Q: ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง? ควรทำอย่างไร?

อาจพบอาการบริเวณที่ฉีด, สิว, ผิวมัน หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงได้บ้าง สิ่งสำคัญคือโปรแกรมของเรามีการตรวจเลือดติดตามเพื่อเฝ้าระวังภาวะเลือดข้น (Polycythemia) และค่า PSA หากมีข้อกังวลควรปรึกษาแพทย์ทันที

Q: การฉีด T-Shot มีผลต่อการมีบุตรหรือไม่?

มีผล การได้รับเทสโทสเตอโรนจากภายนอกอาจยับยั้งการสร้างอสุจิ หากคุณมีแผนที่จะมีบุตรในอนาคต จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มการรักษาเสมอ เพื่อพิจารณาทางเลือกอื่นหรือวิธีป้องกัน

Q: ถ้าอาการดีขึ้นแล้ว หยุดฉีดเองได้ไหม?

ไม่ควรหยุดยาเอง การปรับลดหรือหยุดยาต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว

 

บทสรุป ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ปลดล็อกศักยภาพความเป็นชาย ด้วย T-Shot สู่สุขภาพที่ดีที่สุดของคุณ 

การฉีด Testosterone (T-Shot) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ชายที่มีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism) ที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง สามารถช่วย ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย บรรเทาอาการต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม การรักษานี้มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องทราบ และจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลและติดตามผลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด

T-Shot ไม่ใช่ยาวิเศษ ไม่ใช่ยาชะลอวัย หรือยาเพิ่มพลังสำหรับทุกคน การตัดสินใจรับการรักษาต้องมาจากการประเมินทางการแพทย์อย่างละเอียด การพูดคุยถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง และทางเลือกอื่น ๆ กับแพทย์ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

อย่าปล่อยให้ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ โปรแกรม Hormonal Balance for Men ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย T-Shot ที่ S’RENE by SLC คือทางออกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เพื่อช่วยให้คุณกลับมาฟิต เฟิร์ม มีพลัง และมั่นใจในแบบฉบับที่ดีที่สุดของคุณ

พร้อมที่จะปลุกพลังความเป็นชายในตัวคุณหรือยัง? เข้ามาปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันและวางแผนการฟื้นฟูที่เหมาะสมได้ที่ S’RENE by SLC คลินิกสุขภาพสำหรับคนเมือง สอบถามเพิ่มเติมหรือจองโปรแกรมได้ทุกสาขา

▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237

▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร  099 807 7261

▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร  081 249 7055

▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669

▪️ สาขา สยาม  – โทร 064 139 6390 และ 081-249-6392

สาขาสยาม
เลขที่ 215/3 อาคาร A La Art, ถนนพญาไท, ปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
064 139 6390
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.
สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 6
1693 ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
080 245 7669
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.
สาขาทองหล่อ ชั้น 4
916/3-4 ถ.สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
064 184 5237
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.

สาขาพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3
61 ถ. ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250

081 249 7055
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.
สาขาชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2
104/42 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
099 807 7261
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.
สาขาสยาม
เลขที่ 215/3 อาคาร A La Art, ถนนพญาไท, ปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
064 139 6390
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.
สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 6
1693 ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
080 245 7669
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.
สาขาทองหล่อ ชั้น 4
916/3-4 ถ.สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
064 184 5237
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.

สาขาพาราไดซ์ พาร์ค
ชั้น 3
61 ถ. ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250

081 249 7055
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.

สาขาชาน แจ้งวัฒนะ 14
ชั้น 2
104/42 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

099 807 7261
เวลาทำการ 10.00-20.00 น.

Recommended Services

บริการแนะนำ

โปรแกรมตรวจวัดระดับ ฮอร์โมนเพศ เพื่อหาความเสี่ยงปัญหาสุขภาพเพศ พร้อมนำมาวางแผนการดูแล และฟื้นฟูสุขภาพเพศ

ฟื้นฟูน้องสาว กระชับช่องคลอด เพิ่มความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส ด้วย INDIBA Deep Care เป็นนวัตกรรมที่ใช้คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar Radio Frequency) ที่ความถี่เฉพาะ 448 kHz

โปรแกรมฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมด้วยคลื่นความถี่สูง (448 kHz)

โปรแกรมการตรวจค่าการอักเสบของร่างกาย

โลหะหนักเป็นสารพิษอันตรายที่อยู่รอบตัว ร่างกายได้รับสะสมแบบไม่รู้ตัว คีเลชั่น Chelation คือตัวช่วยที่จะล้างสารพิษได้

ดริปน้ำนมด้วยกรดไขมันจำเป็น ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ผิวนุ่มชุ่มชื้น