เรื่องน่ารู้

Blogs

ภูมิแพ้อาหารแฝง: ภัยเงียบที่แฝงตัวทำลายสุขภาพ

อาการไอ จามจากภูมิแพ้อาหารแฝง

เคยรู้สึกไหม บางทีก็เกิดอาการแปลก ๆ หลังกินอาหารบางอย่าง ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนกินได้สบายมาก หรือบางทีมีอาการจุกเสียด แน่นท้อง ปวดหัว เกิดผื่นคัน ทั้งหมดนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “ภูมิแพ้อาหารแฝง” (Food Intolerance)

บางคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า “ภูมิแพ้อาหารแฝง” เพราะอาการไม่ได้รุนแรงหรือแสดงออกมาทันทีเหมือนกับการแพ้อาหารทั่วไป ภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นเป็นเหมือน ภัยเงียบ ที่ค่อยๆ ก่อตัวสะสมอยู่ในร่างกายของเราโดยไม่รู้ตัว และถ้าปล่อยไว้นาน ก็อาจนำไปสู่โรคภัยต่างๆ ได้มากมาย

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างท้องไส้ปั่นป่วน ไม่สบายท้อง ไปจนถึงโรคเรื้อรังที่ร้ายแรง ภูมิแพ้อาหารแฝงอาจเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เหล่านี้ อย่าปล่อยให้ภัยเงียบนี้มารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา มาทำความรู้จักกับภูมิแพ้อาหารแฝงให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างถูกต้องและห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ

ภูมิแพ้อาหารแฝง คืออะไร

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า “ภูมิแพ้อาหารแฝง” หรือ Food Intolerance ซึ่งจริงๆ แล้ว ภูมิแพ้อาหารแฝง คือ อาการแพ้อาหารชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอาหารชนิดนั้น ๆ ขึ้นมา อาการแพ้อาหารแฝงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใดหลังกินอาหารเหมือนกับอาการแพ้อาหารทั่วไป แต่จะค่อย ๆ แสดงอาการออกมาช้า ๆ ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือในบางคนอาจมีอาการหลังจากทานอาหาร 24 ชั่วโมงเป็นต้นไป

สาเหตุของภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นมีหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม การขาดเอนไซม์ที่จำเป็นในการย่อยอาหารบางชนิด หรือแม้แต่ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ก็ล้วนเป็นสาเหตุได้ทั้งนั้น

ลักษณะอาการภูมิแพ้อาหารแฝงมีอะไรบ้าง

อาการภูมิแพ้อาหารแฝงต่าง ๆ

หากสงสัยว่าตนเองมีอาการแพ้อาหารแฝงหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ระบบทางเดินอาหาร: ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน ปวดท้อง จุกเสียด แน่นท้อง มีแก๊สในกระเพาะอาหาร หรือกรดไหลย้อน
  • ระบบผิวหนัง: สิวเรื้อรัง ผดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ เป็นลมพิษ มีผื่นคัน ผิวบวมน้ำ
  • ระบบทางเดินหายใจ: คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม มีเสมหะ เจ็บคอ หอบหืด ไซนัสอักเสบ

ระหว่าง “ภูมิแพ้อาหารแฝง VS แพ้อาหาร” ต่างกันอย่างไร

ตารางความแตกต่างของ ภูมิแพ้อาหารแฝง (IgG) VS แพ้อาหารแบบฉับพลัน (IgE)

หลายคนอาจแยกไม่ออก ระหว่าง “ภูมิแพ้อาหารแฝง” กับ “แพ้อาหาร” นั้นแตกต่างกันอย่างไร เพราะอาการก็ดูคล้ายๆ กันไปหมด แต่จริงๆ แล้ว ทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ภูมิแพ้อาหารแฝง หรือ food intolerance คือการที่ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้ ทำให้เกิดการสะสมและสร้างสารภูมิต้านทานชนิด IgG (immunoglobulin G) ต่ออาหารชนิดนั้น ๆ ขึ้นมา 

อาการมักจะเรื้อรัง ค่อยเป็นค่อยไป และไม่รุนแรง เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย ปวดศีรษะ ผื่นคัน สิวเรื้อรัง เป็นต้น แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรง แต่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวหากไม่ได้รับการรักษา การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจเลือดเพื่อหาสารภูมิต้านทาน IgG ต่ออาหารต่าง ๆ และรักษาโดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ปรับพฤติกรรมการกิน และรักษาตามอาการ

ในขณะที่ อาการแพ้อาหาร หรือการแพ้อาหารแบบฉับพลัน เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต่ออาหารบางชนิดที่ร่างกายเข้าใจผิดว่าเป็นอันตราย ทำให้เกิดการหลั่งสารฮิสตามีนและสารอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยร่างกายจะสร้างสารภูมิต้านทาน IgE (immunoglobulin E) ต่ออาหารนั้น ๆ เมื่อสัมผัสหรือรับประทานเข้าไปอีกครั้ง สารภูมิต้านทาน IgE จะกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวหลั่งสารฮิสตามีนและสารอื่นๆ ออกมา ทำให้เกิดอาการแพ้นั่นเอง

อาการแพ้มีอาการเฉียบพลัน รุนแรง และเกิดขึ้นทันทีหลังจากรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป เช่น ผื่นคัน บวม คัน ลมพิษ คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก หลอดลมตีบ แน่นหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว ใจสั่น หรืออาจรุนแรงถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้ การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจเลือดเพื่อหาสารภูมิต้านทาน IgE ต่ออาหารต่าง ๆ หรือทดสอบทางผิวหนัง และต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญอาจต้องพกยาแก้แพ้ติดตัวไว้ในกรณีฉุกเฉิน

ภูมิแพ้อาหารแฝง ตรวจได้ไหม และตรวจอย่างไร?

การตรวจภูมิแพ้แฝง กับคลินิกและคุณหมอ

อ่านถึงจุดนี้แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอาการแพ้อาหารแฝง? เราสามารถตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงได้โดยการเจาะเลือด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินอาการเบื้องต้นก่อน เพื่อแยกโรคหรือภาวะอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายคลึงกันออกไป

สำหรับที่ S’RENE by SLC คลินิกสุขภาพคนเมือง เรามีบริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง หรือ IgG Food Intolerance Test คือการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นการตรวจหาอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้มากกว่า 222 ชนิด 

ผลการตรวจจะแสดงระดับการแพ้อาหารแต่ละชนิด ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยแปลผลและให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลสุขภาพ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องและกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง

ภูมิแพ้อาหารแฝง ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

แม้ว่าการแพ้อาหารแฝง อาการจะไม่ได้รุนแรงเท่ากับการแพ้อาหารฉับพลัน แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

  • ภาวะขาดสารอาหาร: เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารจากอาหารที่แพ้ได้อย่างเต็มที่
  • โรคอ้วนและน้ำหนักเกิน: เกิดจากการที่ร่างกายพยายามชดเชยสารอาหารที่ได้รับไม่เพียงพอด้วยการกินมากขึ้น
  • โรคเรื้อรังต่างๆ: เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ภูมิแพ้ตัวเอง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ: เช่น ปวดไมเกรนเรื้อรัง อ่อนเพลียเรื้อรัง ปัญหาผิวพรรณเรื้อรัง และภาวะซึมเศร้า

การรักษาอาการภูมิแพ้อาหารแฝง

การรักษาอาการภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นแตกต่างจากการแพ้อาหารทั่วไป เพราะภูมิแพ้อาหารแฝงไม่ได้เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง ดังนั้น การรักษาจึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้แพ้ 

โดยที่ S’RENE by SLC เรามีการรักษาภูมิแพ้อาหารแฝงที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพที่ดี และมีความสุขกับการรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง

  1. หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้: เมื่อตรวจพบว่าแพ้อาหารชนิดใด ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อให้ร่างกายได้พักและฟื้นฟูตัวเอง
  2. ปรับพฤติกรรมการกิน: รับประทานอาหารให้หลากหลาย เน้นอาหารที่ย่อยง่าย มีประโยชน์ และมีสารอาหารครบถ้วน หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่มีสารปรุงแต่ง และอาหารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร
  3. ฟื้นฟูสุขภาพลำไส้: การดูแลสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาภูมิแพ้อาหารแฝง อาจทำได้โดยการรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ หรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการฟื้นฟูสุขภาพลำไส้ด้วยวิธีเฉพาะบุคคล

นอกจากนี้ ทาง S’RENE by SLC เรายังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด

วิธีป้องกันภูมิแพ้อาหารแฝง ทำอย่างไร มีอะไรบ้าง?

สำหรับใครที่ต้องการหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงจากภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง ขอแนะนำวิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย: เน้นอาหารที่สด สะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน ลดอาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งต่าง ๆ เพื่อลดการก่อภูมิแพ้อาหารแฝง IgG และลดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร
  2. ดูแลสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรง: รับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ เพื่อปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. จัดการความเครียด: ความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมและอาจกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้อาหารแฝงได้ ดังนั้น หาเวลาผ่อนคลาย ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือออกกำลังกาย เพื่อลดความเครียดและเสริมสร้างสุขภาพกายใจให้แข็งแรง

ที่สำคัญที่สุดคือการใส่ใจในสุขภาพ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากภูมิแพ้อาหารแฝงและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้

รักษาอาการภูมิแพ้อาหารแฝง ที่ S’RENE คลินิกสุขภาพคนเมือง

การรักษาภูมิแพ้อาหารแฝงด้วยการดริปวิตามิน AMINO THERAPY

เมื่อทราบว่าตนเองมีอาการแพ้อาหารแฝง สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ที่ S’RENE by SLC เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของปัญหานี้ และพร้อมดูแลคุณอย่างครอบคลุม ด้วยบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย ไปจนถึงการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน

เริ่มต้นด้วย บริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง 222 รายการ เพื่อตรวจหาอาหารที่คุณแพ้ได้อย่างแม่นยำ พร้อมวางแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล  เพื่อให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้ได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้ เรายังมีบริการล้างลำไส้ด้วย Colon Hydrotherapy ที่จะช่วยชำระล้างสารพิษและของเสียตกค้างในลำไส้ ลดการอักเสบ และฟื้นฟูสมดุลของระบบทางเดินอาหาร รวมถึงเอนไซม์ย่อยอาหารเฉพาะบุคคล ที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดอาการไม่สบายท้อง และลดการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ อีกทั้งยังมีบริการดริปวิตามิน AMINO THERAPY ซึ่งช่วยเพิ่มสารอาหารอะมิโนบำบัดที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมเยื่อบุลำไส้ ทำให้ลำไส้แข็งแรงขึ้น

ที่ S’RENE by SLC เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเวชศาสตร์ป้องกัน ที่ดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดูแลรักษาอาการภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด

อย่าปล่อยให้อาการแพ้อาหารแฝง มาเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของคุณอีกต่อไป ให้ S’RENE by SLC เป็นที่ปรึกษาและดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน

หากคุณมีอาการหรือสงสัยว่าแพ้อาหารแฝง ติดต่อจองคิวตรวจและรักษากับ S’RENE by SLC ได้ที่

สาขาทองหล่อ  064 184 5237
สาขา Charn แจ้งวัฒนะ ชั้น 2  099 807 7261
สาขา Paradise Park ชั้น 3  083 996 6959
LINE: @SRENEbySLC หรือคลิก https://bit.ly/3IlXtvw 

 

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่
Facebook: www.facebook.com/SrenebySLC
IG: www.instagram.com/srene.byslc
TikTok: www.tiktok.com/@srenebyslc

 

รายการอ้างอิง

Karakuła-Juchnowicz H, Szachta P, Opolska A, et al. The role of IgG hypersensitivity in the pathogenesis and therapy of depressive disorders. Nutr Neurosci. 2017;20(2):110-118. doi:10.1179/1476830514Y.0000000158
https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1179/1476830514Y.0000000158 

Yeska, N. More than a gut feeling: food intolerance and the role of specific IgG and IgG4. testingTecan.  https://www.tecan.com/blog/igg-food-intolerance-blood-test-elisa 

Shaw, W. Clinical Usefulness Of IgG Food Allergy Testing. Mosaic Diagnostics.
https://mosaicdx.com/resource/clinical-usefulness-of-igg-food-allergy-testing/ 

Leviatan S, Vogl T, Klompus S, Kalka IN, Weinberger A, Segal E. Allergenic food protein consumption is associated with systemic IgG antibody responses in non-allergic individuals. Immunity. 2022;55(12):2454-2469.e6. Doi: 10.1016/j.immuni.2022.11.004 https://www.cell.com/immunity/fulltext/S1074-7613(22)00594-5

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่