เรื่องน่ารู้
Blogs

Biohacking คืออะไร? เทรนด์สุขภาพ 2025 ที่น่าจับตามอง

2025 นี้ เทรนด์ longevity กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก ทั้งเรื่องการมีชีวิตยืนยาว การชะลอความเสื่อม และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในวัยสูงอายุ ท่ามกลางกระแสนี้ คำว่า biohacking ปรากฏให้เห็นทั่วไปในโซเชียลมีเดีย พอดแคสต์ และสื่อต่างๆ จนหลายคนเริ่มให้ความสนใจ บางคนคิดว่าเป็นวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน บางคนเข้าใจว่าต้องใช้เทคโนโลยีแพง ๆ หรือทำอะไรที่ฟังดูอันตราย บางคนกลัวว่าจะเป็นการทดลองกับร่างกายแบบไม่รู้ผล 

สำหรับผู้ที่สงสัยว่า biohacking คืออะไร? จริง ๆ แล้วการทำ “biohacking” ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด หลายคนทำอยู่ในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับ longevity lifestyle ที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้นและชะลอความเสื่อม 

บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ตั้งแต่ความหมายพื้นฐาน ประเภทต่าง ๆ วิธีเริ่มต้นที่เหมาะสม ไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ เพื่อให้ใครที่สนใจสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง 

ทำความรู้จัก Biohacking ให้ถูกต้อง 

หากเราแยกคำว่า biohacking ออกมาดู  

  • “Bio” – มาจากภาษากรีกแปลว่าชีวิตหรือชีววิทยา และ 
  • “Hacking” – ในที่นี้ไม่ใช่การแฮ็กคอมพิวเตอร์ แต่หมายถึงการปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด 

พูดง่ายๆ การทำ biohacking คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาหาร หรือวิถีชีวิต เพื่อให้ร่างกายและจิตใจทำงานได้ดีขึ้น โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน 

จริง ๆ แล้วหลายอย่างที่เราทำกันอยู่ในชีวิตประจำวันก็เป็น biohacking โดยไม่รู้ตัว เช่น ดื่มกาแฟยามเช้าเพื่อเพิ่มความตื่นตัว ออกกำลังกายเพื่อให้มีพลังงานและอารมณ์ดี นอนให้เพียงพอเพื่อให้สมองทำงานได้ดี หรือเลือกกินอาหารที่ทำให้รู้สึกสดชื่น 

biohacking สามารแบ่งออกได้หลากหลายรูปแบบ แต่จะมี 3 ประเภทหลักที่เป็นที่นิยม แต่ละประเภทมีความซับซ้อนและความเสี่ยงต่างกัน 

  • การปรับพฤติกรรมประจำวัน เป็นรูปแบบที่มีงานวิจัยรองรับมากที่สุด การนอนหลับให้มีคุณภาพ การออกกำลังกายแบบมีแผน และการจัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญของ longevity ที่ช่วยชะลอความเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • การปรับเปลี่ยนอาหารการกิน (Nutrigenomics) ครอบคลุมการเลือกกินอาหารที่เหมาะกับร่างกาย การปรับเวลาการกิน และการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบ อาการไม่พึงประสงค์ สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าอาหารไหนเหมาะกับร่างกายเรา 
  • การใช้เทคโนโลยีช่วย เป็นการใช้เครื่องมือติดตามและปรับปรุงสุขภาพ เช่น แอปติดตามการนอน เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูร่างกาย 
Ice Bathing; การแช่น้ำในน้ำแข็งเพื่อปรับสมดุลในร่างกาย

เหตุใดคนยุคใหม่จึงสนใจ Biohacking 

Biohacking ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่คนทำงานและคนเมือง เพราะเผชิญปัญหาสุขภาพใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากงาน การนอนไม่มีคุณภาพ ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง และปัญหาจากการนั่งทำงานนานๆ 

ประกอบกับกระแส longevity ที่เน้นการมีชีวิตยืนยาวและมีคุณภาพ ทำให้คนยุคใหม่เริ่มใส่ใจการดูแลตัวเองอย่างจริงจัง พร้อมกับข้อมูลและเทคโนโลยีสุขภาพเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งแอปมือถือ อุปกรณ์วัดค่าต่างๆ และข้อมูลงานวิจัยออนไลน์ ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงความรู้ที่เคยเป็นของแพทย์เท่านั้น 

แต่สิ่งที่ควรระวังคือ การทานอาหารเสริมหลายชนิดโดยไม่รู้ว่าร่างกายต้องการจริง การลองวิธีแปลกๆ จาก TikTok หรือ YouTube ที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ หรือการทำตามเทรนด์โดยไม่ศึกษาข้อมูล 

การทานอาหารเสริมเยอะ ๆ โดยไม่ตรวจสุขภาพหรือปรึกษาแพทย์ อาจส่งผลเสียในระยะยาว

Biohacking สามารถเริ่มจากพื้นฐานง่าย ๆ เช่น การนอน การกิน การออกกำลังกาย ทำทีละอย่างเพื่อสังเกตผล และเลือกวิธีที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ 

เริ่มต้น Biohacking อย่างถูกวิธี 

การเริ่มต้น biohacking ที่มีประสิทธิภาพต้องอิงหลักการง่ายๆ แต่สำคัญ 5 ขั้นตอน 

  1. รู้จักตัวเอง – ประเมินสุขภาพปัจจุบัน สังเกตพฤติกรรมและผลที่เกิดขึ้น การตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ 
  2. กำหนดเป้าหมายชัดเจน – ต้องการแก้ปัญหาอะไร เพิ่มพลังงาน นอนหลับดีขึ้น ลดความเครียด หรือปรับปรุงสุขภาพโดยรวม 
  3. เริ่มจากพื้นฐาน – ปรับการนอน การกิน การออกกำลังกายก่อน เพราะส่งผลต่อสุขภาพมากที่สุด 
  4. บันทึกและติดตามผล – ดูว่าวิธีไหนได้ผล วิธีไหนไม่เหมาะ แล้วค่อยปรับเปลี่ยนตามผลลัพธ์ 
  5. ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง – ค่อยๆ เพิ่มวิธีใหม่ทีละอย่าง 

ความสำคัญของการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล 

สิ่งที่หลายคนมองข้าม คือร่างกายแต่ละคนตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน วิธีเดียวกันจึงให้ผลต่างกัน บางคนกินนมเล็กน้อยก็ท้องเสีย กินขนมปังหน่อยก็ปวดศีรษะ เหนื่อยล้าเรื้อรัง หรือมีผื่นขึ้นง่าย 

การ biohacking ที่มีประสิทธิภาพจึงต้องเข้าใจความแตกต่างเฉพาะบุคคล ทั้งเรื่องภูมิแพ้อาหารแฝง (IgG Food Intolerance) ระดับฮอร์โมนต่างๆ การทำงานของระบบเผาผลาญ และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพ การมีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เลือกวิธี biohacking ได้ตรงจุดและได้ผลจริง แทนการลองผิดลองถูกแบบไม่มีทิศทาง 

การตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน: พื้นฐานสำคัญสำหรับ Biohacking 

การทำ biohacking ที่มีประสิทธิภาพต้องอิงข้อมูลจริงของร่างกาย ไม่ใช่การเดาหรือทำตามคนอื่น เหมือนกับการขับรถในคืนมืด ต้องมีไฟส่องทางเพื่อเห็นเส้นทางที่ชัดเจน 

ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อน Biohack 

การตรวจสุขภาพเป็น “baseline” หลือการเก็บข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจสภาพร่างกายปัจจุบัน รู้ว่าระบบไหนทำงานดี ระบบไหนต้องปรับปรุง และสามารถวัดผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำ biohacking ได้อย่างชัดเจน 

รวมวิธีลดไขมันทั้งตัว

โปรแกรมการตรวจที่เหมาะสมสำหรับ Biohacker 

  • การตรวจค่าการทำงานของสุขภาพ (Biomarker) ตั้งแต่การทำงานของตับ ไต ระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด รวมไปถึงการตรวจค่าสารบ่งชี้มะเร็ง (tumor marker) ในผู้ชาย และผู้หญิง เพื่อดูภาพรวมสุขภาพและประเมินความเสี่ยงโรคต่างๆ 
  • การตรวจฮอร์โมนต่อมไรท่อต่างๆ เช่น ฮอร์โมนความเครียด อย่าง Cortisol และ DHEAs เพราะส่งผลต่อการนอน พลังงาน การฟื้นฟู รวมถึงฮอร์โมนเพศ เช่น Testosterone, Estradiol และ Progesterone ที่มีผลต่อมวลกล้ามเนื้อ การเผาผลาญ อารมณ์ และความสามารถในการตอบสนองต่อการ biohacking ทั้งหมด 
  • การตรวจที่ให้ข้อมูลลึกเกี่ยวกับองค์ประกอบร่างกาย ทั้งสัดส่วนกล้ามเนื้อ ไขมัน และความหนาแน่นกระดูก DEXA Scan เป็นข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากสำหรับการวางแผน biohacking ด้านการออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก และการดูแลสุขภาพกระดูก 

การมีข้อมูลครบถ้วนจะช่วยให้การ biohacking เป็นไปอย่างมีทิศทางและวัดผลได้ แทนที่จะต้องลองผิดลองถูกและเสียเวลาไปกับวิธีที่ไม่เหมาะกับตัวเรา 

เทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับ Biohacking 

นอกจากการปรับพฤติกรรมพื้นฐานแล้ว ปัจจุบันมีเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการ biohacking และสนับสนุนแนวคิด longevity อย่างมีประสิทธิภาพ 

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy หรือออกซิเจนบำบัด เป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือดและเนื้อเยื่อภายใต้ความดันที่เหมาะสม ช่วยเร่งการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย ลดการอักเสบ เพิ่มพลังงาน และปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ เหมาะสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าสะสมและต้องการชะลอวัย 

“ริต้า” – ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช Brand Ambassador of S’RENE กำลังทำโปรแกรม HBOT (Hyperbaric Oxygen Therapy)

โปรแกรม ExoMind™ 

โปรแกรม ExoMind™ ใช้เทคโนโลยี ExoTMS กระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบไม่รุกล้ำ จุดเด่นคือไม่ต้องพึ่งพายา ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาทีต่อครั้ง ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ เพิ่มประสิทธิภาพสมอง และจัดการความเครียด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาวิตกกังวลหรือการนอนหลับ 

คุณเจ็ง ทองเจือ และคุณพีท ทองเจือ จับมือดูแลตัวเองครบสูตรที่ S’RENE by SLC

โปรแกรม IV Therapy 

โปรแกรม IV Therapy มีมากกว่า 20 สูตรเฉพาะบุคคล ตอบโจทย์การ biohacking แบบ personalized care ไม่ว่าจะเป็นสูตร Brain Booster เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสมอง Fat Burn พื่อการเผาผลาญ หรือ  Super Anti-oxidant เพื่อลดการอักเสบ แพทย์จะเลือกสูตรที่เหมาะกับความต้องการและสภาพร่างกายของแต่ละคน 

สรุปว่า เริ่มต้น Biohacking วันนี้ด้วยการรู้จักตัวเอง! 

การทำ biohacking ที่มีประสิทธิภาพควรต้องอิงข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง ไม่ใช่การลองผิดลองถูก S’RENE by SLC พร้อมเป็นจุดเริ่มต้นด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม 

โปรแกรมตรวจสุขภาพ 

  • โปรแกรม Preventive Health Check Up ตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน 16 รายการ ครอบคลุมการทำงานของอวัยวะสำคัญและดัชนีสุขภาพพื้นฐาน 
  • โปรแกรม Tumor Marker Check Up ตรวจค่าสารบ่งชี้มะเร็งในผู้หญิงและผู้ชาย รับรู้ความเสี่ยงและเริ่มป้องกันก่อนที่จะสาย 
  • โปรแกรมตรวจฮอร์โมน ทั้งฮอร์โมนความเครียด ฮอร์โมนเพศ และฮอร์โมนไทรอยด์ ที่ส่งผลต่อการนอน พลังงาน และการตอบสนองต่อการ biohacking 
  • โปรแกรม DEXA Scan วิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย ทั้งมวลกล้ามเนื้อ ไขมัน และความหนาแน่นกระดูก สำหรับการวางแผนและติดตามผล 
  • โปรแกรมตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง IgG 222 ชนิด ช่วยระบุอาหารที่เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการ biohacking ด้านโภชนาการ 

เทคโนโลยี 

  • โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟู ลดการอักเสบ และเพิ่มพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเร่งผลของการ biohacking และสนับสนุนการมีชีวิตยืนยาว 
  • โปรแกรม ExoMind™ สำหรับการดูแลสุขภาพจิตแบบไม่ต้องทานยา ช่วยปรับสมดุลสมองและจัดการความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำ biohacking ให้สำเร็จ 
  • โปรแกรม IV Therapy สูตรต่างๆ ที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งสูตร Brain Booster, Immune Booster, และ Super Anti-oxidant ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการ biohacking ในด้านต่างๆ 
  • ทุกโปรแกรมดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันที่จะประเมินและออกแบบแผนการดูแลเฉพาะบุคคล เพื่อให้การ biohacking เป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด 

อย่าเริ่มต้น biohacking ด้วยการเดา มาทำความรู้จักร่างกายตัวเองให้ถูกต้องอย่างแม่นยำ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ที่:  

LINE: @SRENEbySLC หรือคลิก https://bit.ly/3IlXtvw 

*ดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
**เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ

รายการอ้างอิง

Horton, J. (Host). (2024, June 5). What is biohacking? with Melissa Young, MD [Audio podcast episode]. In Health Essentials Podcast. Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/podcasts/health-essentials/what-is-biohacking-with-melissa-young
Langmaid, S. (2025, April 28). Biohacking: Types and safety considerations. WebMD. https://www.webmd.com/a-to-z-guides/biohacking

O’Neill, M. (2025, February 7). Should you take the plunge? What a new study says about the benefits of icy-water immersion. Health. https://www.health.com/ice-baths-polar-plunge-benefits-study-8786822 Health

Donhauser, D. (2024, October 24). Biohacking – the best biohacks + routine for beginners. Biogena International. https://biogena.com/en/knowledge/guide/biohacking_bba_5612051 biogena.com

InsideTracker. (2024, June 14). What is biohacking? How to get started and the science behind it. InsideTracker. https://www.insidetracker.com/a/articles/what-is-biohacking

 

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่