หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลง บางครั้งออกกำลังกายหนัก แต่ยังรู้สึกอ้วนและบวมโดยไม่มีเหตุผล คุมอาหารก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะดีขึ้น รู้หรือไม่ว่าสาเหตุหนึ่งอาจมาจาก ความผิดปกติของฮอร์โมนเพศ หรือเรียกกันว่า อ้วนเพราะฮอร์โมนเพศ ซึ่งการที่ ฮอร์โมนไม่สมดุล เป็นตัวการสำคัญที่กระทบต่อระบบเผาผลาญและสมดุลในร่างกายของทุกคน เข้ากับสโลแกนที่ว่าสุขภาพดีเริ่มต้นจากภายใน 

การตรวจเช็กและวัดระดับฮอร์โมนเพศจริงเป็นสิ่งที่สำคัญ ช่วยทำให้เราได้รู้จักกับร่างกายของตัวเองมากขึ้น และสามารถนำมาวางแผนการดูแลสุขภาพ เพราะเราไม่รู้หรอกว่า จริง ๆ แล้ว เรา “อ้วน” หรือ “น้ำหนักไม่ลง” เพราะพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต หรือ อ้วนเพราะฮอร์โมนเพศ ผิดปกติกันแน่

 

แล้วฮอร์โมนเพศเกี่ยวอะไรกับน้ำหนัก?

ก่อนจะไปทำความเข้าใจ ปัญหาอ้วนจากฮอร์โมน เพราะอะไร ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ฮอร์โมนเพศเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อควบคุมการทำงานหลาย ๆ ด้านในร่างกาย เช่น การสืบพันธุ์ การเจริญเติบโต และ การเผาผลาญพลังงาน โดยฮอร์โมนเพศที่มีผลต่อการเพิ่ม และควบคุมน้ำหนัก จะมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น 

1. ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)

• พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
• หากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุล เช่น ลดลงในวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องเพิ่มขึ้น

2. ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone)

• พบมากในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็มีในระดับต่ำ
• หากฮอร์โมนนี้ลดลงในผู้ชาย อาจทำให้กล้ามเนื้อลดลงและไขมันสะสมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว

3. ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin)

• เกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำตาลในเลือด
• หากมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) จะทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมได้ง่าย

4. ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid Hormone)

• มีบทบาทในการเผาผลาญพลังงาน
• หากไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism) จะทำให้การเผาผลาญลดลงและน้ำหนักเพิ่มขึ้น

 

ฮอร์โมนเพศผิดปกติ มีผลอย่างไรกับน้ำหนักและร่างกาย?

การที่ฮอร์โมนเพศ เช่น เอสโตรเจน (Estrogen) และ เทสโทสเตอโรน (Testosterone)  มีบทบาทสำคัญต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบเผาผลาญไขมันและควบคุมการสะสมของน้ำในร่างกาย หากฮอร์โมนเพศไม่สมดุล อาจเกิด ปัญหาน้ำหนักขึ้นเพราะฮอร์โมน ได้ดังนี้

• อ้วนง่าย: การเผาผลาญพลังงานลดลง ทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น
• ตัวบวม: ฮอร์โมนบางชนิดกระตุ้นให้ร่างกายเก็บน้ำมากกว่าปกติ
• น้ำหนักเพิ่มแม้ควบคุมอาหาร: แม้จะกินน้อยแค่ไหน แต่ระบบเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
• ระบบเผาผลาญช้าลง: ฮอร์โมนเพศมีผลโดยตรงต่อระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย หากฮอร์โมนไม่สมดุล จะทำให้กระบวนการเผาผลาญไขมันและพลังงานช้าลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
• เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง: เพราะร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม
• กระจายตัวของไขมันผิดปกติ: ในบางกรณี ฮอร์โมนเพศที่ผิดปกติอาจทำให้ไขมันสะสมในจุดที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ไขมันหน้าท้องในเพศหญิง หรือไขมันรอบเอวในเพศชาย
• อารมณ์และความเครียด: ฮอร์โมนเพศที่ไม่สมดุล เช่น เอสโตรเจนหรือโปรเจสเตอโรน อาจทำให้เกิดความเครียดหรืออารมณ์แปรปรวน ซึ่งมีผลกระทบต่อพฤติกรรมการกิน เช่น การกินอาหารมากขึ้นเมื่อเครียด
• ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง: เช่น ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลในเลือดผิดปกติ เบาหวานชนิดที่ 2

สัญญาณที่บอกว่า อ้วนเพราะฮอร์โมนเพศ ไม่สมดุล

• น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้
• น้ำหนักเพิ่มขึ้นรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
• ไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง รอบเอว ต้นแขน ต้นขา สะโพก ต้นขา และหน้าท้องล่าง 
• รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
• กล้ามเนื้อฝ่อลง แม้ไม่ได้ลดน้ำหนัก
• หิวบ่อย หรืออยากกินของหวาน/อาหารมัน
• ประจำเดือนมาไม่ปกติในผู้หญิง
• มีปัญหาการนอนหลับ
• ผิวมัน สิวขึ้น หรือผมร่วงในผู้หญิง (จากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่สูงขึ้น)
• ความต้องการทางเพศลดลงในผู้ชาย (จากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ)

 

วิธีรับมือกับปัญหาอ้วนจากฮอร์โมนผิดปกติ!

การจัดการปัญหา อ้วนเพราะฮอร์โมนเพศ ต้องเริ่มต้นจากการวิเคราะห์และปรับสมดุลในร่างกาย โดยคุณหมอที่ซีรีนมีคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. ตรวจระดับฮอร์โมน

แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจระดับฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน เทสโทสเตอโรน ไทรอยด์ และอินซูลิน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าฮอร์โมนเพศของเรามีปัญหาหรือไม่

2. ปรับการกินอาหาร

• ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งขัดสี เช่น ขนมปังขาว น้ำหวาน เพื่อป้องกันภาวะดื้อต่ออินซูลิน
• เพิ่มโปรตีน เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว และไขมันดี เช่น อะโวคาโด ถั่ว เพื่อช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน

3. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

• ออกกำลังกายที่เน้นการสร้างกล้ามเนื้อ เช่น เวทเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน
• ควบคู่กับคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

4. จัดการความเครียด

• ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ส่งผลให้เกิดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง
• ฝึกสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น โยคะ การหายใจลึกๆ

5. พิจารณาการปรับฮอร์โมน (Hormone Therapy)

ในบางกรณี เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หรือผู้ชายที่มีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำมาก คุณหมออาจแนะนำให้ใช้ฮอร์โมนทดแทนอย่างปลอดภัย

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเรา อ้วนเพราะฮอร์โมนเพศ?

หากทุกคนสงสัยว่าปัญหาน้ำหนักหรือมีความบวมที่เกิดจากฮอร์โมน S’RENE by SLC มีโปรแกรมตรวจวิเคราะห์ฮอร์โมนอย่างละเอียดกับ โปรแกรม His & Her Wellness Lab Check Up – Male/Female ตรวจสุขภาพเพศหญิง/ชาย (20 รายการตรวจ 15,900 บาท) เพื่อวัดระดับฮอร์โมน และวางแผนดูแลสุขภาพ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ผู้มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ผล ช่วยประเมินหาความเสี่ยง และตรวจสอบระดับฮอร์โมนในร่างกาย พร้อมทั้งประเมินว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร

• การตรวจฮอร์โมนเพศ: วิเคราะห์ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน, เทสโทสเตอโรน และฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
• การตรวจสุขภาพองค์รวม: เช็กสมดุลฮอร์โมนอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อร่างกาย 
• การวิเคราะห์เฉพาะบุคคล: ให้คำปรึกษาแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด 

อย่ารอช้า! แก้ปัญหาฮอร์โมนเพื่อสุขภาพดีที่ S’RENE by SLC

การปรับสมดุลฮอร์โมนไม่ได้เพียงช่วยในเรื่องของน้ำหนัก แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ผิวพรรณที่สดใสขึ้น อารมณ์ที่มั่นคง และพลังงานที่เพิ่มขึ้น หากรู้สึกว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติ ลองเริ่มจากการตรวจฮอร์โมนและปรับพฤติกรรม อย่าปล่อยให้ปัญหาฮอร์โมนเพศผิดปกติทำลายความมั่นใจ รูปร่าง และสุขภาพของทุกคน เพราะที่ S’RENE by SLC พร้อมเป็นผู้ช่วยในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมด้วยบริการทุกระดับประทับใจในบรรยากาศสุดผ่อนคลาย “สุขภาพดี ไม่ต้องเหมือนใคร” ฟังร่างกายของทุกคน แล้วเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง!

หากต้องการคำปรึกษาเฉพาะด้าน และโปรแกรมปรับสมดุลฮอร์โมนกับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันที่ S’RENE by SLC ทุกสาขา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่ 

▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237

▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร  099 807 7261

▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร  081 249 7055

▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669