เรื่องน่ารู้

Blogs

ภาวะเครียดอันตรายแค่ไหน เช็กอาการด่วน! พร้อมวิธีรีบูสต์ตัวเอง!

ในยุคที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ เดี๋ยวนี้เราใช้ชีวิตแบบเร่งรีบจนแทบไม่มีเวลาได้พัก! ภาวะเครียด จึงกลายเป็นเพื่อนร่วมทางของใครหลายคนแบบไม่ทันได้ตั้งตัว! หากคุณมีอาการปวดหัว นอนไม่หลับ หรือแม้แต่ปวดเมื่อยตามร่างกายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน จริงๆ แล้วร่างกายของเรากำลังส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังเครียดอยู่นะ! 

ภาวะเครียด ในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะคนวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ หรือแม้แต่วัย 20 ต้นๆ ก็เจอภาวะเครียดสะสมกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต ปัญหาครอบครัว หรือแม้แต่ความคาดหวังทางสังคม จนกลายเป็นความเครียดเรื้อรังที่รบกวนทั้งร่างกายและจิตใจ วันนี้ S’RENE by SLC ขอนำเสนอทริคสังเกตกับ ภาวะเครียด พร้อมแนะนำการดูแลตัวเองแบบองค์รวม เพื่อช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตที่สมดุลได้อีกครั้ง!! 

ภาวะเครียด คืออะไร? รู้ก่อน ป้องกันได้ 

ภาวะเครียด (Stress) ไม่ใช่แค่รู้สึกเหนื่อยล้า หรือการคิดมากเกินไป แท้จริงแล้ว ภาวะเครียด คือ “กระบวนการตอบสนองของร่างกายและจิตใจ” ที่เกิดขึ้นเมื่อเราเผชิญกับสิ่งที่รู้สึกว่าควบคุมไม่ได้ เช่น งานหนักที่ถาโถม ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด ปัญหาเรื่องเงินทอง หรือแม้แต่เรื่อง Toxic รายวัน 

แล้วร่างกายเราทำงานอย่างไรเมื่อต้องเจอความเครียด? 

เวลาที่เราต้องเจอกับสถานการณ์กดดัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือความสัมพันธ์ ร่างกายจะมีระบบตอบสนองแบบอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System: ANS) ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้เรารับมือกับความเครียดได้ แต่ถ้าเครียดมากเกินไปหรือเครียดเรื้อรังก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจได้เหมือนกัน ตัวแปรสำคัญที่ทำหน้าที่ในตอนนี้ คือ ฮอร์โมนหลักสองตัวที่ถูกปล่อยออกมา คือ Cortisol และ DHEAs 

  • คอร์ติซอล (Cortisol) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “ฮอร์โมนความเครียด” นางถูกผลิตโดยต่อมหมวกไตเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การเพิ่มพลังงานจากการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวและมีแรงเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเครียดมากๆ หรือเครียดเป็นเวลานาน คอร์ติซอลจะหลั่งออกมามากจนเกินจำเป็น ซึ่งจะทำให้ระบบร่างกายทำงานผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ น้ำหนักขึ้น หรือภูมิคุ้มกันต่ำลง 
  • DHEAs (Dehydroepiandrosterone) ฮอร์โมนนี้ก็ผลิตจากต่อมหมวกไตด้วยเหมือนกันนะ นางมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลของร่างกาย ช่วยลดผลกระทบจากคอร์ติซอล และยังเป็นตัวตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนเพศของทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วย ทำให้ร่างกายยังคงความสมดุลและแข็งแรงในช่วงเวลาที่เกิดความเครียด 

แล้วทำไมภาวะเครียดจึงเกิดขึ้นง่ายมากในยุคนี้?

สาเหตุหลักๆ ไม่ใช่แค่เรื่องราวรายวัน แต่รวมถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมไว้ทุกๆ วันด้วยเช่นกัน

  • ทำงานหนักแบบหามรุ่งหามค่ำ จนไม่มีเวลาได้ใช้ชีวิตของตัวเอง
  • เล่นโซเชียล ส่องชีวิตคนอื่น จนสมองไม่สามารถหยุดคิดได้
  • มีภาระครอบครัว ภาระทางการเงิน เจอความคาดหวังสูงจากคนรอบข้าง
  • รู้สึกว่าเราต้องเก่งกว่าคนอื่น ต้องต่อสู้ต้องอดทนอยู่เสมอ

ลองมาสังเกตอาการ ภาวะเครียด สะสมกันหน่อย!

อย่ารอให้ร่างกายพังก่อนถึงจะรู้ตัวว่ากำลังเครียด! ลองสังเกตตัวเองดูว่าช่วงนี้มีอาการเหล่านี้ไหม เพราะนี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเผชิญกับภาวะเครียดสะสมที่ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจัง

  • นอนไม่หลับ หรือหลับยาก สะดุ้งตื่นกลางดึกบ่อยๆ
  • ปวดศีรษะ ปวดหัวตื้อๆ แบบไม่มีสาเหตุ
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย กล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติ โดยเฉพาะช่วงคอ บ่า ไหล่ และหลัง
  • มีอาการหายใจถี่ๆ หัวใจเต้นเร็วรัวๆ เหมือนร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
  • อารมณ์สวิง เหวี่ยงง่าย หงุดหงิดง่าย บ้างก็รู้สึกซึมเศร้า หรือรู้สึกเบื่อหน่ายตลอดเวลา
  • ความอยากอาหารเปลี่ยนไป บางวันกินเยอะมาก บางวันกินน้อยเกินไป หรือไม่มีความอยากอาหารเลย
  • เริ่มออกห่างจากคนรอบข้าง หรือมีความรู้สึกหมดแรงเมื่อต้องเข้าสังคม

ความเครียด มีกี่ระดับ? 

เวลาเราพูดถึง “ความเครียด” หลายคนอาจนึกว่าเป็นแค่ความรู้สึกกดดันหรือความวิตกกังวลแบบธรรมดา แต่ความจริงแล้วความเครียดนั้นมีหลายระดับ ในแต่ละระดับก็ส่งผลกับร่างกายเราไม่เหมือนกันนะ ซึ่งความเครียดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัว เรื่องงานเรื่องเรียน ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทำให้รู้สึกกดดันมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าเราอยากรู้ว่าตัวเองกำลังเครียดแค่ไหน แล้วความเครียดแบบไหนที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ ก็ตามเรามาดูความเครียดทั้ง 4 ระดับนี้เลย

ความเครียดต่ำ (Mild Stress)

ความเครียดระดับนี้ยังอยู่ในแบบที่เรายังพอรับมือได้ บางครั้งอาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า ขาดแรงจูงใจ หรือรู้สึกเบื่อๆ หน่ายๆ ทำอะไรได้ช้าลง แต่โดยรวมยังไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตมากนัก ถ้ารู้สึกเครียดแบบนี้แค่พักผ่อน หรือหาเวลาผ่อนคลายสมองหน่อยก็ช่วยได้แล้วแหละจ้า

ความเครียดต่ำ (Mild Stress)

ความเครียดระดับกลาง (Moderate Stress)

ความเครียดในระดับนี้เป็นความเครียดที่เราพบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน อาจมีผลมาจากการทำงานหนักหรือมีปัญหาส่วนตัว แต่ยังพอจัดการได้ไม่ได้ทำให้ชีวิตพัง หากว่าปล่อยไว้นานๆ ก็อาจจะเริ่มมีอาการที่เห็นได้ชัดอย่างเช่น นอนไม่ค่อยหลับ หรือรู้สึกกังวลมากขึ้น หากมีความเครียดแบบนี้ลองหากิจกรรมที่ชอบที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ อย่างเช่น ดูหนังดูซีรีส์ ฟังเพลง ออกกำลังกาย หรือกอดคนที่รักดูบ้างก็ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เหมือนกันนะ

ความเครียดระดับสูง (High Stress)

เมื่อความเครียดเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เราจะเริ่มเห็นผลกระทบกับร่างกายที่ชัดเจนขึ้น เช่น ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ท้องอืด หรือแม้แต่พฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป เช่น กินจุขึ้นหรืออยากอาหารลดลง อารมณ์เริ่มแปรปรวน หรือรู้สึกหมดแรง ความเครียดระดับนี้เราควรหาใครสักคนมาพูดคุย หรือลองหันไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยลดความเครียดที่กำลังเผชิญ

ความเครียดระดับรุนแรง (Severe Stress)

ความเครียดระดับนี้ส่งผลกับชีวิตได้อย่างรุนแรงจนทำให้ชีวิตเริ่มเสียสมดุล เช่น มีอาการวิตกกังวลขั้นรุนแรง เกิดภาวะซึมเศร้า โรคเครียด หรือเกิดโรคทางจิตเวชอื่นๆ เช่น โรคแพนิค โรคกลัว (Phobia) โรคอารมณ์แปรปรวน กลัวการเข้าสังคม (Social Phobia) ไปจนถึงโรคซึมเศร้า (Depression) แบบนี้ต้องรีบพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในทันที เพราะถ้าไม่รีบรับการรักษาอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้อย่างยาวนาน

ความเครียดระดับรุนแรง (Severe Stress)

ภาวะเครียดกับการดูแลตัวเองแบบครบองค์รวมที่ S’RENE by SLC

ในยุคนี้ที่ชีวิตเราต้องเจอกับความกดดันมากมาย ภาวะเครียดกลายเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ แต่ถ้าไม่รู้วิธีจัดการให้ดี ความเครียดจะสะสมจนส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจได้แบบที่เราไม่ทันรู้ตัว สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งเข้าใจว่าร่างกายของเรากำลังตอบสนองต่อความเครียดอย่างไร เพื่อให้สุขภาพยังแข็งแรงและสมดุลอยู่เสมอ

โปรแกรมตรวจStressHormoneช่วยให้เข้าใจสุขภาพได้อย่างครบถ้วน

ชาวเมืองแบบเราๆ ต้องเผชิญปัญหาชีวิต ความเครียด ความกดดันอยู่ทุกวัน การตรวจฮอร์โมนความเครียดจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนยุคใหม่อย่างมาก ที่ S’RENE by SLC เรามีโปรแกรมตรวจ Stress Hormone โดยการวัดฮอร์โมนหลักที่เกี่ยวข้องกับความเครียดในร่างกาย ได้แก่

  • ระดับคอร์ติซอล (Cortisol) ฮอร์โมนหลักที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังเผชิญกับความกดดันหรือความเครียดมากแค่ไหน
  • ระดับดีเอชอีเอ (DHEAs) ฮอร์โมนที่ช่วยต้านความเครียดและรักษาสมดุลของร่างกาย

หลังจากตรวจเสร็จ ผลตรวจจะถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ช่วยให้เราปรับสมดุลฮอร์โมนและจัดการกับความเครียดได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โปรแกรมHyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) ทางเลือกใหม่ในการดูแลตัวเอง

นอกจากการตรวจฮอร์โมนความเครียดแล้ว การรักษาและฟื้นฟูร่างกายในช่วงที่เรามีความเครียดมากๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน S’RENE by SLC เรายังมีโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) หรือการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง ที่ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในระดับสูง ส่งผลให้เซลล์ต่างๆ ฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และช่วยลดผลกระทบของความเครียดต่อร่างกายได้อย่างเห็นผล

สรุปว่า ภาวะเครียด เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม!

สุดท้ายนี้ไม่ว่าเราจะเผชิญ ภาวะเครียด ที่มากหรือน้อยขนาดไหน การให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจก็เป็นเรื่องสำคัญ ลองแวะเข้ามาตรวจสุขภาพกับโปรแกรมตรวจ Stress Hormone หรือเลือกฟื้นฟูด้วยโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) าจจะเป็นทางเลือกหรือตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่รู้สึกอ่อนล้า หมดแรง หรือมีปัญหาการนอนหลับหลังจากเจอความเครียดมาหนักๆ นี่คือทางเลือกใหม่สำหรับคนยุคใหม่ แล้วมาดูแลสุขภาพกับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันที่ S’RENE by SLC เพื่อคืนสมดุลชีวิตและฟื้นฟูพลังอย่างมั่นใจไปด้วยกันนะจ๊ะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ที่: 

▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237 

▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร  099 807 7261 

▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร  081 249 7055 

▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669 

▪️ สาขา สยาม  – โทร 064 139 6390 และ 081-249-6392 

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่