คุณเคยรู้สึกไหมว่าตื่นเช้ามาแล้วสมองไม่แล่น มึน ๆ เบลอ ๆ เหมือนเมื่อคืน นอนไม่พอ หรือไม่ได้นอนเลย? ทั้ง ๆ ที่ก็นอนเร็วแล้วบางทีก็หงุดหงิดง่าย อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แบบไม่มีสาเหตุ? ถ้าใช่… คุณอาจกำลังเผชิญหน้ากับ “วิกฤตการนอน” ที่กำลังกัดกินคุณภาพชีวิตของคุณแบบเงียบ ๆ และคาดไม่ถึง!
ในยุคที่โลกหมุนเร็ว คนเรายิ่งต้องเร่งรีบทำทุกอย่างให้เสร็จ บางคนแทบไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าว หรือพักผ่อนให้เต็มที่ พอถึงเวลานอน ก็ดันนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืน พอเช้ามาก็ลากสังขารไปทำงาน สภาพเหมือนซอมบี้ที่เดินได้! คุณรู้ไหมว่าการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ หรือไม่มีคุณภาพเนี่ย มันส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจของเรามากกว่าที่คุณคิดนะ!
“นอนไม่พอ” คืออะไร? แล้วต่างจาก “นอนไม่หลับ” หรือ “นอนหลับไม่สนิท” ยังไง?
ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทั้ง นอนไม่พอ, นอนไม่หลับ, และ นอนหลับไม่สนิท มันไม่เหมือนกันนะ แต่ผลลัพธ์เหมือนกันตรงที่ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เต็มที่
- นอนไม่หลับ (Insomnia)
ภาวะที่คุณ เริ่มนอนก็ยาก หรือ นอนแล้วตื่นบ่อย หรือ ตื่นกลางดึกแล้วกลับไปนอนต่อไม่ได้ ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมารู้สึกไม่สดชื่น มักเกิดจากความเครียด วิตกกังวล สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม หรือโรคบางอย่าง
- นอนหลับไม่สนิท (Fragmented/Light Sleep)
ภาวะที่คุณ นอนได้ครบชั่วโมงตามที่ควรจะเป็น แต่เป็นการนอนแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ หรืออยู่แต่ในช่วงหลับตื้น ไม่ลงไปสู่การหลับลึก ร่างกายจึงไม่ได้ฟื้นฟูเต็มที่ ตื่นมาก็ยังรู้สึกเพลีย มักเกิดจากปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ หรือเสียงรบกวนระหว่างคืน - นอนไม่พอ (Sleep Deprivation)
ภาวะที่คุณนอนหลับได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ควรนอนหลับประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน การนอนไม่พอนี่แหละที่เป็นตัวการหลักที่ทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลีย สมองเบลอ อารมณ์แปรปรวน และประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด
สรุปง่าย ๆ ว่า ไม่ว่าจะนอนไม่พอ นอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท ผลลัพธ์ก็คล้ายกันคือ การนอนที่ไม่มีคุณภาพ ส่งผลให้ร่างกายและสมองทำงานแย่ลง อารมณ์แปรปรวน และเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ
สัญญาณเตือนภัย เมื่อการนอนไม่มีคุณภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
คุณอาจไม่รู้ตัวว่าการนอนไม่มีคุณภาพนั้นกำลังส่งสัญญาณเตือนภัยอยู่รอบตัวคุณ
1. สมองเบลอ คิดช้า ทำงานผิดพลาดบ่อยขึ้น
- ตื่นมาพร้อมอาการ “สมองล้า” : รู้สึกเหมือนสมองยังไม่ตื่นเต็มที่? การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจช้าลง? หรือมึน ๆ งง ๆ เหมือนคนเมาตลอดเวลา?
- สมาธิสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด : กำลังจดจ่อกับงานอยู่ดี ๆ ก็วอกแวกง่าย คิดนู่นคิดนี่จนทำงานไม่เสร็จ? นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าสมองของคุณทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ความจำแย่ลงอย่างน่าตกใจ : ลืมของบ่อย ๆ วางกุญแจไว้ไหนก็จำไม่ได้ ลืมสิ่งที่เพิ่งพูดไป? การนอนหลับสำคัญต่อการรวบรวมและจัดเก็บความจำ เมื่อคุณนอนไม่พอ สมองก็ไม่สามารถจัดระเบียบข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความจำแย่ลง
2. อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่ายกว่าปกติ
- ปรี๊ดแตกง่าย! : ใครพูดอะไรนิดหน่อยก็หงุดหงิดไปหมด อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนรถไฟเหาะ? บางทีก็รู้สึกซึมเศร้า หรือวิตกกังวลโดยไม่มีสาเหตุ? การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลกระทบโดยตรงต่อฮอร์โมนที่ควบคุมอารมณ์ ทำให้คุณควบคุมอารมณ์ได้ยากขึ้น
- ความอดทนต่ำลง : เคยเป็นคนที่ใจเย็นมาก่อน แต่ตอนนี้กลับทนอะไรได้ไม่นาน? การนอนน้อยทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า และเมื่อร่างกายเหนื่อยล้า ความอดทนของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย
3. ภูมิตก ป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย
- เป็นหวัดบ่อย ๆ : รู้สึกว่าตัวเองป่วยบ่อยขึ้น? เป็นหวัด ไอ เจ็บคอ อยู่บ่อย ๆ หรือไม่สบายแต่ละทีก็หายช้ากว่าปกติ? การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อคุณนอนไม่พอ ภูมิคุ้มกันก็จะอ่อนแอลง ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น
- แผลหายช้า : แผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ใช้เวลานานกว่าจะหาย หรือบางทีก็เป็นแผลร้อนในบ่อย ๆ? นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าร่างกายกำลังอ่อนแอ และฟื้นฟูตัวเองได้ช้าลง
4. ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น แม้จะตื่นแล้ว
- ง่วงนอนตลอดเวลา : แม้จะดื่มกาแฟไปหลายแก้ว ก็ยังรู้สึกง่วงนอนอยู่ดี? หรือบางทีก็เผลอหลับไปในที่ทำงาน?
- ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว : ตื่นมาพร้อมอาการปวดหัว ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือปวดเมื่อยตัวไปหมด?
- พลังงานไม่เต็มร้อย : รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ทำอะไรก็เหนื่อยง่ายกว่าปกติ?
5. น้ำหนักขึ้นง่าย ควบคุมน้ำหนักยาก
- หิวบ่อย กินเยอะขึ้น : การนอนไม่พอจะส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งควบคุมความอิ่ม และฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งกระตุ้นความหิว ทำให้คุณรู้สึกหิวบ่อยขึ้น และอยากอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล หรืออาหารที่มีไขมันสูง
- ระบบเผาผลาญแย่ลง : เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบเผาผลาญก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้สะสมไขมันได้ง่ายขึ้น และลดน้ำหนักได้ยากขึ้น
วิกฤตคนทำงาน เมื่อ “สมาธิสั้น เครียดเรื้อรัง ทำงานล้า” กลายเป็นเรื่องปกติ
สำหรับคนทำงานในปัจจุบัน การนอนไม่พอ หรือ นอนไม่มีคุณภาพ ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว! หลายคนทำงานหนัก แข่งกับเวลา ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พอเครียดสะสม พักผ่อนไม่พอ ก็ยิ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างน่าใจหาย
- สมาธิสั้นขั้นวิกฤต : หากใครต้องนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์เป็นชั่วโมง ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่คืบหน้า? หรือต้องเปิดหลาย ๆ หน้าจอทำงานพร้อมกัน แต่สุดท้ายก็งงไปหมดว่ากำลังทำอะไรอยู่? นี่คือผลลัพธ์โดยตรงจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ที่ทำให้สมองของคุณไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน ๆ
- ความเครียดเรื้อรังที่หาทางออกไม่ได้ : งานก็เยอะ เดดไลน์ก็บีบ ความกดดันรอบด้าน ทำให้คุณเครียดตลอดเวลา จนบางทีก็รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ? การนอนหลับไม่เพียงพอจะยิ่งทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ออกมามากขึ้น ทำให้คุณยิ่งเครียดสะสม และยากที่จะหลุดพ้นจากวงจรนี้
- “คาเฟอีนก็ช่วยไม่ได้แล้ว” : ในช่วงแรก ๆ อาจจะพอพึ่งกาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังได้บ้าง แต่เมื่อร่างกายอ่อนล้าถึงขีดสุด แม้จะดื่มคาเฟอีนไปเท่าไหร่ ก็รู้สึกเหมือนเดิม ไม่สดชื่นขึ้นเลย! นี่คือสัญญาณอันตรายว่าร่างกายของคุณกำลังอยู่ในภาวะ “พลังงานติดลบ” อย่างรุนแรง!
ถึงเวลาเอาคืนชีวิต! วิธีแก้อาการนอนไม่พอ พักผ่อนไม่เพียงพอ
เมื่อรู้แล้วว่าการนอนไม่มีคุณภาพมันส่งผลเสียร้ายแรงขนาดไหน ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันกลับมาดูแลตัวเอง และแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง! ลองใช้วิธีเหล่านี้ดูสิ
1. สร้างสุขลักษณะการนอนที่ดี (Sleep Hygiene)
- เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน : แม้ในวันหยุดก็ควรพยายามทำเวลานอนให้สม่ำเสมอ เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตให้เป็นระบบ
- จัดห้องนอนให้เหมาะสมกับการนอนหลับ : ห้องนอนควรเงียบ สงบ มืดสนิท และมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นสมองก่อนนอน : งดการเล่นโทรศัพท์มือถือ ดูทีวี เล่นเกม หรือทำงานหนักก่อนนอนอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
- งดคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน : คาเฟอีนและแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท
- หลีกเลี่ยงการงีบหลับนานเกินไปในช่วงกลางวัน : ถ้าจำเป็นต้องงีบ ควรจำกัดเวลาไม่เกิน 20-30 นาที เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับในเวลากลางคืน
2. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายได้ปลดปล่อยพลังงาน และช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนนอน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : เน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง วิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง หรือรสจัดก่อนนอน
- จัดการความเครียด : หาเวลาผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ ฟังเพลงเบา ๆ อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ
- สร้างกิจวัตรก่อนนอน : ลองทำกิจวัตรที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือเบา ๆ หรือฟังเพลงสบาย ๆ
3. หากิจกรรมผ่อนคลายสมอง
- การทำสมาธิ (Meditation): การฝึกสมาธิช่วยให้จิตใจสงบ คลายความกังวล และช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
- โยคะ (Yoga): โยคะเป็นการฝึกทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่น ผ่อนคลาย และลดความเครียด
- การฟังเพลงบำบัด (Music Therapy): การฟังเพลงบรรเลง หรือเพลงที่มีจังหวะช้า ๆ สบาย ๆ ก่อนนอน ช่วยให้จิตใจสงบ และเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ
รวมเทคโนโลยีฟื้นฟูล้ำลึก แก้ปัญหานอนไม่พอ พร้อมอัปเกรดการดูแลสุขภาพ
สำหรับใครที่ลองทำทุกวิถีทางแล้ว แต่การนอนก็ยังไม่ดีขึ้น หรือรู้สึกว่าอาการหนักเกินกว่าจะแก้ด้วยตัวเองได้ การปรึกษาผู้ชำนาญการ และพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์บางอย่าง ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน! โดยเฉพาะที่ S’RENE by SLC เรามีโปรแกรมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูทั้งสมองและร่างกายของคุณ ให้กลับมาสดใส มีพลังงานเต็มเปี่ยมอีกครั้ง!
1. โปรแกรม ExoMind™ Therapy ปลุกพลังสมองให้กลับมาสดใส มีสมาธิมากขึ้น!
โปรแกรม Exo Mind คือนวัตกรรมการฟื้นฟูและกระตุ้นการทำงานของสมองด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดพิเศษ (Transcranial Magnetic Stimulation – TMS) ที่ทำงานโดยตรงกับเซลล์สมอง ช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาท และกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ ทำให้สมองกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด!




โปรแกรม ExoMind™ Therapy เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสมาธิ : ไม่ว่าจะเป็นสมาธิสั้น วอกแวกง่าย หรือไม่สามารถจดจ่อกับงานได้นาน ๆ โปรแกรม Exo Mind จะช่วยปรับคลื่นสมองให้กลับมาอยู่ในภาวะที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการทำงาน ทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น โฟกัสได้ดีขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการคิดวิเคราะห์และจดจำ : สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานที่ต้องใช้สมองหนัก ๆ โปรแกรม Exo Mind จะช่วยเสริมสร้างความจำ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
- ผู้ที่มีภาวะสมองล้า อ่อนเพลียเรื้อรัง : เมื่อสมองได้รับการฟื้นฟูและกระตุ้นอย่างถูกวิธี อาการสมองเบลอ มึนงง ความคิดช้า ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีพลังงานในการทำงานและใช้ชีวิต
- ผู้ที่มีอาการเครียด วิตกกังวล หรือนอนไม่หลับเรื้อรัง : โปรแกรม Exo Mind ช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความเครียด ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น
2. โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy: เติมออกซิเจนให้ร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ ฟื้นฟูการนอน!
โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) หรือการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง คือการให้ร่างกายได้รับออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% ในสภาพแวดล้อมที่มีความดันสูงกว่าปกติ (คล้ายกับการดำน้ำลงไปใต้ทะเลลึก ๆ) ซึ่งจะช่วยให้ออกซิเจนสามารถละลายเข้าสู่กระแสเลือดได้มากขึ้น และซึมผ่านไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างทั่วถึง รวมถึงเนื้อเยื่อที่ปกติแล้วเลือดไปเลี้ยงได้ไม่ดีนัก ทำให้เซลล์ทุกส่วนของร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ และฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว


โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่นอนไม่พอ นอนไม่ลึก มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ : ออกซิเจนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายและสมองผ่อนคลาย ลดความเครียด และช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น หลับได้ลึกขึ้น ตื่นมาสดชื่น
- ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง อ่อนล้าจากการทำงาน : เมื่อเซลล์ต่าง ๆ ได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ร่างกายก็จะผลิตพลังงานได้ดีขึ้น ลดอาการอ่อนเพลีย และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการเจ็บป่วย หรือออกกำลังกายหนัก : ออกซิเจนช่วยลดการอักเสบ เร่งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง : สมองต้องการออกซิเจนเป็นอย่างมาก การได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของความจำ สมาธิ และการคิดวิเคราะห์
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย และดูแลสุขภาพผิว : ออกซิเจนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการอักเสบของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์
สรุป อย่าปล่อยให้ “นอนไม่พอ” หรือ “การนอนไม่มีคุณภาพ” มาทำลายชีวิตคุณ!
เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ป้องกันและนักกายภาพบำบัดที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องของการนอนหลับ พร้อมให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะะเป็นการปรับพฤติกรรม การใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง
โปรแกรม ExoMind™ Therapy เพื่อฟื้นฟูสมอง หรือ โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy เพื่อฟื้นฟูร่างกายจากภายในสู่ภายนอก
ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน!
เพราะชีวิตดี ๆ เริ่มต้นจากการนอนหลับที่มีคุณภาพ!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายล่วงหน้า
สาขาทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237
สาขาชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร 099 807 7261
สาขาพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
สาขา สยาม – โทร 064 139 6390 และ 081-249-6392
LINE Official: @SRENEbySLC
หรือคลิก https://lin.ee/0lP04DK
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่