เรื่องน่ารู้

Blogs

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เกราะป้องกันเซลล์เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

สารต้านอนุมูลอิสระ คืออะไร

ทำไมคนที่อายุเท่ากัน บางคนถึงดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงมาก ในขณะที่บางคนกลับมีริ้วรอยและร่างกายเสื่อมเร็วกว่าที่ควร? หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ “สารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ “Antioxidant” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกายจากความเสื่อม

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มลภาวะรอบตัวเพิ่มสูงขึ้น ความเครียดจากการทำงาน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ร่างกายต้องเผชิญกับ “อนุมูลอิสระ” มากกว่าที่เคย สารพิษเหล่านี้คอยทำลายเซลล์และเร่งความเสื่อมของร่างกายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ตั้งแต่ผิวพรรณหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย ไปจนถึงความเสี่ยงของโรคร้ายแรงต่าง ๆ

บทความนี้จะพาทำความรู้จักกับสารต้านอนุมูลอิสระให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งประโยชน์ และวิธีการเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากความเสื่อมก่อนวัย

antioxidant คืออะไร เข้าใจกลไกการปกป้องเซลล์จากความเสื่อม

ในแต่ละวัน ร่างกายต้องเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมลพิษ รังสี UV จากแสงแดด ควันบุหรี่ หรือแม้แต่ความเครียด สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ในร่างกาย

อนุมูลอิสระคืออะไร?

อนุมูลอิสระ (Free Radical) เป็นโมเลกุลที่ขาดอิเล็กตรอน ทำให้มีความไม่เสถียรและว่องไวต่อการทำปฏิกิริยา เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย การสัมผัสมลพิษ รังสี UV ควันบุหรี่ และความเครียด เมื่ออนุมูลอิสระพบกับเซลล์ปกติในร่างกาย มันจะดึงอิเล็กตรอนจากโครงสร้างสำคัญของเซลล์ ทั้งเยื่อหุ้มเซลล์ โปรตีน และ DNA ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อองค์ประกอบของเซลล์

ปฏิกิริยาออกซิเดชันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เมื่ออนุมูลอิสระดึงอิเล็กตรอนจากเซลล์ปกติ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) กระบวนการนี้ทำให้โครงสร้างของเซลล์เปลี่ยนแปลง เกิดความเสียหาย และนำไปสู่การอักเสบ ส่งผลให้เซลล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดเป็นปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตั้งแต่ริ้วรอยก่อนวัย ความเสื่อมของอวัยวะ ไปจนถึงโรคเรื้อรังร้ายแรง

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คืออะไร?

สารต้านอนุมูลอิสระหรือ antioxidant คือโมเลกุลที่สามารถให้อิเล็กตรอนแก่อนุมูลอิสระ โดยตัวเองยังคงเสถียร ทำให้สามารถหยุดยั้งปฏิกิริยาลูกโซ่ของการทำลายเซลล์ได้ การมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เพียงพอจึงช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ ลดการอักเสบ และชะลอความเสื่อมของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของ antioxidant กุญแจสู่สุขภาพที่แข็งแรง

การมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม เนื่องจากร่างกายต้องเผชิญกับอนุมูลอิสระจากหลายแหล่งที่มา ทั้งจากสิ่งแวดล้อม อาหาร และกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งล้วนส่งผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับเซลล์ไปจนถึงอวัยวะ

ความสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระต่อร่างกาย

สารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์จากความเสียหาย กำจัดสารพิษ และลดการอักเสบในร่างกาย การทำงานที่มีประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล ทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท และระบบการเผาผลาญพลังงาน

ผลกระทบต่อร่างกายหากขาดสารต้านอนุมูลอิสระ

การขาดสารต้านอนุมูลอิสระส่งผลให้เซลล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดการอักเสบเรื้อรัง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และมะเร็ง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพผิว ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหมองคล้ำ และขาดความยืดหยุ่น

การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ การดูแลสุขภาพอย่างเป็นองค์รวมจะช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้มีสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว

สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) มีอะไรบ้างและแต่ละชนิดช่วยอะไร?

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เป็นคุณสมบัติพิเศษที่พบในสารบางชนิด ซึ่งแต่ละสารมีความสามารถในการปกป้องและฟื้นฟูเซลล์แตกต่างกันไป สารที่มีคุณสมบัตินี้ได้แก่

วิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวพรรณ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบและป้องกันหวัด พบได้ในผลไม้ตระกูลส้ม พริกหวาน กีวี และผักใบเขียว

วิตามินอี (Vitamin E)

วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์และเส้นประสาท ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และบำรุงผิวพรรณ พบมากในน้ำมันพืช ถั่ว และเมล็ดธัญพืช

โคเอนไซม์คิวเทน (CoQ10)

โคเอนไซม์คิวเทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ มีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงานระดับเซลล์ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจ และชะลอความเสื่อมของระบบประสาท พบได้ในเนื้อสัตว์ ปลา และถั่วเหลือง

เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene)

เบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และระบบภูมิคุ้มกัน พบมากในผักผลไม้สีส้ม-แดง เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอ

ไลโคปีน (Lycopene)

ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคหัวใจ พบมากในมะเขือเทศ แตงโม และส้มโอสีชมพู

การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายจะช่วยเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และรักษาสมดุลของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) พบได้ที่ไหนจากแหล่งใดบ้าง?

ปัจจุบันสามารถเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้ร่างกายได้หลายวิธี ตั้งแต่การรับประทานอาหารธรรมชาติ การดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ ไปจนถึงการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและการทำโปรแกรม IV Drip Therapy เพื่อให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างครบถ้วนและเพียงพอ

อาหารธรรมชาติที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ผักและผลไม้หลากสีคือแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ละชนิดมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยดูแลสุขภาพในด้านต่าง ๆ

  • สีแดง (มะเขือเทศ, แตงโม): อุดมด้วยไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง
  • สีส้ม-เหลือง (แครอท, ฟักทอง): มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ
  • สีเขียว (บรอกโคลี, คะน้า): มีวิตามินซีและลูทีนสูง ช่วยต้านมะเร็งและบำรุงสายตา

เครื่องดื่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

  • ชาเขียว: มีคาเทชินสูง ช่วยเผาผลาญไขมัน ต้านมะเร็ง และชะลอวัย
  • น้ำทับทิม: อุดมด้วยโพลีฟีนอล ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
  • น้ำมะเขือเทศ: มีไลโคปีนสูง ช่วยต้านมะเร็งและบำรุงผิวพรรณ
  • น้ำอัญชัน: มีแอนโธไซยานิน ช่วยบำรุงสายตาและชะลอความแก่

อาหารเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ

สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเติม อาหารเสริมเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เช่น

  • วิตามินซีและอี: เสริมภูมิคุ้มกันและช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลาย
  • โคเอนไซม์คิวเทน (CoQ10): ช่วยฟื้นฟูพลังงานเซลล์และลดการอักเสบ
  • แอสตาแซนธิน (Astaxanthin): มีคุณสมบัติเด่นในการลดริ้วรอยและปกป้องผิวจากแสงแดด

โปรแกรม IV Drip Therapy

โปรแกรมดริปวิตามิน IV Drip Therapyเป็นการดูแลสุขภาพที่ช่วยเพิ่มวิตามินและสารสำคัญอย่างตรงจุด ให้ร่างกายได้ดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเลือกสูตรที่เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล ตั้งแต่การเสริมภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูผิวพรรณ ไปจนถึงสูตร Super Antioxidant ที่ช่วยเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบของร่างกาย

การเสริมสารต้านอนุมูลอิสระในแต่ละวันจากอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะช่วยปกป้องเซลล์ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และส่งเสริมสุขภาพในระยะยาว การดูแลสุขภาพเริ่มต้นจากการเลือกรับประทานสิ่งที่ดีเพื่อร่างกายของคุณ

ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) จากภายในสู่ภายนอกเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

สารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไปจนถึงการชะลอวัย ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระกลายเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพยุคปัจจุบัน

1. ป้องกันและลดความเสี่ยงโรค

สารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคร้ายแรงหลายชนิด โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้วยการช่วยลดการอุดตันและปกป้องหลอดเลือดจากความเสียหาย นอกจากนี้ยังช่วยต้านการเกิดและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน และชะลอความเสื่อมของเซลล์สมองซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม

2. ชะลอวัยและฟื้นฟูผิวพรรณ

ผิวพรรณที่สดใสเปล่งปลั่งเป็นผลมาจากการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย และป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UV พร้อมทั้งช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น

3. เสริมระบบภูมิคุ้มกัน

สารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งลดการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายมีความต้านทานต่อการติดเชื้อดีขึ้น และสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังการเจ็บป่วย การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสม่ำเสมอจึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น

4. ฟื้นฟูและเพิ่มพลังงาน

การทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระในระดับเซลล์ส่งผลโดยตรงต่อการสร้างพลังงานในร่างกาย โดยช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานหลักของเซลล์ ทำให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น ลดความเหนื่อยล้า และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย และส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

5. ปกป้องและบำรุงสมอง

สมองเป็นอวัยวะที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากเซลล์สมองต้องการพลังงานสูงและมีความไวต่อความเสียหายจากอนุมูลอิสระ การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย ส่งผลให้ความสามารถในการจดจำและการเรียนรู้ดีขึ้น ระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพสมองในระยะยาว

การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี และชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ร่วมกับการดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ อย่างเหมาะสม จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคภัยในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ antioxidant

คนทั่วไปจำเป็นต้องทานอาหารเสริมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือไม่?

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถได้รับจากอาหารธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่หลากหลาย การทานอาหารเสริมอาจจำเป็นในกรณีที่ไม่สามารถได้รับสารอาหารจากอาหารในปริมาณที่เพียงพอ

การบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไปส่งผลเสียหรือไม่?

แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลเสีย เช่น รบกวนสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงของปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายได้ ดังนั้น การบริโภคอย่างพอดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ

สารต้านอนุมูลอิสระช่วยรักษาโรคได้จริงหรือไม่?

สารต้านอนุมูลอิสระไม่ใช่ยารักษาโรค แต่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ผ่านการปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพโดยรวม ร่วมกับการรักษาตามแนวทางการแพทย์ที่เหมาะสม

น้ำผลไม้และอาหารแปรรูปยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือไม่?

อาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมักมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระลดลง โดยเฉพาะการใช้ความร้อนหรือการเก็บรักษาเป็นเวลานาน น้ำผลไม้คั้นสดจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำผลไม้บรรจุขวด การรับประทานผักและผลไม้สดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ

ควรรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระตอนไหนของวัน?

การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระควรทำอย่างสม่ำเสมอตลอดวัน โดยเฉพาะในมื้อเช้าและหลังออกกำลังกาย เนื่องจากร่างกายต้องการสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ การรับประทานผักและผลไม้หลากสีในแต่ละมื้อจะช่วยให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายและครบถ้วน

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถทดแทนการดูแลสุขภาพด้านอื่นได้หรือไม่?

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ ไม่สามารถทดแทนการดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ได้ การมีสุขภาพที่ดีต้องอาศัยการดูแลอย่างรอบด้าน ทั้งการออกกำลังกายสม่ำเสมอ การพักผ่อนเพียงพอ การจัดการความเครียด และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน

สรุปความรู้เกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) แนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในชีวิตประจำวันผ่านการรับประทานผักผลไม้หลากสี อาหารที่มีประโยชน์ หรือผลิตภัณฑ์เสริมที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ชะลอความเสื่อมของร่างกาย และส่งเสริมสุขภาพในระยะยาว

เมื่อร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่เพียงช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกัน และปกป้องร่างกายจากผลกระทบของมลภาวะในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โปรแกรมดูแลสุขภาพเพื่อฟื้นฟูร่างกายที่ S’RENE by SLC

S’RENE by SLC นำเสนอโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ

โปรแกรม IV Drip Therapy สูตร Chelation: โปรแกรมดีท็อกซ์สารพิษและโลหะหนักในร่างกาย ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูการทำงานของอวัยวะสำคัญ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการล้างพิษเพื่อลดการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย

โปรแกรม IV Drip Therapy สูตร Super Antioxidant: โปรแกรมดริปวิตามินเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ ลดการอักเสบ และเสริมสร้างการป้องกันจากมลภาวะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง

โปรแกรม DFPP (Double Filtration Plasmapheresis): โปรแกรมกรองพลาสมาในเลือดสองชั้น ที่ช่วยกำจัดสารพิษ โปรตีนที่ผิดปกติ และสารก่อภูมิแพ้ในร่างกาย พร้อมลดปฏิกิริยาออกซิเดชันและฟื้นฟูสมดุลของร่างกายอย่างล้ำลึก

การดูแลสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล ที่ S’RENE by SLC มีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันคอยให้คำแนะนำ เพื่อให้การดูแลสุขภาพของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

ก้าวสู่การมีสุขภาพที่แข็งแรงและสมดุล พร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นได้แล้ววันนี้ที่ S’RENE by SLC

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองคิวปรึกษาแพทย์ที่ S’RENE by SLC ได้แล้ววันนี้

  • สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237
  • สาขา Paradise Park ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
  • สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
  • LINE: @SRENEbySLC
  • หรือคลิก https://bit.ly/3IlXtvw

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่

Reference

Rusu, M. E., Fizeșan, I., Vlase, L., & Popa, D. S. (2022). Antioxidants in Age-Related Diseases and Anti-Aging Strategies. Antioxidants (Basel, Switzerland), 11(10), 1868. https://doi.org/10.3390/antiox11101868

Miyazawa, T., Abe, C., Burdeos, G. C., Matsumoto, A., & Toda, M. (2022). Food Antioxidants and aging: Theory, current evidence and perspectives. Nutraceuticals, 2(3), 181–204. https://doi.org/10.3390/nutraceuticals2030014

Fusco, D., Colloca, G., Lo Monaco, M. R., & Cesari, M. (2007). Effects of antioxidant supplementation on the aging process. Clinical interventions in aging, 2(3), 377–387.

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่