เรื่องน่ารู้

Blogs

น้ำอสุจิเยอะ เพราะอะไร? แล้วแบบไหนถึงจะมีคุณภาพ?

น้ําอสุจิเยอะ เพราะอะไร

คุณอาจจะเคยสงสัยว่า น้ำอสุจิเยอะ เพราะอะไร แล้วอสุจิเยอะจะดีมั้ย หรือน้ำ อสุจิ น้อยจะมีผลต่อสุขภาพ หรือโอกาสในการตั้งครรภ์บ้างมั้ย? แล้วถ้าหากมีเยอะหรือน้อย จะส่งผลเสีย หรือเกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างไรบ้างนะ?

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเจ้าตัวอสุจิ รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำอสุจิ พร้อมทั้งเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพเพื่อเสริมคุณภาพและความสมบูรณ์ของน้ำอสุจิ เพราะการเข้าใจในเรื่องนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นใจในสุขภาพของตัวเอง แต่ยังอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้อีกด้วย

อสุจิคืออะไร? เรื่องเพศที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

อสุจิ หรือ Sperm คือเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชายที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการปฏิสนธิ มีลักษณะรูปร่างคล้าย “ลูกอ๊อด” เมื่ออสุจิถูกปล่อยออกมาผ่านน้ำอสุจิ จะทำหน้าที่สำคัญในการปฏิสนธิกับไข่ของเพศหญิง แล้วสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมา หรือตั้งครรภ์นั่นเอง

ส่วนที่เป็นเมือกข้น ๆ ใส ๆ ที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่าน้ำเชื้อ ก็คือ น้ำอสุจิ หรือ Semen คือของเหลวที่ถูกหลั่งออกมาระหว่างการถึงจุดสุดยอด (Orgasm) ของเพศชาย ประกอบไปด้วยตัวอสุจิ สารอาหารและของเหลวที่ช่วยคงสภาพอสุจิให้อยู่รอด รวมถึงเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อสุจิ (Sperm) ประกอบด้วย?

  • หัว (Head): บรรจุสารพันธุกรรม (DNA) ที่จะถ่ายทอดสู่ลูก
  • ตัวกลาง (Midpiece): ให้พลังงานแก่อสุจิสำหรับการเคลื่อนไหว
  • หาง (Tail): ช่วยให้อสุจิสามารถว่ายน้ำไปหาไข่ได้

น้ำอสุจิ (Semen) ประกอบด้วย?

  • ตัวอสุจิ (Sperm): เป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิ
  • ของเหลวจากต่อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

• น้ำเลี้ยงจากต่อมลูกหมาก (Prostatic Fluid): ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปกป้องอสุจิ

• น้ำเลี้ยงจากถุงน้ำเชื้อ (Seminal Vesicle): มีสารอาหาร เช่น ฟรุกโตส เพื่อให้พลังงานแก่อสุจิ

• ของเหลวจากต่อมคาวเปอร์ (Cowper’s Gland): ช่วยหล่อลื่นและปรับค่า pH ให้เหมาะสม

ความสำคัญของทั้งสองอย่าง

  • Sperm: เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะมีหน้าที่ในการนำสารพันธุกรรมส่งต่อเพื่อสร้างชีวิตใหม่
  • Semen: มีบทบาทในการสนับสนุน ช่วยให้อสุจิอยู่รอดและเคลื่อนที่ไปยังไข่ได้สำเร็จ

ทั้งสองสิ่งนี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ระบบสืบพันธุ์ชายทำงานอย่างสมบูรณ์ และมีบทบาทสำคัญในกระบวนการตั้งครรภ์ ดังนั้นการรู้จักองค์ประกอบและบทบาทของน้ำอสุจิช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของระบบสืบพันธุ์ได้ดียิ่งขึ้น

อสุจิปริมาณเท่าไหร่ถึงท้องได้? ควรเน้นคุณภาพหรือปริมาณ?

ตามข้อมูลทางการแพทย์ ปริมาณน้ำอสุจิ หรือน้ำเชื้อที่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ควรอยู่ที่ประมาณ 1.5-5 มิลลิลิตร ต่อการหลั่งหนึ่งครั้ง ซึ่งในปริมาณดังกล่าว ควรมีตัวอสุจิประมาณ 15 ล้านตัวต่อมิลลิลิตรขึ้นไป หากต่ำกว่านี้ อาจถือว่าอยู่ในภาวะ Oligospermia หรือมีภาวะน้ำอสุจิน้อย ซึ่งอาจทำให้ลดโอกาสในการปฏิสนธิได้

อย่างไรก็ตาม คุณภาพของอสุจิก็มีความสำคัญมากกว่าปริมาณน้ำอสุจิ หรือ semen หากตัวอสุจิมีการเคลื่อนไหวที่ดีและมีรูปร่างสมบูรณ์ แม้ปริมาณจะน้อย แต่ก็ยังสามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นควรทำการตรวจสุขภาพ หรือเช็กคุณภาพของอสุจิคุณผู้ชายด้วย

น้ำอสุจิเยอะเพราะอะไร? เป็นปัญหาสุขภาพมั้ย?

เรื่องน้ำอสุจิอาจเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนสงสัยว่า น้ำอสุจิเยอะ เพราะอะไร โดยเฉพาะเมื่อพบว่าน้ำอสุจิที่หลั่งออกมามีปริมาณมาก หรือบางครั้งอาจมีลักษณะผิดปกติ เกิดจากอะไร แล้วมีผลเสียต่อสุขภาพไหม ซึ่งปริมาณน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่

1. ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์หรือการหลั่ง: หากมีการหลั่งน้ำอสุจิไม่บ่อย เช่น เว้นช่วงนานหลายวัน อาจทำให้มีปริมาณน้ำอสุจิที่หลั่งออกมามากขึ้น ในขณะที่การหลั่งบ่อย ๆ เช่น หลายครั้งในวันเดียว อาจทำให้ปริมาณลดลง

2. อายุ (Age): ช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยหนุ่มมักมีการผลิตน้ำอสุจิที่มากกว่าช่วงวัยผู้ใหญ่

  • ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ (ประมาณ 20-30 ปี) การผลิตน้ำอสุจิและอสุจิมักอยู่ในระดับสูงที่สุด เนื่องจากระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมนเพศชายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังวัย 40 ปี ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอาจลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำอสุจิและความเข้มข้นของอสุจิลดลงตามธรรมชาติ
  • อย่างไรก็ตาม ผู้ชายที่ดูแลสุขภาพร่างกายอย่างดีมักยังคงมีน้ำอสุจิในปริมาณที่เหมาะสมแม้ในวัยที่มากขึ้น

3. ระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone): ฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทสำคัญต่อการผลิตน้ำอสุจิ หากระดับฮอร์โมนสูง อาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำอสุจิมากขึ้น

4. การดื่มน้ำและโภชนาการ: การดื่มน้ำเพียงพอและรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน ช่วยสนับสนุนการผลิตน้ำอสุจิ โดยการขาดน้ำอาจส่งผลให้น้ำอสุจิมีลักษณะข้นและปริมาณลดลง

5. สุขภาพของต่อมลูกหมากและต่อมเพศชาย: ต่อมลูกหมาก (Prostate Gland) และต่อมสร้างน้ำเมือก (Seminal Vesicles) มีบทบาทในการสร้างน้ำหล่อลื่นและน้ำอสุจิ หากทั้งสองระบบนี้ทำงานดี น้ำอสุจิที่หลั่งออกมามักมีปริมาณที่เหมาะสม

6. การพักผ่อนและความเครียด: การพักผ่อนที่เพียงพอช่วยส่งเสริมระบบฮอร์โมนให้ทำงานสมดุล ในขณะที่ความเครียดอาจลดประสิทธิภาพของระบบสืบพันธุ์

7. ยาและอาหารเสริม (Medications and Supplements): ยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน C, E และ Zinc อาจช่วยเพิ่มการผลิตน้ำอสุจิได้

น้ำอสุจิน้อยเพราะอะไร?

อีกหนึ่งปัญหา และความสงสัยของคุณผู้ชายหลายคน น้ําอสุจิน้อย เพราะอะไรกันนะ?การที่น้ำอสุจิมีปริมาณน้อยอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางสุขภาพ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และปัจจัยทางสรีรวิทยา มาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้น้ำอสุจิน้อยกว่าปกติ

ฮอร์โมนไม่สมดุล (Hormonal Imbalance)

หากมีฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ที่ต่ำ จะส่งผลให้ปริมาณน้ำอสุจิลดลง รวมถึงฮอร์โมน FSH และ LH ที่ผิดปกติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างอสุจิโดยตรง อาจทำให้ร่างกายผลิตน้ำอสุจิน้อยลงได้

อายุ (Age) และวัยทองในผู้ชาย

เมื่ออายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลัง วัย 40 ปีขึ้นไป ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเริ่มลดลง ส่งผลต่อการผลิตน้ำอสุจิ รวมถึงผู้ที่เข้าสู่วัยทองผู้ชาย (Andropause) อาจจะต้องเจอกับภาวะที่ฮอร์โมนเพศชายลดลงตามธรรมชาติ ทำให้การผลิตอสุจิและน้ำอสุจิลดลง รวมถึงลดความต้องการทางเพศ (Libido) ผู้ชายที่เข้าสู่วัยทองอาจพบปัญหาน้ำอสุจิน้อยควบคู่กับอาการอื่น ๆ เช่น อ่อนเพลีย ซึมเศร้า หรือการสูญเสียกล้ามเนื้อ

ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)

การดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำอสุจิ เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำอสุจิ

การหลั่งบ่อยเกินไป

การหลั่งน้ำอสุจิบ่อยครั้ง เช่น การมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองหลายครั้งต่อวัน อาจทำให้ร่างกายมีเวลาผลิตน้ำอสุจิไม่ทัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำอสุจิลดลงในแต่ละครั้ง

ภาวะสุขภาพ (Health Conditions)

  • โรคอ้วน (Obesity): น้ำหนักเกินส่งผลต่อระดับฮอร์โมนและลดการผลิตน้ำอสุจิ
  • การอักเสบของต่อมลูกหมาก (Prostatitis): การติดเชื้อหรือการอักเสบของต่อมลูกหมาก อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำอสุจิลดลง
  • ภาวะท่อนำอสุจิอุดตัน (Obstruction of Seminal Vesicles): การอุดตันของท่อส่งน้ำอสุจิอาจลดปริมาณน้ำอสุจิที่หลั่งออกมา

ผลข้างเคียงจากยา (Medications)

ยาบางชนิด เช่น ยารักษาภาวะซึมเศร้า ยาคุมกำเนิดในผู้ชาย หรือยารักษามะเร็ง อาจมีผลข้างเคียงต่อการผลิตน้ำอสุจิ

พฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: สารพิษในบุหรี่และแอลกอฮอล์ลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบสืบพันธุ์
  • ความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ: ความเครียดเรื้อรังและการนอนหลับไม่เพียงพอมีผลต่อการผลิตฮอร์โมนและน้ำอสุจิ

การขาดสารอาหาร (Nutritional Deficiencies)

การขาดสารอาหารสำคัญ เช่น Zinc, วิตามิน C, วิตามิน E และ L-Carnitine ส่งผลให้ร่างกายผลิตน้ำอสุจิได้น้อยลง

น้ำอสุจิน้อย ท้องได้ไหม ?

คำตอบคือ มีโอกาส”ท้องได้” แต่โอกาสอาจน้อยลงหากปริมาณน้ำอสุจิและตัวอสุจิต่ำ อย่างไรก็ตามถ้าอสุจิที่มีอยู่ยังมีคุณภาพดีและแข็งแรงก็สามารถทำให้ปฏิสนธิกับไข่ได้

น้ำอสุจิเยอะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์หรือเปล่า?

หลายคนอาจคิดว่าน้ำอสุจิที่มีปริมาณมากสามารถเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ แต่ในความเป็นจริง ปริมาณน้ำอสุจิไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเพียงอย่างเดียว สิ่งที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์จริง ๆ คือ คุณภาพของอสุจิ และ สุขภาพของระบบสืบพันธุ์ทั้งฝ่ายชายและหญิง ตัวอสุจิที่แข็งแรงและมีการเคลื่อนไหวที่ดี คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ ดังนั้น อย่ากังวลเพียงปริมาณ แต่ควรใส่ใจคุณภาพร่วมด้วย

น้ำอสุจิเยอะไม่ได้แปลว่าอสุจิจะมีคุณภาพเสมอไป

  • น้ำอสุจิเยอะอาจดูเหมือนเป็นสัญญาณที่ดี แต่สิ่งสำคัญคือ จำนวนและคุณภาพของอสุจิในน้ำอสุจิ
  • หากอสุจิแข็งแรง เคลื่อนไหวได้ดี (Motility) และมีรูปร่างสมบูรณ์ (Morphology) โอกาสตั้งครรภ์ก็จะสูงขึ้น
  • หากน้ำอสุจิเยอะแต่ไม่มีอสุจิที่แข็งแรง โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ยังต่ำ

ความเข้มข้นของอสุจิ (Sperm Concentration)

ปริมาณน้ำอสุจิเยอะอาจทำให้ความเข้มข้นของอสุจิลดลงในบางกรณี เช่น หากน้ำอสุจิเยอะมาก แต่ความเข้มข้นของอสุจิต่ำ (ต่ำกว่า 15 ล้านตัว/มิลลิลิตร) อาจลดโอกาสในการปฏิสนธิ

ปริมาณที่เหมาะสม

ปริมาณน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาในแต่ละครั้งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-5 มิลลิลิตร หากอยู่ในช่วงนี้และมีคุณภาพอสุจิที่ดี โอกาสตั้งครรภ์จะไม่ขึ้นอยู่กับว่าปริมาณน้ำอสุจิเยอะหรือน้อย

สีของน้ำอสุจิ ควรเป็นสีอะไร?

น้ำอสุจิที่มีสุขภาพดีควรมีลักษณะและสีที่บ่งบอกถึงระบบสืบพันธุ์ที่ทำงานได้ปกติ โดยปกติแล้วน้ำอสุจิจะมีลักษณะเป็นของเหลวขุ่นเล็กน้อย และมีสีตั้งแต่ขาวขุ่นไปจนถึงเทาอ่อน ซึ่งเป็นสีที่พบได้ทั่วไปในผู้ชายที่มีสุขภาพดี

อย่างไรก็ตาม สีของน้ำอสุจิอาจเปลี่ยนไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น สุขภาพ การรับประทานอาหาร การดื่มน้ำ และปัญหาทางสุขภาพ หากสีของน้ำอสุจิเปลี่ยนแปลงไป อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่ควรใส่ใจ

  1. สีขาวขุ่นหรือเทาอ่อน (ปกติ) เป็นลักษณะปกติของน้ำอสุจิในผู้ชายที่สุขภาพดี สีขาวขุ่นเกิดจากโปรตีนและสารอาหารที่ประกอบอยู่ในน้ำอสุจิ รวมถึงตัวอสุจิเอง
  2. สีเหลืองอ่อน: เกิดจากการสะสมของน้ำอสุจิที่ไม่ได้หลั่งออกมานาน การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น กระเทียมหรือหัวหอม การปนเปื้อนของปัสสาวะเล็กน้อยในน้ำอสุจิ หากไม่มีอาการผิดปกติอื่นร่วม เช่น กลิ่นผิดปกติหรืออาการเจ็บปวด สีเหลืองมักไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล
  1. สีชมพูหรือแดง (อันตราย): อาจบ่งบอกถึง ภาวะเลือดปนในน้ำอสุจิ (Hematospermia) สาเหตุอาจเกิดจากการอักเสบหรือการติดเชื้อในต่อมลูกหมาก การบาดเจ็บของท่อนำอสุจิ และภาวะหลอดเลือดแตกเล็ก ๆ ในระบบสืบพันธุ์ หากน้ำอสุจิมีสีแดงหรือชมพู ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  1. สีเขียว (อันตราย): อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือการอักเสบของต่อมลูกหมาก มักมาพร้อมกับกลิ่นที่ผิดปกติและอาการปวดบริเวณอวัยวะเพศหรือท้องน้อย
  1. สีใส: น้ำอสุจิใส อาจเกิดจากการมีปริมาณตัวอสุจิในน้ำอสุจิต่ำ (Low Sperm Count) หรือการหลั่งน้ำอสุจิที่บ่อยเกินไป หรือมีการดื่มน้ำในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลให้ความเข้มข้นของอสุจิลดลง รวมถึงมีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น การติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ หากพบว่าน้ำอสุจิใสต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินคุณภาพของน้ำอสุจิ

น้ำอสุจิน้อย ไม่มีคุณภาพ ควรทำยังไงดี? เรามีคำตอบให้

น้ำอสุจิน้อยควรทำยังไง แล้วถ้าไม่มีคุณภาพจะทำยังไงได้บ้าง การที่น้ำอสุจิน้อยและอสุจิไม่มีคุณภาพ อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งปัจจัยทางสุขภาพ การใช้ชีวิต และปัญหาทางสรีรวิทยา หากต้องการเพิ่มปริมาณน้ำอสุจิและปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น สามารถทำตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำอสุจิ การดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วช่วยเพิ่มปริมาณน้ำอสุจิและทำให้น้ำอสุจิไม่ข้นจนเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการหลั่งบ่อยเกินไป: การมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองบ่อยครั้งอาจทำให้ร่างกายผลิตน้ำอสุจิไม่ทัน ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้ระบบผลิตน้ำอสุจิทำงานได้เต็มที่
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์: สารพิษในบุหรี่และแอลกอฮอล์ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์โดยตรง ทำให้การผลิตน้ำอสุจิลดลง
  • ลดความเครียด: ความเครียดทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง ส่งผลให้ร่างกายผลิตน้ำอสุจิได้น้อยลง การผ่อนคลายด้วยการทำสมาธิหรือออกกำลังกายช่วยลดความเครียดได้
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับช่วยให้ฮอร์โมนสมดุลและร่างกายฟื้นฟูตัวเอง

2. ปรับปรุงโภชนาการ

  • เพิ่ม Zinc ในอาหาร: สังกะสีเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำอสุจิ พบในอาหาร เช่น หอยนางรม ถั่ว เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
  • รับประทานวิตามิน C และ E: วิตามินเหล่านี้ช่วยปกป้องอสุจิจากความเสียหายและเพิ่มคุณภาพน้ำอสุจิ โดยอาหารที่แนะนำก็คือ ส้ม มะเขือเทศ อะโวคาโด
  • เสริมด้วย L-Carnitine: เป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับอสุจิ พบได้ในเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว
  • กินไขมันดี (Good Fats): ไขมันดีจากปลาแซลมอน อะโวคาโด และถั่ว ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและสนับสนุนการผลิตน้ำอสุจิ

3. ดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายแบบแอโรบิกช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชาย
  • ควบคุมน้ำหนัก: โรคอ้วนส่งผลต่อการผลิตน้ำอสุจิและฮอร์โมนเพศชาย การลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงความร้อนสูงบริเวณอัณฑะ: การใส่กางเกงในที่รัดแน่น การแช่น้ำร้อนบ่อย ๆ หรือการวางแล็ปท็อปบนตัก อาจลดประสิทธิภาพในการผลิตอสุจิ

4. ตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์

  • ตรวจระดับฮอร์โมน: หากน้ำอสุจิน้อยต่อเนื่อง ควรตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง เช่น FSH และ LH
  • รักษาปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง: เช่น ภาวะอุดตันของท่อนำอสุจิ การอักเสบของต่อมลูกหมาก หรือปัญหาทางระบบประสาท
  • การรักษาทางการแพทย์: ในกรณีที่ปริมาณน้ำอสุจิยังคงน้อยหลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แพทย์อาจแนะนำการรักษา เช่น ยากระตุ้นการผลิตฮอร์โมน (Clomiphene) หรือการฟื้นฟู และเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone Therapy)

5. อาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มน้ำอสุจิ

  • Zinc: กระตุ้นการผลิตฮอร์โมนและอสุจิ
  • L-Arginine: ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปยังอวัยวะเพศ
  • Coenzyme Q10: เสริมพลังงานให้กับตัวอสุจิ
  • Maca Root: สมุนไพรที่ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มปริมาณน้ำอสุจิ

สรุป น้ำอสุจิเยอะ เพราะอะไร ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือทำให้ท้องง่ายขึ้นมั้ย?

น้ำอสุจิ เป็นเรื่องที่ชายไทยไม่ค่อยได้ใส่ใจซะเท่าไหร่ รู้แต่ว่าน้ำอสุจิมีหน้าที่ทำให้ผู้หญิงท้องได้ แต่การเข้าใจเบื้องลึกของตัวอสุจินั้น จะทำให้เราเข้าใจถึงสุขภาพของตัวเองมากขึ้น บางคนต้องการมีบุตร บางคนกังวลเกี่ยวกับการหลั่ง ดังนั้นการที่น้ำอสุจิเยอะหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ และสุขภาพโดยรวม สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านอาหาร การออกกำลังกาย และการพักผ่อน เพื่อให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้เต็มที่และมีคุณภาพดีที่สุด

นอกจากนี้การปรึกษาแพทย์ รวมถึงการตรวจสุขภาพฮอร์โมน และน้ำอสุจิ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ โดยสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ซีรีน ซึ่งเรามีบริการตั้งแต่

  • ตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพศ กับโปรแกรม His & Her Wellness Lab Check Up Program MALE Level 3 (15,900.- 20 รายการตรวจ) เพื่อหาความเสี่ยงปัญหาสุขภาพเพศ พร้อมนำมาวางแผนการดูแล และฟื้นฟูสุขภาพเพศ
  • ฟื้นฟูภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายด้วย T-Shot กับโปรแกรม S’RENE Hormonal Booster For Men Program (15,000.- / ครั้ง) ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอย่างปลอดภัย และเพิ่มฮอร์โมนเพศชายอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมนต่ำ หรือมีปัญหาน้ำอสุจิ

หากสนใจคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพเพศชายและระบบสืบพันธุ์ สามารถปรึกษาเรื่อง His & Her Wellness ที่ S’RENE by SLC สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่

  • สาขา ทองหล่อ – โทร 064 184 5237
  • สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
  • สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Sperm Overview. Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/body/sperm

What Is Sperm? Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/sperm

Semen. Britannica. https://www.britannica.com/science/semen

What Is Semen? News-Medical. https://www.news-medical.net/health/What-is-Semen.aspx

Semen vs. Sperm: What’s the Difference? Healthline.https://healthline.com/health/semen-vs-sperm

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่