5 วิธีเช็กสัญญาณเตือน น้องชายไม่สู้? อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์สะดุด!

เคยรู้สึกไหมว่าช่วงนี้ความสัมพันธ์กับคนรักมันดูติด ๆ ขัด ๆ ไม่หวานชื่นเหมือนเก่า? บางทีปัญหาอาจจะมาจากเรื่องที่เราเขินอายเกินกว่าจะพูดออกมาตรง ๆ อย่างเรื่องที่ “น้องชายไม่สู้” หรือไม่แข็งแรงเต็มที่เหมือนเดิม บอกเลยว่าไม่ต้องอาย! เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกคน ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม สิ่งสำคัญไม่ใช่การหลีกเลี่ยง แต่คือการยอมรับและหาทางแก้ไขอย่างถูกวิธี เพราะปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่เรื่องบนเตียง แต่ยังบั่นทอนความมั่นใจของเราด้วย  

บทความนี้จะพาคุณผู้ชายทุกท่าน ไปทำความเข้าใจปัญหานี้ให้มากขึ้น พร้อม 5 วิธีง่าย ๆ ในการเช็กสัญญาณเตือน และเคล็ดลับที่จะช่วยปลุกพลังความเป็นชายของคุณให้กลับมาผงาดอีกครั้ง! 

น้องชายไม่สู้ คืออะไร? (เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ) 

คำว่า “น้องชายไม่สู้“ หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า “นกเขาไม่ขัน“ เป็นคำพูดง่าย ๆ ที่ใช้อธิบายภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้เต็มที่ หรือไม่สามารถคงความแข็งตัวไว้ได้นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีความสุข ซึ่งในภาษาทางการแพทย์จะเรียกว่า ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction – ED) 

ลองนึกภาพตามง่าย ๆ การที่น้องชายจะแข็งตัวได้นั้น ต้องอาศัยการทำงานที่สมบูรณ์ของหลายระบบในร่างกาย ทั้งระบบประสาท ฮอร์โมน และที่สำคัญที่สุดคือ “ระบบไหลเวียนเลือด“ ที่ต้องสูบฉีดเข้าไปในแกนอวัยวะเพศอย่างเพียงพอ เมื่อไหร่ก็ตามที่กลไกเหล่านี้ทำงานผิดปกติไป ปัญหา น้องชายอ่อนแรง ก็จะตามมา 

ปัญหานี้ไม่ใช่แค่เรื่องน่าอาย แต่มันคือ “สัญญาณเตือน” ที่ร่างกายกำลังส่งมาบอกเราว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพหลอดเลือด หัวใจ เบาหวาน หรือแม้กระทั่งความเครียดสะสม การปล่อยปัญหานี้ไว้โดยไม่แก้ไข ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ แต่ยังกระทบต่อความมั่นใจในฐานะผู้ชายของเราโดยตรง ดังนั้น การใส่ใจและหาวิธี แก้ปัญหา น้องชายไม่สู้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด 

5 วิธีเช็กสัญญาณเตือน “น้องชายไม่สู้” มาดูกันว่าคุณเข้าข่ายไหม? 

อยากรู้ว่าเราเข้าข่ายภาวะ น้องชายไม่สู้ หรือยัง? ลองมาเช็ก 5 สัญญาณเตือนง่าย ๆ ที่ร่างกายคุณอาจกำลังฟ้องอยู่ตอนนี้เลย 

1. สัญญาณเตือนยามเช้า (Morning Glory หายไปไหนนะ?)

จำความรู้สึกตอนตื่นนอนแล้วน้องชายแข็งตัวเต็มที่ได้ไหม? สิ่งนี้เรียกว่า “Morning Erection” หรือ Morning Glory ซึ่งเป็นสัญญาณของ สมรรถภาพทางเพศชาย ที่ยังแข็งแรงดีอยู่ มันบ่งบอกว่าระบบประสาทและระบบไหลเวียนเลือดยังทำงานได้เป็นปกติ แต่ถ้าช่วงหลังๆ มานี้คุณตื่นมาแล้วพบว่าน้องชายสงบนิ่ง ไม่ยอมลุกขึ้นมาเคารพธงชาติเหมือนเคย หรือเกิดขึ้นน้อยลงอย่างน่าใจหาย นี่อาจเป็นสัญญาณแรกๆ ที่ร่างกายกำลังบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว  

ดังนั้น การที่ “น้องชายไม่แข็ง“ ตอนเช้าจึงเป็นหนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ที่บ่งบอกว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับ ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือปัญหาด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่คุณควรสังเกตตัวเองและปรึกษาแพทย์หากยังไม่ดีขึ้น 

2. ความถี่และความแข็งแรงที่ลดลง

จากที่เคยพร้อมรบ ออกศึกได้บ่อย ๆ แต่พักหลังกลับรู้สึกว่าความต้องการลดลง หรือถึงแม้จะมีอารมณ์ แต่พอถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มจริงๆ น้องชายไม่แข็งตัว เต็มที่เหมือนเก่า มันดูอ่อนปวกเปียก ไม่สู้มือ ทำให้ขาดความมั่นใจกลางคันจนกิจกรรมต้องหยุดชะงัก การที่ความแข็งแรงลดลง อาจเป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ลดลง หรือปัญหาการไหลเวียนเลือดที่เริ่มติดขัด ทำให้การ ยืดเวลามีความสุข ทำได้ยากขึ้น 

นอกจากนี้ลองถามตัวเองในใจดูว่า ตอนนี้ น้องชายของคุณ แข็งที่ระดับไหน? ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ลองสังเกตตอนแข็งตัว ว่าแข็งแบบไหน เช็กได้จากการวัด EHS ที่นี่ เลย 

3. ใช้เวลา “ปลุก” นานขึ้น

สมัยหนุ่ม ๆ แค่โดนกระตุ้นนิดหน่อยก็พร้อมใช้งานทันที แต่เดี๋ยวนี้กลับต้องใช้เวลา “บิ๊วด์” นานขึ้นมาก หรือพูดง่าย ๆ ว่า น้องชายแข็งยาก ต้องอาศัยการเล้าโลมหรือการกระตุ้นที่หนักหน่วงกว่าเดิมกว่าน้องชายจะยอมตื่นตัวและแข็งได้เต็มที่ อาการนี้เปรียบเหมือนเครื่องยนต์ที่สตาร์ทติดยากขึ้น บ่งบอกว่าระบบการตอบสนองต่อสิ่งเร้าเริ่มช้าลง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความเหนื่อยล้าสะสม หรือการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีพอ 

4. อารมณ์อยากลดลง (Libido ตกต่ำ)

บางครั้งปัญหาก็ไม่ได้เริ่มที่ร่างกาย แต่อาจเริ่มจาก “ข้างใน” ของเราเอง สังเกตตัวเองดูว่าความต้องการทางเพศ หรือ “Libido” ของคุณลดลงไปจากเดิมหรือไม่? รู้สึกไม่ค่อยมีอารมณ์อยากจะทำกิจกรรมรักเหมือนเคย ความเฉยเมยนี้อาจเป็นผลโดยตรงจากความเครียดรุมเร้า ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดต่ำลง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อใจไม่มา กายก็ย่อมไม่พร้อมสู้รบไปด้วย 

5. ความเครียดและความวิตกกังวล

นี่คือวงจรอุบาทว์ที่น่ากลัวที่สุด! เมื่อคุณเคยเจอปัญหา น้องชายอ่อนแรง สักครั้ง ความกังวลก็จะเริ่มเกาะกินในใจ “ครั้งหน้าจะเป็นอีกไหม?” “เราจะทำให้แฟนผิดหวังหรือเปล่า?” ยิ่งคุณเครียดและกังวลมากเท่าไหร่ สมองก็จะยิ่งหลั่งสารที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงน้องชายได้ไม่ดีพอ และสุดท้ายมันก็ไม่สู้จริงๆ กลายเป็นความเครียดที่วนลูปไม่จบสิ้น ยิ่งกังวล…ก็ยิ่งไม่แข็ง 

แล้วจะปลุกน้องชายให้ตื่นยังไงดี? (เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำได้ทันที!) 

เมื่อเช็กสัญญาณแล้วพบว่าเข้าข่าย อย่าเพิ่งท้อใจไป! เรามี วิธีดูแลน้องชาย และปลุกพลังให้กลับมาคึกคักได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณเริ่มทำได้เลย 

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน เน้นการคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เพื่อกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ รวมถึงน้องชายได้ดีขึ้น 
• งดเหล้า งดบุหรี่: สองสิ่งนี้คือตัวร้ายทำลายหลอดเลือดโดยตรง การงดหรือลดปริมาณลงจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพหลอดเลือดให้กลับมาแข็งแรง 
• นอนหลับให้เพียงพอ: พยายามนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะช่วงเวลาที่เราหลับคือช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนและซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด 

2. เลือกกินอาหารบำรุงน้องชาย

การกินก็เป็นส่วนสำคัญในการ แก้ปัญหาน้องชายไม่สู้ ลองเน้นอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้ 

• สังกะสี (Zinc): สุดยอดแร่ธาตุเพื่อ สมรรถภาพทางเพศชาย พบมากใน หอยนางรม, เนื้อแดง, เมล็ดฟักทอง 
• วิตามินอี (Vitamin E): ช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด พบใน ถั่วต่างๆ เช่น อัลมอนด์, น้ำมันมะกอก, อะโวคาโด 
• โอเมก้า 3 (Omega-3): ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด หาได้จาก ปลาแซลมอน, ปลาทู, วอลนัต 

3. จัดการความเครียด

หาเวลาผ่อนคลายจากเรื่องงานและเรื่องกังวลใจ ลองทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือชวนคนรักไปทำกิจกรรมใหม่ๆ ร่วมกันเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี ลดความกดดันเรื่องบนเตียง และช่วยให้ความสัมพันธ์กลับมาแน่นแฟ้นขึ้น 

4. ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

หากลองปรับพฤติกรรมตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่อาการ น้องชายไม่สู้ ยังไม่ดีขึ้น การเดินเข้าไปปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคือทางเลือกที่ดีและปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยครับ ที่ S’RENE by SLC เรามีทีมที่ปรึกษาสุขภาพ และแพทย์ที่เข้าใจทุกปัญหาของผู้ชาย พร้อมให้คำปรึกษาอย่างเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่สบายใจ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ 

ฟื้นฟูน้องชายด้วยโปรแกรมดูแลสุขภาพเพศจาก S’’RENE by SLC 

ปัญหา น้องชายไม่สู้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป เพราะที่ S’RENE by SLC เราเข้าใจและพร้อมดูแลสุขภาพเพศของคุณด้วยโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและยั่งยืน 

1. ปรึกษาแพทย์และตรวจสุขภาพฮอร์โมน

ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการ ปรึกษาแพทย์ ด้านสุขภาพโดยเฉพาะ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา แพทย์จะทำการ ตรวจสุขภาพฮอร์โมน อย่างละเอียด โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อสมรรถภาพและความต้องการทางเพศ การตรวจอย่างละเอียดจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ 

2. ปรับสมดุลฮอร์โมน

หากพบว่าฮอร์โมนเพศชายของคุณอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ S’RENE by SLC มีโปรแกรม ปรับสมดุลฮอร์โมน ที่จะช่วยฟื้นฟูระดับฮอร์โมนให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและฟื้นฟูสมรรถภาพให้กลับมาดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

3. ฟื้นฟูและซ่อมแซมเส้นเลือด

ปัญหาการแข็งตัวส่วนใหญ่มักเกิดจาก การไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี ในส่วนนี้ S’RENE by SLC มีเทคโนโลยีและโปรแกรมที่ช่วย ฟื้นฟูและซ่อมแซมเส้นเลือด บริเวณอวัยวะเพศให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมยอดฮิตอย่าง โปรแกรม Focus Smart Shockwave for Men ฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก และโปรแกรม S’RENE P Booster ฟื้นฟูด้วยสารฉีด เมื่อระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น น้องชายก็จะสามารถแข็งตัวได้อย่างเต็มที่และคงความแข็งตัวได้นานขึ้น 

4. เสริมสมรรถภาพระยะยาว

โปรแกรมของเราไม่ได้มุ่งเน้นแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการ เสริมสมรรถภาพระยะยาว ด้วยการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งการให้คำแนะนำด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณสามารถกลับมามีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และมั่นใจในทุกช่วงเวลา รวมถึงดูแลสุขภาพน้องชายด้วยโปรแกรม Magneto Therapy ที่เป็นการนั่งเก้าอี้พลังคลื่นแม่เหล็ก ช่วยให้อุ้งเชิงกรานแข็งแรง และเพิ่มสมรรถภาพให้ท่านชายสุขภาพดีขึ้น 

FAQs คำถามยอดฮิต น้องชายไม่แข็ง = ชีวิตสะดุด? 

Q: ทำไมบางครั้ง “น้องชาย” ถึงไม่ยอมแข็งตัว ทั้งที่ยังมีอารมณ์อยู่? 

A: เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สาเหตุหลัก ๆ มาจากหลายปัจจัย ทั้งทางกายภาพและจิตใจ เช่น ความเครียด, ความวิตกกังวล, ความเหนื่อยล้า, หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับคนรัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและการไหลเวียนของเลือด ทำให้การแข็งตัวไม่สมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น 

Q: ปัญหา น้องชายไม่แข็ง สามารถแก้ไขได้จริงไหม? 

A: แก้ไขได้! ปัญหานี้สามารถฟื้นูให้ดีขึ้นได้ด้วยหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา เช่น การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น, การออกกำลังกาย, การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์, การจัดการความเครียด และที่สำคัญคือการปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง 

Q: การกินอาหารเสริม ช่วยแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่? 

A: อาหารเสริมบางชนิดมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมและส่งผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศได้ เช่น อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ Zinc, L-Arginine หรือ Ginseng แต่ก็ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ เพราะอาหารเสริมไม่ใช่ยาที่รักษาได้โดยตรง และไม่ควรใช้ทดแทนการรักษาทางการแพทย์ 

Q: การนวดเฉพาะจุดช่วยให้น้องชายกลับมาแข็งแรงได้จริงหรือ? 

A: การนวดเฉพาะจุดอาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ชั่วคราว แต่ไม่ได้เป็นวิธีการรักษาปัญหา ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อย่างแท้จริง หากมีปัญหาควรเน้นการแก้ไขที่สาเหตุหลัก เช่น การปรับพฤติกรรมหรือการปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากกว่า 

Q: เมื่อเกิดปัญหา “น้องชายไม่แข็ง” ควรคุยกับคนรักอย่างไรดี? 

A: การเปิดใจคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรเริ่มต้นด้วยการบอกความรู้สึกของคุณอย่างซื่อสัตย์ และทำความเข้าใจร่วมกันว่านี่ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สามารถแก้ไขได้ การให้กำลังใจและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกันจะช่วยลดความกดดันและทำให้ความสัมพันธ์แข็งแรงขึ้น 

Q: หากปล่อยปัญหานี้ไว้นาน ๆ จะเกิดผลเสียอะไรบ้าง? 

A: การปล่อยปัญหานี้ไว้โดยไม่แก้ไข อาจส่งผลกระทบที่ใหญ่กว่าที่คิดครับ นอกจากจะทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลงแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว และยังเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคเบาหวาน ดังนั้น การรีบหาสาเหตุและแก้ไขอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ 

Q: อายุเยอะขึ้นจะทำให้ “น้องชายไม่สู้” จริงไหม? 

A: เป็นความจริง! เมื่ออายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) จะลดลงตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหานี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหานี้จะเกิดขึ้นเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน 

Q: ความเครียดส่งผลต่อการแข็งตัวอย่างไร? 

A: ความเครียดเป็นตัวการสำคัญเลยครับ เพราะความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปยับยั้งการไหลเวียนของเลือดและลดระดับฮอร์โมนเพศชาย นอกจากนี้ความเครียดและความวิตกกังวลยังทำให้จิตใจไม่ผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศครับ 

Q: การกินอาหารช่วยแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่? 

A: การกินอาหารมีส่วนช่วยได้อย่างมากครับ ควรเน้นอาหารที่มีสารอาหารสำคัญอย่าง Zinc (พบในหอยนางรม, ถั่ว), L-Arginine (ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด), Omega-3 (พบในปลาทะเล), และ Vitamin E (พบในถั่ว, ผักใบเขียว) อาหารเหล่านี้จะช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมและส่งผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศได้ครับ 

Q: ถ้าลองทำตามคำแนะนำแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร? 

A: หากลองปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือการ ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและหาทางแก้ไขที่ตรงจุดครับ เพราะปัญหาอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม 

บทสรุป น้องชายไม่สู้ แต่เราต้องสู้! อย่ามองข้ามปัญหาสุขภาพเพศเด็ดขาด! 

การดูแลสุขภาพน้องชายก็ไม่ต่างจากการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม และการดูแลก็ไม่ใช่เพราะเพียงแค่เรียกเซ็กส์อย่างเดียว แต่ยังคือเรื่องความสัมพันธ์และสุขภาพ ดังนั้นการที่ น้องชายไม่สู้ อาจเป็นเพียงสัญญาณเตือนให้เราหันกลับมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียด อย่าปล่อยให้ปัญหานี้กัดกินความมั่นใจและทำลายความสัมพันธ์ดี ๆ การเปิดใจคุยกับคนรัก รวมถึงตัวเอง และกล้าที่จะขอคำปรึกษาจากแพทย์ คือจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน 

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยและคำแนะนำที่ถูกต้อง อย่าลังเลที่จะให้ S’RENE by SLC เป็นเพื่อนคู่คิดที่พร้อมดูแลและปลุกพลังความเป็นชายให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เพราะทุกปัญหา…มีทางออกเสมอครับ 

▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237 

▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร  099 807 7261 

▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร  081 249 7055 

▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669 

▪️ สาขา สยาม  – โทร 064 139 6390 และ 081 249 6392