4 ตัวช่วยลดพุง ที่เสริมการออกกำลังกาย

 

“ออกกำลังกายและคุมอาหารมาหลายเดือนแล้ว แต่หน้าท้องยังป่องเหมือนเดิม” หลายคนคงเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาบ้าง โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ที่ดูจะลดยากกว่าส่วนอื่นของร่างกายเสียอีก 

 

จริงๆ แล้วไขมันหน้าท้องเกินเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่าที่คิด เพราะอาจไม่ได้เกิดจากการกินมากเกินไปเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องฮอร์โมน ระบบเผาผลาญ และการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ทำให้แม้จะลดน้ำหนักได้แล้ว แต่หน้าท้องก็ยังคง “ป่อง” อยู่เหมือนเดิม หรือบางครั้งน้ำหนักลดลงจากส่วนอื่นก่อน เช่น หน้า แขน ขา แต่พุงยังคงอยู่ครบเครื่อง 

เพราะเหตุนี้ ตัวช่วยลดพุง จึงเข้ามาช่วยเสริมการลดน้ำหนักให้เห็นผลชัดขึ้น แทนที่จะพึ่งแค่การออกกำลังกายและคุมอาหารอย่างเดียว การเลือกวิธีที่ตรงกับสาเหตุของแต่ละคนอาจทำให้เห็นผลดีกว่า และยั่งยืนกว่าอีกด้วย ซึ่งแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันจะเป็นผู้ช่วยประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสม 

เหตุผลที่ทำให้ไขมันหน้าท้องสะสมง่าย แต่ลดยาก 

ก่อนอื่นที่จะหาตัวช่วยลดพุงนั้น ต้องเข้าใจว่าปัญหาน้ำหนักเกินนั้น เกิดได้จากไขมันในร่างกายทั้งสองแบบ  

• ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เป็นไขมันที่เราจับหยิกได้ มองเห็นชัด อยู่ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากนัก แต่ส่งผลต่อรูปร่างและความมั่นใจในตัวเอง ประมาณ 80% ของไขมันในร่างกายเป็นประเภทนี้ 

• ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) อยู่รอบๆ อวัยวะภายในเช่น ตับ ไต ลำไส้ ไขมันประเภทนี้มีความอันตรายกว่าและส่งผลต่อสุขภาพมากกว่า เพราะหลั่งสารพิษที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง แม้จะมีปริมาณน้อยกว่าไขมันใต้ผิวหนัง แต่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้หน้าท้องดูโต 

สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ไขมันสะสมง่าย แต่ลดยาก มีดังนี้: 

• ฮอร์โมนความเครียดที่หลั่งมากเกินไป เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ถ้าเครียดบ่อยๆ หรือเครียดเรื้อรัง ฮอร์โมนตัวนี้จะสั่งให้ร่างกายไปเก็บไขมัน 

• การกินของหวานจนเกิดภาวะดื้ออินซูลิน การกินของหวานหรืออาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นประจำ จะทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเก็บไขมันได้ง่ายขึ้นและเผาผลาญไขมันได้ยากลง 

• อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง โดยเฉพาะหลังอายุ 30 ปี ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานช้าลง กล้ามเนื้อก็จะลดลงตามธรรมชาติ ทำให้ร่างกายใช้พลังงานน้อยลงในการดำรงชีพ แต่ถ้าเรายังกินเท่าเดิม พลังงานที่เหลือก็จะกลายเป็นไขมันสะสม 

• พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เอื้อ การกินไม่เป็นเวลา กินดึกๆ หรือนอนน้อย ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ปัญหาไขมันเกินแย่ลงไปอีก การนอนไม่พอจะทำให้ฮอร์โมนควบคุมความหิวทำงานผิดปกติอีกด้วย 

เหตุผลที่การออกกำลังกายทั่วไปอาจไม่ได้ผลมากนัก เพราะต้องการจัดการไขมันไม่ใช่แค่เผาแคลอรี่ให้หมดเท่านั้น แต่ต้องจัดการเฉพาะจุดและต้องแก้ที่ต้นเหตุร่วมด้วย  

ประเภทของตัวช่วยลดพุงที่มีประสิทธิภาพ 

พื้นฐานสำคัญของการลดไขมันยังคงเป็นการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นวิธีหลักที่ได้ผลจริงและยั่งยืน  

แต่สำหรับหลายคนที่ทำแล้วยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร หรือมีข้อจำกัดในการดำเนินการ ตัวช่วยลดพุงจึงเข้ามาเสริมให้การดูแลน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

เมื่อเข้าใจสาเหตุของปัญหาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกตัวช่วยลดพุงที่ตรงจุด โดยแต่ละประเภทจะแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันจะช่วยประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน 

ตัวช่วยลดพุงแบบควบคุมความหิว 

โปรแกรม Hunger Reset เปปไทด์คุมหิว 

เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมปริมาณอาหาร กินมากเกินความจำเป็น หรือกินจุกจิกระหว่างวัน โปรแกรมนี้จะช่วยปรับระบบควบคุมความอิ่มให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและนานขึ้น ส่งผลให้ลดความอยากกินที่มากเกินความจำเป็นได้ 

โปรแกรมนี้มีตัวเลือกทั้งแบบรายวัน และรายสัปดาห์ให้เลือกตามไลฟ์สไตล์: 

• แบบรายวัน – สามารถคุมไลฟ์สไตล์ได้ในแต่ละวัน หยุดใช้ได้ตามความเหมาะสม 

• แบบรายสัปดาห์ – สำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก ไม่อยากเจ็บบ่อย เหมาะกับการคุมหิวระยะยาว 

นอกจากนี้ โปรแกรม Hunger Reset เปปไทด์คุมหิว ยังช่วยปรับพฤติกรรมการกินในระยะยาวได้อีกด้วย ทำให้ร่างกายเรียนรู้ที่จะทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม และช่วยดูแลน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน 

ตัวช่วยลดพุงแบบเร่งระบบเผาผลาญ 

โปรแกรม IV Metabolism Activator 

เหมาะสำหรับคนที่มีระบบเผาผลาญช้า รู้สึกว่าการออกกำลังกายและคุมอาหารแล้วยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร โปรแกรมนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานจากภายใน กระตุ้นให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น และเร่งกระบวนการสลายไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องได้มากขึ้น  

ตัวช่วยลดพุงแบบไม่ต้องผ่าตัด 

โปรแกรมกลืนบอลลูน 15 Minutes Balloon™ 

โปรแกรมกลืนบอลลูนเหมาะสำหรับผู้ที่มี BMI มากกว่า 27 ต้องการควบคุมน้ำหนักอย่างจริงจังและไม่ต้องการผ่าตัด  (คำนวนค่าดัชนีมวลกาย BMI คลิกเลย)  

ทำง่าย เพียงแค่กลืนแคปซูลขนาดเล็ก ใช้เวลาเพียง 15 นาที โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดมยาสลบ และไม่ต้องส่องกล้อง เมื่อบอลลูนขยายตัวในกระเพาะ จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและควบคุมปริมาณอาหารได้มีประสิทธิภาพ 

ข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ บอลลูนจะอยู่ในร่างกายนาน 90 วัน จากนั้นจะถูกขับออกตามธรรมชาติ ช่วงเวลา 3 เดือนนี้จะช่วยสร้างนิสัยการกินใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

ตัวช่วยลดพุงแบบเฉพาะจุด 

โปรแกรม INDIBA Visceral Fat 

เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันสะสมเฉพาะบริเวณหน้าท้อง น้ำหนักตัวไม่ได้เกินมากแต่มีปัญหาพุงป่อง เทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นความถี่สูง 448 kHz เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันเฉพาะบริเวณหน้าท้อง รวมถึงเพิ่มการไหลเวียนเลือดและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย 

โปรแกรมนี้ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลา 40 นาทีต่อครั้ง และสามารถทำควบคู่กับกิจกรรมอื่นได้ ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

ตัวช่วยลดพุง เลือกตัวไหน? ยังไงดี? 

การเลือกตัวช่วยลดพุงให้เหมาะสมไม่ได้ยาก แต่ต้องวิเคราะห์ปัญหาอย่างตรงจุดก่อนว่า ปัญหาน้ำหนักเกินซึ่งมีสาเหตุเฉพาะบุคคล เกิดจากอะไร  

• ถ้าเป็นเรื่องการควบคุมปริมาณอาหารยาก ควรเลือกโปรแกรมที่ช่วยคุมความหิว เหมาะกับคนที่กินมากเกินความจำเป็น หรือชอบกินจุกจิกระหว่างวัน ซึ่งมักเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำหนักลดยาก 

• แต่ถ้าเป็นเรื่องระบบเผาผลาญช้า การเร่งระบบเผาผลาญจะเหมาะกว่า โดยเฉพาะคนที่รู้สึกว่าออกกำลังกายและคุมอาหารแล้วยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร หรือมีอาการเหนื่อยล้าผิดปกติ 

• สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินมากและต้องการการจัดการอย่างจริงจัง โปรแกรมบอลลูนอาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยปรับพฤติกรรมการกินได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

• ส่วนคนที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะบริเวณหน้าท้อง เทคโนโลยีพลังงานเฉพาะจุดอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า โดยเฉพาะคนที่น้ำหนักตัวไม่ได้เกินมากแต่มีปัญหาพุงป่อง 

เพราะเหตุนี้การวินิจฉัยปัญหา และการวางแผนดูแลน้ำหนักภายใต้การดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และการใช้เครื่องมือตรวจอย่าง โปรแกรมตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกายด้วย Body Composition Analyzer และโปรแกรมตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมันอย่างละเอียดด้วย DEXA Scan จึงสำคัญ เพื่อแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน 

กระบวนการดูแลแบบครบองค์รวมภายใต้การดูแลที่ S’RENE by SLC 

การดูแลปัญหาไขมันหน้าท้องที่ S’RENE by SLC เริ่มต้นด้วยการตรวจประเมินสภาพร่างกายอย่างละเอียดด้วยโปรแกรมตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกายด้วย Body Composition Analyzer เพื่อวิเคราะห์สัดส่วนไขมัน กล้ามเนื้อ และน้ำในร่างกาย ตามด้วยการตรวจระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันและระบบเผาผลาญ อย่างโปรแกรมตรวจ Stress Hormone และโปรแกรมตรวจ Hormone เพื่อประเมินสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา จากนั้นแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันจะวางแผนการดูแลแบบองค์รวมที่เหมาะสมกับแต่ละคน พร้อมทั้งติดตามผลและปรับแผนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน 

สรุปเลือก ตัวช่วยลดพุง คุมน้ำหนักให้ดีกว่าเดิม 

ปัญหาไขมันหน้าท้องที่ดูจะลดยากกว่าส่วนอื่นของร่างกายไม่ได้เกิดจากการกินอาหารมากเกินไปอย่างเดียว แต่มีหลายปัจจัยที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้อง  

การเลือกตัวช่วยลดพุงที่ตรงกับสาเหตุของแต่ละบุคคลจึงสำคัญกว่าการพึ่งแค่การออกกำลังกายและคุมอาหารอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความหิว การเร่งระบบเผาผลาญ การปรับพฤติกรรมการกินด้วยบอลลูน หรือการใช้เทคโนโลยีพลังงานเฉพาะจุด ล้วนต้องอาศัยการประเมินและคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนที่สุด 

สามารถปรึกษาและรับการดูแลได้ที่ S’RENE by SLC ทุกสาขา  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองคิว:  

• สาขาทองหล่อ โทร 064 184 5237  

• สาขาชาน แจ้งวัฒนะ 14 โทร 099 807 7261 

• สาขาพาราไดซ์ พาร์ค โทร 081 249 7055  

• สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว โทร 080 245 7669 

• สาขา สยาม โทร 064 139 6390 และ 081 249 6392 

*ดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ป้องกันเท่านั้น