ปัญหาไขมันส่วนเกิน ไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์ที่ทำให้เราสูญเสียความมั่นใจ แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ โดยไขมันในร่างกายแบ่งได้หลักๆ 2 ชนิด คือ ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ที่เราหยิบจับได้ และ ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งอันตรายกว่าเพราะเกาะตามอวัยวะภายใน การจะลดไขมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนจึงต้องอาศัยวิธีลดไขมันทั้งตัวหลายเทคนิคร่วมกัน ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมพื้นฐาน ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาเป็นตัวช่วยในการดูแลร่างกาย
เปิด 10 วิธีลดไขมันทั้งตัว ปรับพฤติกรรมควบคู่เทคโนโลยีทางการแพทย์
เพื่อให้การลดไขมันของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย S’RENE by SLC ได้รวบรวม 10 แนวทางที่ครอบคลุมตั้งแต่นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ไปจนถึงการปรับไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนทำตามได้
1. โปรแกรมจัดการน้ำหนักเฉพาะบุคคล
จุดเริ่มต้นของ วิธีลดไขมันทั้งตัว ที่ดีที่สุดคือการเข้าใจร่างกายของตัวเองอย่างลึกซึ้ง โปรแกรมจัดการน้ำหนักเฉพาะบุคคล (Personalized Weight Management Program) ที่ S’RENE by SLC ไม่ใช่แค่การจัดโปรแกรมสำเร็จรูป แต่เป็นการออกแบบเส้นทางการ ลดน้ำหนัก ที่เหมาะกับคุณคนเดียวเท่านั้น โดยทีมแพทย์จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเชิงลึก ตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน วิตามิน และการเผาผลาญ เพื่อสร้างแผนการดูแลที่ครอบคลุมทั้งด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการปรับสมดุลจากภายในสู่ภายนอก มีโปรแกรมให้เลือกทั้งระยะเวลา 1 เดือน และระยะเวลา 3 เดือน
2. ปากกาลดน้ำหนัก Weight-Loss Pen Program
สำหรับผู้ที่เผชิญกับความหิวและความอยากอาหารที่ควบคุมได้ยาก โปรแกรมปากกาลดน้ำหนัก Weight-Loss Pen Program คือหนึ่งในตัวช่วยทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับในระดับสากล โปรแกรมปากกาคุมหิวใช้ตัวยาที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนในร่างกาย (GLP-1 Analogue) ซึ่งจะช่วยส่งสัญญาณไปที่สมองให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและอิ่มนานกว่าปกติ ทำให้ควบคุมปริมาณอาหารได้ง่ายขึ้นโดยไม่รู้สึกทรมาน เป็นอีกหนึ่งวิธีลดไขมันทั้งตัวที่สะดวกและปลอดภัยภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์
3. โปรแกรม WeGo เปปไทน์คุมหิวรายสัปดาห์
อีกระดับของนวัตกรรมการควบคุมน้ำหนักที่ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โปรแกรม WeGo เปปไทน์คุมหิวรายสัปดาห์ ใช้หลักการทำงานเดียวกับปากกาลดน้ำหนัก แต่มีความพิเศษคือสามารถใช้เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในการควบคุมความอยากอาหาร ช่วยให้แผนการลดไขมันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่สะดุด และยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
4. 15 Minutes Balloon นวัตกรรมกลืนบอลลูน ไม่ต้องผ่าตัด
ปฏิวัติวงการลดน้ำหนักด้วยเทคโนโลยี กลืนบอลลูน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดมยาสลบ และใช้เวลาเพียง 15 นาที โปรแกรม 15 Minutes Balloon เป็นการกลืนแคปซูลบอลลูนที่มีสายลงไปในกระเพาะอาหาร จากนั้น แพทย์จะเติมของเหลวเข้าไปเพื่อให้บอลลูนขยายตัวและกินพื้นที่ในกระเพาะ ส่งผลให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและรับประทานอาหารได้น้อยลง บอลลูนจะอยู่ในกระเพาะประมาณ 3 เดือนก่อนจะสลายและขับถ่ายออกมาเองตามธรรมชาติ
5. ผ่าตัดกระเพาะ เทคนิคสลีฟ ทางเลือกเพื่อการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน
สำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน (BMI สูง) หรือมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน โปรแกรมผ่าตัดกระเพาะ เทคนิคสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) ถือเป็นวิธีลดไขมันทั้งตัวที่ให้ผลลัพธ์ยั่งยืนและเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตได้อย่างชัดเจน การผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องนี้จะช่วยลดขนาดกระเพาะอาหารลงอย่างถาวร ทำให้ความสามารถในการรับประทานอาหารลดลง รวมถึงลดการผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิว เป็นการรักษาที่ต้นเหตุและอยู่ภายใต้การดูแลของทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมสหสาขาวิชาชีพ
6. เพิ่มโปรตีนและไฟเบอร์ ตัวช่วยคุมหิวและสร้างกล้ามเนื้อ
การปรับโภชนาการ คือหัวใจสำคัญของวิธีลดไขมันทั้งตัว การเน้นรับประทานโปรตีนคุณภาพดี (เช่น อกไก่, ปลา, ไข่, เต้าหู้) จะช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นเหมือนเตาเผาพลังงานของร่างกาย ยิ่งมีกล้ามเนื้อมาก ระบบเผาผลาญก็จะยิ่งทำงานได้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ไฟเบอร์จากผักใบเขียวและธัญพืชไม่ขัดสี จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากอาหารจุบจิบ และยังช่วยรักษาสมดุลของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติอีกด้วย
7. บอกลาแป้งขัดขาวและน้ำตาล หยุดวงจรไขมันสะสม
แป้งขัดขาวและน้ำตาลคือตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินในปริมาณมาก เมื่ออินซูลินสูง ร่างกายจะเข้าสู่โหมดเก็บสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง การลดหรืองดอาหารกลุ่มนี้ เช่น ขนมปังขาว, น้ำอัดลม, ขนมหวาน, และเครื่องดื่มชงต่างๆ จึงเป็น ตัวช่วยลดพุง ที่ได้ผลดีที่สุด ลองเปลี่ยนมาบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง, ควินัว, หรือขนมปังโฮลวีท ซึ่งจะค่อยๆ ปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับอินซูลินคงที่และลดการสะสมไขมันใหม่
8. ปั้นหุ่นลีนด้วยเวทเทรนนิ่ง
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการลดไขมันต้องเน้นแต่การคาร์ดิโอ แต่ความจริงแล้ว เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) คือกุญแจสำคัญในการสร้างรูปร่างที่กระชับและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (BMR) ของร่างกาย การสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม สามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นได้ถึง 50-100 แคลอรีต่อวันแม้ในขณะที่คุณพักผ่อน การออกกำลังกายด้วยน้ำหนักจึงไม่ใช่แค่ วิธีลดน้ําหนักผู้ชาย เท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับทุกคนที่ต้องการลดไขมันอย่างยั่งยืนและป้องกันการกลับมาอ้วนซ้ำ หรือภาวะโยโย่
9. เบิร์นไขมันด้วยการคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) เช่น การวิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิก มีบทบาทสำคัญในการดึงไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้เป็นพลังงานโดยตรง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือด ควรทำอย่างสม่ำเสมอ 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-45 นาที เพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ การทำคาร์ดิโอควบคู่ไปกับเวทเทรนนิ่ง คือสูตรสำเร็จของวิธีลดไขมันทั้งตัวที่ให้ผลลัพธ์ทั้งในด้านสุขภาพและรูปร่างที่ดีขึ้น
10. จัดการความเครียดและนอนหลับให้พอ
ปัจจัยที่มักถูกมองข้ามแต่ส่งผลกระทบมหาศาลต่อการสะสมไขมันคือความเครียดและการนอนหลับ เมื่อร่างกายเครียด จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายเก็บไขมันบริเวณหน้าท้องมากขึ้น ส่วนการนอนหลับไม่เพียงพอจะรบกวนการทำงานของฮอร์โมนควบคุมความหิว (เกรลิน) และความอิ่ม (เลปติน) ทำให้คุณหิวบ่อยและอยากของหวานมากขึ้น สำหรับบางท่าน โดยเฉพาะผู้หญิง ปัญหาเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับสมดุลฮอร์โมน การตรวจฮอร์โมนผู้หญิงก็อาจเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงได้เช่นกัน
สรุปบทความ
การเดินทางสู่เป้าหมายในการลดไขมันทั้งตัวนั้นมีหลากหลายเส้นทาง ตั้งแต่นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยไปจนถึงการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ขั้นพื้นฐาน ไม่มีวิธีใดที่ดีที่สุดเพียงวิธีเดียว แต่เป็นการผสมผสานแนวทางต่างๆ ให้เข้ากับร่างกายและเป้าหมายของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำทุกอย่างด้วยความเข้าใจและอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และที่ปรึกษาด้านสุขภาพ เพื่อให้คุณไปถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
S’RENE by SLC พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพและการดูแลน้ำหนัก ให้ทุกคนมีสุขภาพดีและความมั่นใจที่ยั่งยืน สามารถรับคำแนะนำด้านสุขภาพที่แม่นยำ และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่
▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237
▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร 099 807 7261
▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
▪️สาขา สยาม – โทร 064 139 6390 และ 081 249 6392
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่