ในยุคที่เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าหน้าตา “ฮอร์โมน” ก็กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หนุ่ม ๆ สายเฮลตี้เริ่มพูดถึงกันบ่อยขึ้น เพราะฮอร์โมนไม่ใช่แค่เรื่องของเพศหญิง หรือวัยทองเท่านั้น แต่ฮอร์โมนเพศชายอย่าง “เทสโทสเตอโรน” ก็สำคัญไม่แพ้กัน!
คำถามคือ… แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า “ถึงเวลาต้อง เช็กฮอร์โมน แล้วหรือยัง?” ถ้าหากกำลังเจอกับ 5 สัญญาณเหล่านี้ รีบอ่านให้จบ เพราะนี่อาจเป็นตัวช่วยให้ทุกคนกลับมาฟิต เฟิร์ม และมั่นใจกว่าเดิม!
ฮอร์โมนเพศชายคืออะไร? ทำไมผู้ชายถึงต้อง เช็กฮอร์โมน?
ก่อนจะไปสังเกตสัญญาณ ลองทำความรู้จักเจ้าฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone กันก่อน
- ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) คือฮอร์โมนหลักที่ควบคุมความเป็นชาย เช่น มวลกล้ามเนื้อ เสียงทุ้ม พลังงาน และสมรรถภาพทางเพศ
- ผลิตจากอัณฑะเป็นหลัก และมีระดับสูงที่สุดในช่วงวัยหนุ่ม (20–30 ปี)
- เมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือมีปัจจัยบางอย่างกระทบ ระดับฮอร์โมนก็จะลดลงได้
ซึ่งการ เช็กฮอร์โมน เป็นการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนในร่างกาย ว่าต่ำเกินไปหรือไม่ และนำไปสู่การปรับสมดุล เพื่อฟื้นฟูสุขภาพทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสมรรถภาพได้อย่างปลอดภัย
สัญญาณที่ 1: อ่อนเพลียง่าย เหมือนหมดพลังงานตลอดเวลา
หากทุกวันตื่นมาก็รู้สึกเหมือน “แบตหมด” ไม่อยากทำอะไร รู้สึกเหนื่อยง่ายแม้นอนเต็มที่ ออกกำลังก็ไม่ไหว แถมไม่มีแรงจูงใจเหมือนเดิม รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่าแม้พักผ่อนเพียงพอ ความเหนื่อยล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่า
- ร่างกายกำลังมีระดับเทสโทสเตอโรนที่ต่ำ
- การเผาผลาญพลังงานลดลง
- ระบบฮอร์โมนทำงานช้าลงตามอายุ
คนที่มีฮอร์โมนต่ำมักพบว่าไม่มีแรงจูงใจในการออกกำลังกาย หรืองานที่เคยทำได้กลับกลายเป็นเรื่องยาก ร่างกายไม่ฟื้นตัวแม้หลังการพักผ่อน อาการเหล่านี้มักทำให้รู้สึกหมดไฟ และมีผลกระทบต่อทั้งการงานและความสัมพันธ์ส่วนตัว หากรู้สึกว่าใช้ชีวิตแบบหมดไฟ การตรวจ ฮอร์โมน อาจช่วยปลุกพลังให้กลับมาฟิตเหมือนเดิมได้!
สัญญาณที่ 2: กล้ามหาย ไขมันมาแทน
เคยกล้ามแน่นจนใส่เสื้อแล้วดูเฟิร์ม… แต่ตอนนี้เริ่มมีพุง ไขมันสะสมเร็ว แม้จะกินเหมือนเดิม ออกกำลังเท่าเดิม แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม?
หนึ่งในบทบาทสำคัญของฮอร์โมนเพศชายคือการกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อและควบคุมการสะสมไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันบริเวณหน้าท้องและเอว หากฮอร์โมนลดลง กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ลดลง แม้ยังออกกำลังกายเท่าเดิม การเพิ่มของไขมันที่ไม่พึงประสงค์ ไขมันสะสมง่ายขึ้นโดยเฉพาะช่วงหน้าท้องและต้นขา เป็นผลโดยตรงจากระดับเทสโทสเตอโรนที่ลดลง ซึ่งหากไม่ดูแล อาจนำไปสู่ภาวะดื้ออินซูลิน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจในระยะยาว
เพราะเทสโทสเตอโรนเกี่ยวข้องโดยตรงกับมวลกล้ามเนื้อ และการเผาผลาญไขมัน
- ฮอร์โมนต่ำ = กล้ามเนื้อลดลง
- ระบบเผาผลาญช้าลง = ไขมันสะสมมากขึ้น
นี่แหละหนึ่งในสัญญาณคลาสสิกที่คนส่วนใหญ่เริ่มที่ต้อง เช็กฮอร์โมน กัน
สัญญาณที่ 3: อารมณ์แปรปรวน ขี้หงุดหงิด ขาดสมาธิ
ใครว่าแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีอารมณ์แปรปรวนจากฮอร์โมน? ผู้ชายก็มีเช่นกัน! ฮอร์โมนเพศชายมีผลต่ออารมณ์โดยตรง หากรู้สึกว่า…
- หงุดหงิดง่าย
- ซึมเศร้า ไม่มีแรงบันดาลใจ
- ขาดสมาธิ ไม่กระตือรือร้นเหมือนเคย
ฮอร์โมนเพศชายไม่ได้ควบคุมแค่เรื่องร่างกาย แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพจิต เทสโทสเตอโรนมีผลต่อสารสื่อประสาทในสมอง เช่น โดพามีนและเซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสุขและความมั่นคงทางอารมณ์ ความเครียดสะสมส่งผลย้อนกลับ ความเครียดเรื้อรังและภาวะนอนไม่หลับที่เกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล จะส่งผลย้อนกลับให้ฮอร์โมนลดลงยิ่งขึ้น กลายเป็นวัฏจักรของปัญหาทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์อย่างละเอียดและปรับสมดุลอย่างถูกต้อง
นี่คืออีกหนึ่ง “เสียงเตือนจากร่างกาย” ที่ควรเริ่มต้นในการดูแล สุขภาพ เพราะหากปล่อยไว้ อาจกระทบกับความสัมพันธ์ การงาน และคุณภาพชีวิตในระยะยาว
สัญญาณที่ 4: สมรรถภาพทางเพศลดลง ไม่เหมือนเดิม
ฮอร์โมนเพศชายส่งผลต่อความต้องการทางเพศ (Libido) และการแข็งตัวของอวัยวะเพศ หากระดับฮอร์โมนลดลง ความรู้สึกทางเพศจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และอาจมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวหรือการหลั่งเร็วร่วมด้วย ถ้าให้พูดตรง ๆ แบบไม่อ้อมค้อม… เรื่องนี้กระทบความมั่นใจสุด ๆ!
- ความต้องการทางเพศลดลงแบบไม่มีสาเหตุ
- การแข็งตัวไม่เต็มที่ หรือไม่คงทน
- ความรู้สึกทางเพศลดลงชัดเจน
ถ้ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย และไม่เกี่ยวกับความเครียดหรือพฤติกรรมชั่วคราว อาจมีแนวโน้มสูงว่าระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง และการ เช็กฮอร์โมน จะช่วยให้รู้ต้นเหตุได้ชัด และหาทางฟื้นฟูสมรรถภาพให้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง
สัญญาณที่ 5: ผมร่วง หน้าตาโทรม ผิวเหี่ยว
แม้จะดูแลผิวดีแค่ไหน แต่หน้ากลับโทรมง่าย ผิวเหี่ยวเร็ว หรือผมร่วงจนเริ่มกังวล?
- ฮอร์โมนเพศชายช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ช่วยให้ผิวกระชับ ผมแข็งแรง
- ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย
ดังนั้นถ้าเริ่มรู้สึกว่า “ดูแก่ไว” กว่าปกติ การ เช็กฮอร์โมน ก็อาจเป็นคำตอบที่ทำให้ทุกคนได้ดูแลสุขภาพจากภายในอย่างแท้จริง
อย่ารอให้ร่างกายส่งสัญญาณแรงไปกว่านี้
ถ้าเจออย่างน้อย 1–2 ข้อจากทั้งหมดนี้… อย่าชะล่าใจ เพราะการ เช็กฮอร์โมน เพศชายไม่ใช่เรื่องของคนแก่ หรือคนป่วยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ “คนที่อยากมีสุขภาพดีจากภายใน” และใช้ชีวิตแบบเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเองในทุกวัน
เช็กฮอร์โมนเพศชายมีขั้นตอนยังไง?
- พบแพทย์ เพื่อพูดคุยประวัติ และตรวจสอบอาการเบื้องต้น
- เจาะเลือด เพื่อตรวจระดับ Testosterone และฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- วิเคราะห์ผล ด้วยเครื่องมือเฉพาะ เพื่อวางแผนการดูแล
- ฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมน เช่น การปรับพฤติกรรม การออกกำลังกาย หรือการใช้ฮอร์โมนบำบัดภายใต้การดูแลของแพทย์
ตรวจฮอร์โมนเพศชาย ควรตรวจอะไรบ้าง?
การตรวจฮอร์โมนเพศชายไม่ได้มีเพียงแค่การตรวจระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบสืบพันธุ์และสุขภาพโดยรวม เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการผิดปกติได้อย่างแม่นยำ โดยรายการตรวจที่สำคัญมีดังนี้
- ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone): เป็นฮอร์โมนหลักที่สำคัญที่สุด ซึ่งส่งผลต่อการสร้างลักษณะทางเพศชาย มวลกล้ามเนื้อ ความหนาแน่นของกระดูก อารมณ์ และสมรรถภาพทางเพศ
- ฮอร์โมนกระตุ้นอัณฑะ (Luteinizing Hormone – LH): เป็นฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้อัณฑะสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน การตรวจวัดระดับ LH ร่วมกับ Testosterone จะช่วยบอกได้ว่าปัญหาเกิดจากต่อมใต้สมองหรือตัวอัณฑะเอง
- ฮอร์โมนควบคุมการสร้างอสุจิ (Follicle Stimulating Hormone – FSH): เป็นฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองที่ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างอสุจิ การตรวจ FSH จะช่วยประเมินภาวะมีบุตรยากได้
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen – E2): แม้จะเป็นฮอร์โมนเพศหญิง แต่ก็มีในเพศชายด้วยในปริมาณที่เหมาะสม หากมีระดับสูงเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น เต้านมโตขึ้น
- ฮอร์โมนไทรอยด์ (TSH, Free T3, Free T4): ฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย และการทำงานของฮอร์โมนอื่น ๆ หากมีความผิดปกติอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้
- โปรแลคติน (Prolactin): หากระดับฮอร์โมนนี้สูงเกินไปอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ได้
นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพโดยรวมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การตรวจเลือดเพื่อหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด การทำงานของตับและไต รวมถึงการตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจฮอร์โมนเพศชาย?
- ผู้ที่มีอาการที่เข้าข่ายภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง
- สมรรถภาพทางเพศลดลง หรือมีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- มีภาวะมีบุตรยาก
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หรือมีภาวะซึมเศร้า
- มวลกล้ามเนื้อลดลง และมีไขมันสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
- มีภาวะกระดูกพรุน
- มีอาการนอนไม่หลับ หรือคุณภาพการนอนไม่ดี
หากคุณสงสัยว่ามีอาการที่เกี่ยวข้องกับการพร่องฮอร์โมนเพศชาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการตรวจที่เหมาะสมต่อไป
ทำไมต้องเช็กฮอร์โมนกับ S’RENE by SLC?
S’RENE by SLC เป็นคลินิกสุขภาพสำหรับคนเมืองที่ตอบโจทย์การตรวจและการฟื้นฟูสุขภาพ โดยมีโปรแกรมตรวจและปรับสมดุลฮอร์โมนที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งโปรแกรม Hormones Check Up Testo Balance™ ก็เป็นโปรแกรม เช็กฮอร์โมน สำหรับผู้ชาย และอ่านค่าโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ไม่เพียงแค่เจาะเลือด แต่ยังวิเคราะห์พฤติกรรม การนอน การกิน ความเครียด
นอกจากนี้ที่ซีรีน ก็ยังมีโปรแกรม IV Drip สูตรเฉพาะเหมาะสำหรับคุณผู้ชาย และแผนฟื้นฟูฮอร์โมนแบบไม่ใช้ยาในกรณีที่สามารถดูแลได้ด้วยการปรับพฤติกรรม หรือใครที่มีปัญหาฮอร์โมนค่อนข้างหนัก ก็ยังมีโปรแกรม Hormonal Balance for Men ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ด้วย เทสโทสเตอโรน
สรุป ทำไมคุณผู้ชายต้อง เช็กฮอร์โมน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม!
การเช็กฮอร์โมนเพศชายเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพเชิงลึกที่สำคัญมากในยุคนี้ โดยเฉพาะเมื่อสัญญาณเตือนเริ่มปรากฏ การรู้ก่อน รักษาไว และปรับสมดุลให้เหมาะสมจะช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีพลัง สดใส และมั่นใจอีกครั้ง
ดังนั้นอย่ามัวแต่เดา รีบ เช็กฮอร์โมน ก่อนดีกว่า เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งฟื้นฟูได้เร็ว และกลับมาหล่อ ฟิต มั่นใจ ได้เหมือนเดิมแน่นอน S’RENE by SLC พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับผู้ชายทุกคน
▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237
▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร 099 807 7261
▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
▪️ สาขา สยาม – โทร 064 139 6390 และ 081 249 6392
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่