เรื่องน่ารู้

Blogs

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงไหม ทำงานอย่างไร

สรุปเกี่ยวกับปากกาลดน้ำหนัก

โรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกินเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิด ปากกาลดน้ำหนักจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับปากกาลดน้ำหนัก การทำงาน ประสิทธิภาพ ข้อดีข้อเสีย ผลข้างเคียง ปากกาลดน้ำหนัก ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ รวมถึงคำแนะนำสำหรับการใช้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร?

ปากกาลดน้ำหนัก คือ อุปกรณ์ฉีดยาที่มีลักษณะคล้ายปากกาซึ่งบรรจุยาชื่อ “Liraglutide” โดยปากกาลดน้ำหนังนี้ทำงานด้วยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ปากกาคุมหิวชนิดนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ว่ามีความปลอดภัยและสามารถใช้ในการลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์หรือผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการทำงานและประสิทธิภาพของปากกาลดน้ำหนัก

ปากกาลดน้ำหนักมีตัวยา Liraglutide ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-like peptide-1) ที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ ฮอร์โมนนี้มีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความอยากอาหาร เมื่อฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย ตัวยาจะไปกระตุ้นตัวรับฮอร์โมน GLP-1  ในสมองส่วนที่ควบคุมความอยากอาหาร

การทำงานของปากกาลดน้ำหนักช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ลดความอยากอาหาร และชะลอการย่อยอาหารในกระเพาะ ส่งผลให้รับประทานอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น จากการศึกษาทางคลินิกพบว่าผู้ใช้ปากกาลดน้ำหนักสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้นภายในระยะเวลา 12 สัปดาห์หากใช้ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย

ปากกาลดน้ำหนักเหมาะกับใคร

ปากกาลดน้ำหนักไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่มีข้อบ่งใช้เฉพาะสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทางการแพทย์ที่กำหนดไว้ การใช้ปากกาลดน้ำหนักควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

  • ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) ตั้งแต่ 27 ขึ้นไป หรือเข้าข่ายโรคอ้วน
  • ผู้ที่มี BMI ตั้งแต่ 27 ขึ้นไป และมีโรคร่วมที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 ไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่พยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ต้องการความช่วยเหลือในการควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาลในเลือด

ใครที่ไม่ควรใช้ปากกาลดน้ำหนัก

ปากกาลดน้ำหนักมีข้อห้ามใช้ในบางกรณี เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงร้ายแรงหรือภาวะแทรกซ้อน ผู้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ไม่ควรใช้ปากกาลดน้ำหนัก

  • สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา Liraglutide หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้
  • ผู้ที่มีภาวะไตวายรุนแรง
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหารรุนแรง เช่น กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง

ข้อดีและข้อจำกัดของปากกาลดน้ำหนัก

ปากกาลดน้ำหนักมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้ การทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลและสามารถประเมินความเหมาะสมสำหรับตัวเองได้

ข้อดีของปากกาลดน้ำหนัก

  • เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ โดยสถานพยาบาลต่าง ๆ ได้ยืนยันว่าปากกาลดน้ำหนักสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง โดยเฉลี่ยประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้นเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
  • ควบคุมความหิวได้ดี ปากกาคุมหิวช่วยลดความอยากอาหารและทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทำให้การควบคุมอาหารเป็นไปได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสการทานอาหารมากเกินไป
  • ผลดีต่อสุขภาพโดยรวม นอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว ปากกาลดน้ำหนักยังช่วยปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และระดับไขมันในเลือด ซึ่งลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ได้รับการรับรองความปลอดภัย ปากกาลดน้ำหนักได้รับการรับรองจาก FDA และองค์กรควบคุมยาในหลายประเทศทั่วโลก ว่ามีความปลอดภัยสำหรับการใช้ระยะยาวภายใต้การดูแลของแพทย์

ข้อจำกัดของปากกาลดน้ำหนัก

  • ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ประสิทธิภาพของปากกาลดน้ำหนักจะลดลงเมื่อหยุดใช้ หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างถาวร น้ำหนักมักจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกหลังหยุดการรักษา
  • ผลข้างเคียงทางเดินอาหาร ผู้ใช้ปากกาลดน้ำหนักจำนวนมากมักประสบกับผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะในช่วงแรกของการรักษา
  • ไม่ใช่ทางลัดสู่การลดน้ำหนัก การใช้ปากกาลดน้ำหนักจำเป็นต้องใช้ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • ต้องฉีดยาสม่ำเสมอ การใช้ปากกาลดน้ำหนักจำเป็นต้องฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังทุกวัน ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยกับการฉีดยา

วิธีการใช้ปากกาลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง

การใช้ปากกาลดน้ำหนักควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น การปรับขนาดยาและวิธีการฉีดที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยา ห้ามปรับขนาดยาเองโดยเด็ดขาด

  • เริ่มต้นด้วยขนาดยาที่ต่ำและค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดผลข้างเคียง
  • ฉีดยาใต้ผิวหนังบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือต้นแขน โดยหมุนเวียนตำแหน่งฉีดทุกครั้ง
  • ฉีดยาในเวลาเดียวกันทุกวัน โดยไม่คำนึงถึงมื้ออาหาร
  • เก็บปากกาลดน้ำหนักในตู้เย็น (2-8°C) ก่อนเปิดใช้ และที่อุณหภูมิห้อง (ไม่เกิน 30°C) หลังเปิดใช้ โดยเก็บให้พ้นแสงแดด
  • ตรวจสอบลักษณะของน้ำยาก่อนฉีด ต้องใสไม่มีสี ไม่มีตะกอน
  • ทิ้งเข็มที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปลอดภัย ไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังการใช้ปากกาลดน้ำหนัก

เหมือนกับยาทุกชนิด ปากกาลดน้ำหนักอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงในบางราย ความรุนแรงของผลข้างเคียงมีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการใช้ยาและค่อย ๆ ลดลงเมื่อร่างกายปรับตัว

  • คลื่นไส้ อาเจียน เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อย โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้ยา อาการมักจะดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้ การเริ่มต้นด้วยขนาดยาต่ำและค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจะช่วยลดความรุนแรงของอาการได้
  • ท้องเสีย ท้องผูก ผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและทานอาหารที่มีกากใยในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยบรรเทาอาการ หากอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์
  • ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อาการปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะอาจเกิดขึ้นได้ในบางราย โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้ยา ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่หรือทำกิจกรรมที่ต้องการสมาธิสูงหากมีอาการดังกล่าว
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ที่เป็นเบาหวานและใช้ยาลดน้ำตาลร่วมด้วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอและปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปรับขนาดยาเบาหวานที่ใช้อยู่
  • ตับอ่อนอักเสบ แม้จะพบไม่บ่อย แต่เป็นผลข้างเคียงที่รุนแรง หากมีอาการปวดท้องรุนแรงร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน ควรหยุดใช้ยาและรีบไปพบแพทย์ทันที

รู้ได้อย่างไรว่าตัวเองกำลังเข้าข่ายน้ำหนักเยอะหรือโรคอ้วน

แม้ว่าปากกาลดน้ำหนักจะเป็นทางเลือกในการรักษาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน แต่การเข้าใจสาเหตุและการประเมินภาวะน้ำหนักของตนเองจะช่วยให้วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม การประเมินที่นิยมใช้กันทั่วไปคือการคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index หรือ BMI) ซึ่งเป็นค่าที่คำนวณจากความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักและส่วนสูง

BMI เป็นเครื่องมือที่ช่วยประเมินว่าน้ำหนักของคุณอยู่ในเกณฑ์ใด ตั้งแต่ผอม น้ำหนักปกติ น้ำหนักเกิน หรือเข้าข่ายโรคอ้วน อย่างไรก็ตาม BMI เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้น และไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น สัดส่วนของกล้ามเนื้อและไขมัน การกระจายตัวของไขมัน หรือปัจจัยสุขภาพอื่น ๆ

สูตรคำนวณค่า BMI: น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง 

BMI = น้ำหนัก (กก.) ÷ [ส่วนสูง (ม.) × ส่วนสูง (ม.)]

ค่า BMI

การแปลผล

น้อยกว่า 18.5

น้ำหนักน้อย/ผอม

18.5 – 22.9

น้ำหนักปกติ (สำหรับคนเอเชีย)
23.0 – 24.9

น้ำหนักเกิน

25.0 – 29.9

อ้วนระดับ 1

30.0 ขึ้นไป

อ้วนระดับ 2

นอกจากค่า BMI แล้ว รอบเอวก็เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอีกประการหนึ่ง โดยผู้ชายควรมีรอบเอวไม่เกิน 90 เซนติเมตร และผู้หญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร รอบเอวที่มากเกินไปแสดงถึงการสะสมของไขมันในช่องท้อง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

ปากกาลดน้ำหนัก ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่

ปากกาลดน้ำหนัก มีหลายแบรนด์ และหลายราคาในตลาด โดยราคาเริ่มต้นที่ 5,900 บาท ต่อ 1 ด้าม โดย S’RENE by SLC พร้อมให้คำแนะนำและการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน รวมถึงการติดตามผล และการให้คำแนะนำด้านโภชนาการควบคู่กันไป เพื่อให้การใช้ปากกาคุมหิวเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยภายใต้การควบคุมของแพทย์

สรุปเกี่ยวกับปากกาลดน้ำหนัก

ปากกาลดน้ำหนักเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน โดยช่วยลดความอยากอาหารและทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ปากกาลดน้ำหนักควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากมีข้อบ่งใช้เฉพาะและอาจมีผลข้างเคียงที่ต้องเฝ้าระวัง การใช้ปากกาคุมหิวจะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

S’RENE by SLC พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพและการดูแลน้ำหนัก ให้ทุกคนมีสุขภาพดีและความมั่นใจที่ยั่งยืน สามารถรับคำแนะนำด้านสุขภาพที่แม่นยำ และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันได้ที่ S’RENE by SLC สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่ 

▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237

▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร  099 807 7261

▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร  081 249 7055

▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669

▪️ สาขา สยาม  – โทร 064 139 6390 และ 081-249-6392

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่