คุณเคยรู้สึกไหมว่าก่อนมีประจำเดือนทีไร อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หรือรู้สึกเศร้าอย่างรุนแรงจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน? อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ PMS (Premenstrual Syndrome) ทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณของ PMDD (Premenstrual Dysphoric Disorder) หรือกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายของผู้หญิงอย่างมาก
ในบทความนี้ เราจะมาคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับ PMDD ว่าคืออะไร? ทำไมผู้หญิงต้องระวัง? และจะสามารถจัดการกับมันได้อย่างไร? พร้อมความรู้ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับอาการนี้ได้ดีขึ้น!
ทำความรู้จัก PMDD คืออะไร? อาการที่ผู้หญิงต้องระวัง!
ผู้หญิงหลายคนรู้จัก PMS แล้ว แต่อาจจะยังไม่ค่อยได้รู้จักกับ PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder ซึ่งก็คือ กลุ่มอาการทางอารมณ์และร่างกายที่รุนแรงกว่า PMS และเกิดขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน อาการเหล่านี้จะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อประจำเดือนมา หรือหลังจากนั้นไม่นาน พีเอ็มดีดีถือเป็นภาวะสุขภาพจิตที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้หญิงอย่างมาก โดยมีความแตกต่างจาก PMS ทั่วไปตรงที่ความรุนแรงของอาการทางอารมณ์ที่เด่นชัดและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
สาเหตุของ PMDD เกิดจากอะไร?
ถึงแม้จะยังไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่สูงขึ้นในช่วง ก่อนประจำเดือน รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่
1. ความผันผวนของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในช่วงก่อนมีประจำเดือนอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen): ฮอร์โมนหลักของผู้หญิง ที่สร้างจากรังไข่ ซึ่ง ก่อนมีประจำเดือน เอสโตรเจนจะ ลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อระดับเอสโตรเจน ลดลงก่อนมีประจำเดือน ปริมาณเซโรโทนินจะ ลดตาม ซึ่งอาจมีผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมของผู้หญิง ทำให้หลายคนรู้สึก เศร้า หงุดหงิด เหนื่อยง่าย หรือขี้โมโห บางรายถึงขั้นมีอาการ ซึมเศร้าแบบเฉียบพลัน
- ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone): ฮอร์โมนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ใกล้ถึงรอบเดือน โดยระดับ Progesterone จะเพิ่มขึ้นสูง เพื่อเตรียมมดลูกให้พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้จะเริ่ม ลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนประจำเดือนจะมา การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ส่งผลต่อสารเคมีในสมองโดยเฉพาะ “เซโรโทนิน (Serotonin)” เมื่อเซโรโทนินลดลงแบบฉับพลัน ก็เหมือนอารมณ์หล่นวูบ สามารถทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น การรบกวนอารมณ์ ทำให้รู้สึกเศร้า หงุดหงิด หรือขาดความอดทนง่าย
- สารสื่อประสาทในสมอง: เช่น เซโรโทนิน และ โดพามีน ซึ่งมีผลต่อการควบคุมอารมณ์ การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล
2. ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง
สารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมอารมณ์ อาจมีความไม่สมดุลในผู้ที่เป็น พีเอ็มดีดี
3. พันธุกรรม
มีแนวโน้มว่าผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็น พีเอ็มดีดี หรือภาวะทางอารมณ์อื่นๆ อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
4. ความเครียดและปัจจัยทางจิตใจ
ความเครียด ภาวะซึมเศร้า หรือความวิตกกังวล อาจทำให้อาการของพีเอ็มดีดี รุนแรงขึ้นได้
อาการของ PMDD มีอะไรบ้าง สังเกตอย่างไรดี?
อาการพีเอ็มดีดี มีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการทำงาน ความสัมพันธ์ และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่
อาการทางอารมณ์
- รู้สึกเศร้า สิ้นหวัง หรือร้องไห้ง่าย
- หงุดหงิด ฉุนเฉียว หรือโกรธง่าย
- วิตกกังวล กระวนกระวายใจ
- อารมณ์แปรปรวนอย่างรวดเร็ว
- รู้สึกไม่มีสมาธิ หรือมีปัญหาในการจดจ่อ
- รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร
- รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า หรือรู้สึกผิด
- มีความคิดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง
อาการทางร่างกาย
- เจ็บเต้านม หรือเต้านมบวม
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือปวดข้อ
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- น้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือบวมน้ำ
- นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป
- ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไป (เช่น อยากกินของหวาน หรืออาหารบางชนิดมากเป็นพิเศษ)
PMDD แตกต่างจาก PMS อย่างไร?
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า PMDD คืออาการ PMS ที่รุนแรง แต่จริง ๆ แล้วพีเอ็มดีดีคือ ความผิดปกติที่รุนแรงกว่า โดยอาการพีเอ็มดีดี สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงาน การศึกษา และชีวิตประจำวันได้มากกว่า PMS ที่มักจะเกิดอาการเบา ๆ เช่น อารมณ์หงุดหงิด อ่อนเพลีย หรือปวดท้องในบางช่วงของรอบเดือน
พีเอ็มดีดีเป็นภาวะที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกเหมือนมีอาการทางจิตและร่างกายที่รุนแรงขึ้น และไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือพฤติกรรมได้เหมือนในช่วงที่ไม่มีอาการ
การวินิจฉัย อาการนี้ทำอย่างไรได้บ้าง?
การวินิจฉัยพีเอ็มดีดี มักจะทำโดยแพทย์จากการซักประวัติอาการอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของอาการกับรอบเดือน ผู้ป่วยอาจถูกขอให้จดบันทึกอาการประจำวันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 รอบเดือน เพื่อให้แพทย์เห็นรูปแบบของอาการที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ แพทย์อาจทำการตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพื่อภาวะสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายคลึงกัน
วิธีการรักษา และดูแลตัวเอง?
การรักษาพีเอ็มดีดี มีหลายวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาอาการและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งอาจรวมถึง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิต
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเครียดและปรับปรุงอารมณ์ โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งสาร เอ็นดอร์ฟิน ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและลดความเครียด
- ปรับพฤติกรรมการกิน: การปรับการกินสามารถช่วยบรรเทาอาการพีเอ็มดีดี ได้ เช่น การทานอาหารที่มี ไฟเบอร์สูง และ โปรตีน เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป รวมถึงการลดปริมาณ อาหารที่มีน้ำตาลสูง และคาเฟอีนในช่วงก่อนมีประจำเดือน จะช่วยลดอาการหงุดหงิดและเพิ่มพลังงานในร่างกาย
- การพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและช่วยจัดการกับอาการ
- การจัดการความเครียด: การฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการหายใจลึกๆ สามารถช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้
การใช้ยาช่วย
- ยาในกลุ่ม SSRIs (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors): เป็นยาที่ใช้บ่อยในการรักษาพีเอ็มดีดี เนื่องจากช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาทเซโรโทนินในสมอง
- ยาคุมกำเนิด: ยาคุมกำเนิดบางชนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตโรนอาจช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนและลดอาการพีเอ็มดีดีได้
- ยาแก้ปวด: สามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรืออาการปวดอื่นๆ
การบำบัดทางจิตใจ
- การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy – CBT): ช่วยให้ผู้ป่วยระบุและเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจช่วยในการจัดการกับอารมณ์และรับมือกับอาการพีเอ็มดีดีได้ดีขึ้น
- การบำบัดระหว่างบุคคล (Interpersonal Therapy – IPT): มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงความสัมพันธ์และการสื่อสาร ซึ่งอาจช่วยลดความเครียดและความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เกี่ยวข้องกับพีเอ็มดีดี
- การบำบัดทางจิตวิทยา เช่น การทำสมาธิ, การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญา (CBT), หรือการ ปรึกษาจิตแพทย์ อาจช่วยในการจัดการกับอารมณ์และช่วยบรรเทาอาการพีเอ็มดีดีได้
การรักษาทางเลือก
- สมุนไพรเสริม: มีการศึกษาบางชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรบางชนิด เช่น Chasteberry อาจช่วยบรรเทาอาการพีเอ็มดีดีได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- การทานวิตามินเสริม: การทานวิตามิน B6 หรือ แคลเซียม และแมกนีเซียม อาจช่วยบรรเทาอาการพีเอ็มดีดีได้ เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้สามารถช่วยในการควบคุมอารมณ์และลดความเครียดได้
ข้อดีของการทำความเข้าใจและจัดการพีเอ็มดีดี
การทำความเข้าใจและจัดการกับพีเอ็มดีดีอย่างเหมาะสมมีข้อดีมากมาย ได้แก่
- คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น: อาการที่ลดลงช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น: การควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นช่วยลดความขัดแย้งและความเข้าใจผิดในความสัมพันธ์
- ประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียนดีขึ้น: อาการทางอารมณ์และร่างกายที่ลดลงช่วยให้มีสมาธิและสามารถทำงานหรือเรียนได้อย่างเต็มที่
- สุขภาพจิตที่ดีขึ้น: การจัดการกับพีเอ็มดีดี ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลที่อาจเกิดขึ้นร่วมด้วย
คำแนะนำในการจัดการพีเอ็มดีดี
- จดบันทึกอาการ: บันทึกอาการและรอบเดือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจรูปแบบของอาการและสามารถสื่อสารกับแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรึกษาแพทย์: หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจเป็นพีเอ็มดีดี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
- ดูแลสุขภาพกายและใจ: ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการจัดการความเครียด
- ขอความช่วยเหลือและการสนับสนุน: พูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ที่เป็นพีเอ็มดีดี เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และรับกำลังใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ PMDD (FAQ)
Q: PMDD แตกต่างจาก PMS อย่างไร?
คำตอบ: ทั้ง PMDD และ PMS เป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือน แต่พีเอ็มดีดีมีความรุนแรงของอาการทางอารมณ์มากกว่า PMS อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หงุดหงิด และอารมณ์แปรปรวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ในขณะที่ PMS อาจมีอาการทางร่างกายเด่นกว่า หรืออาการทางอารมณ์ไม่รุนแรงเท่าพีเอ็มดีดี
Q: ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็น PMDD?
คำตอบ: ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดพีเอ็มดีดี ได้แก่:
- มีประวัติ PMS ที่รุนแรง: ผู้ที่มีอาการ PMS รุนแรงอยู่แล้วอาจมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นพีเอ็มดีดี ได้
- มีประวัติครอบครัวเป็นพีเอ็มดีดี หรือภาวะทางอารมณ์อื่น ๆ: พันธุกรรมอาจมีบทบาทในการเกิดพีเอ็มดีดี
- มีภาวะสุขภาพจิตอื่น ๆ: ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือโรคไบโพลาร์ อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
- เคยมีประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ: ความเครียดหรือเหตุการณ์สะเทือนใจในอดีตอาจเป็นปัจจัยกระตุ้น
Q: สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?
คำตอบ: ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาพีเอ็มดีดี ให้หายขาดได้โดยตรง แต่ สามารถจัดการและบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การใช้ยา และการบำบัดทางจิตใจ การรักษาอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
Q: ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่ หากสงสัยว่าเป็นพีเอ็มดีดี?
คำตอบ: หากคุณมีอาการที่เข้าข่ายพีเอ็มดีดี เช่น อาการทางอารมณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือนเป็นประจำ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์จะทำการประเมินอาการและให้คำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม
Q: การจดบันทึกอาการช่วยในการวินิจฉัยพีเอ็มดีดีได้อย่างไร?
คำตอบ: การจดบันทึกอาการประจำวัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของอาการกับรอบเดือน เป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยพีเอ็มดีดี เนื่องจากช่วยให้แพทย์เห็น รูปแบบและความสม่ำเสมอของอาการที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน ข้อมูลนี้จะช่วยแยกแยะพีเอ็มดีดี ออกจากภาวะสุขภาพจิตอื่นๆ ที่อาจมีอาการคล้ายคลึงกัน
Q: ยาคุมกำเนิดช่วยรักษาได้หรือไม่?
คำตอบ: ยาคุมกำเนิดบางชนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน อาจช่วยบรรเทาอาการพีเอ็มดีดีได้ โดยการควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ยาคุมกำเนิดบางชนิดอาจไม่เหมาะกับทุกคน และควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่ายาคุมกำเนิดชนิดใดเหมาะสมกับคุณ
Q: มีอาหารหรืออาหารเสริมที่ช่วยบรรเทาอาการพีเอ็มดีดีได้หรือไม่?
คำตอบ: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล รวมถึงการหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลสูง และคาเฟอีนในช่วงก่อนมีประจำเดือน อาจช่วยบรรเทาอาการได้บ้าง นอกจากนี้ มีการศึกษาบางชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าอาหารเสริมบางชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินบี 6 และน้ำมันปลา อาจมีประโยชน์ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมใด ๆ
Q: การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็น PMDD อย่างไร?
คำตอบ: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีประโยชน์หลายประการสำหรับผู้ที่เป็นพีเอ็มดีดีได้แก่
- ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล
- ช่วยปรับปรุงอารมณ์และลดอาการซึมเศร้า
- ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า
- ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
Q: การบำบัดทางจิตใจช่วยรักษาพีเอ็มดีดีได้อย่างไร?
คำตอบ: การบำบัดทางจิตใจ เช่น การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (CBT) และ การบำบัดระหว่างบุคคล (IPT) สามารถช่วยให้ผู้ป่วยพีเอ็มดีดี
- ระบุและจัดการกับความคิดและพฤติกรรมเชิงลบ ที่เกี่ยวข้องกับอาการ
- พัฒนาทักษะในการรับมือกับอารมณ์ และความเครียด
- ปรับปรุงความสัมพันธ์และการสื่อสาร กับผู้อื่น
- สร้างความเข้าใจและความตระหนัก ในตนเอง
Q: พีเอ็มดีดีส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้หญิงอย่างไรบ้าง?
คำตอบ: พีเอ็มดีดีสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้หญิงในหลายด้าน ได้แก่:
- ความสัมพันธ์: อารมณ์ที่แปรปรวนและความหงุดหงิดอาจทำให้เกิดความขัดแย้งกับคนรอบข้าง
- การทำงานและการเรียน: อาการไม่มีสมาธิ เหนื่อยล้า และซึมเศร้าอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานหรือการเรียน
- กิจกรรมทางสังคม: ผู้ที่เป็นพีเอ็มดีดี อาจหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมเนื่องจากรู้สึกไม่สบายหรือไม่มั่นใจ
- สุขภาพโดยรวม: ความเครียดและความวิตกกังวลที่เกิดจากพีเอ็มดีดีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว
บทสรุป PMDD คือปัญหาที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม ปล่อยทิ้งไว้อาจเรื้อรัง!
PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder เป็นภาวะที่รุนแรงกว่าการมีอาการ PMS และสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้มาก การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้หญิงที่ประสบกับภาวะนี้สามารถจัดการกับอาการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ดังนั้นผู้หญิงควรใส่ใจและรู้จักอาการของตัวเอง รวมถึงการดูแลสุขภาพทั้งทางกายและใจ หากอาการรุนแรง ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและวิธีรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้ PMDD มาทำลายความสุขของคุณ! ดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ชีวิตของคุณเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น
S’RENE by SLC พร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณในทุกจังหวะสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพเพศและฮอร์โมน โดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการในการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ทุกสาขา
▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237
▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร 099 807 7261
▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669
▪️ สาขา สยาม – โทร 064 139 6390 และ 081-249-6392
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่