เรื่องน่ารู้

Blogs

S’RENE และ SLC ร่วมเสวนาบนเวที “วันอ้วนโลก (World Obesity Day)”

วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของวงการสุขภาพระดับโลก เนื่องจากเป็น “วันอ้วนโลก” (World Obesity Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 4 มีนาคมของทุกปี วันสำคัญนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาโรคอ้วนที่กำลังเป็นวิกฤติระดับโลก รวมถึงประเทศไทยที่มี สัดส่วนผู้ที่เป็นโรคอ้วนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในปีนี้ S’RENE และ SLC ได้รับเกียรติจากทาง Novo Nordisk บริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก ให้เข้าร่วมในงานเสวนาและบรรยายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคอ้วนและการลดน้ำหนักภายใต้หัวข้อ “Beyond Weight Loss: A Daily Start for Change” ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่รวมเหล่าผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านสุขภาพและการดูแลน้ำหนัก จากทั่วประเทศมาร่วมรณรงค์กันในวันอ้วนโลก (World Obesity Day)

เวทีเสวนาระดับประเทศใน “วันอ้วนโลก” (World Obesity Day)

ซึ่งตัวแทนของ S’RENE และ SLC จะเป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือ หมอแมน – นพ. ศิวพล ฐิตยราษฎร์ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันจาก S’RENE by SLC และ หมอเนย – พญ. ยาภา วลายนนท์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านกลืนบอลลูนจาก SLC Clinic ซึ่งได้ร่วมแบ่งปันความรู้และแนวทางการดูแลสุขภาพน้ำหนัก พร้อมเปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับโรคอ้วนและการลดน้ำหนักในเชิงลึก โดยในงานนี้ยังเนืองแน่นไปด้วยสปีคเกอร์จากคลินิกอื่น ๆ และแขกพิเศษอย่าง ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว หนุ่มหล่อสุดฮอตที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ครั้งนึงเคยอ้วน และวิธีดูแลน้ำหนัก

โรคอ้วน ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง หรือความสวยงาม แต่เป็นปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน (Change in Obesity; It is not only beauty, but it is also health)

หลายคนเริ่มลดน้ำหนักเพราะอยาก หุ่นดี ใส่เสื้อผ้าสวย ดูดีในสายตาคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นแรงจูงใจที่เข้าใจได้! แต่… ถ้ามองระยะยาว การลดน้ำหนักไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามอีกต่อไป แต่มันกระทบไปถึงสุขภาพทุกมิติ! หมอเนย ย้ำบนเวทีว่า “ความอ้วนไม่ได้กระทบแค่รูปร่าง แต่มันเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่เราอาจมองข้าม!”

  • เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง – น้ำหนักที่เกินมาตรฐานส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและการทำงานของหัวใจ
  • ภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver) – ตับทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อภาวะตับอักเสบและโรคตับแข็ง
  • อาการปวดข้อ กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น – น้ำหนักตัวที่มากกว่าปกติทำให้ข้อต่อรับแรงกดมากขึ้น นำไปสู่ปัญหาข้อเข่าเสื่อมในอนาคต
  • การหายใจติดขัด ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) – ไขมันสะสมบริเวณลำคอ ทำให้หายใจลำบากและเสี่ยงต่อภาวะหัวใจขาดเลือด
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง – ในผู้ชาย น้ำหนักตัวที่มากเกินไปส่งผลต่อระดับเทสโทสเตอโรน ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่ดี

นอกจากนี้หมอเนย ยังได้อธิบายถึงสาเหตุของภาวะโรคอ้วน ว่าไม่ใช่แค่การกินมากไปหรือน้ำหนักตัวเกิน แต่มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น

  • อายุที่มากขึ้น – ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง  มวลกล้ามเนื้อลดลง ทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต – การใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล  กินอาหารเกินความต้องการ การรับประทานอาหารจานด่วน ขาดการออกกำลังกาย และการนอนไม่เพียงพอ
  • จิตใจและอารมณ์ – เครียด วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า อาจทำให้กินมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว  ไม่อยากออกกำลังกายและเลือกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
  • ความเครียดและฮอร์โมนผิดปกติ – ภาวะฮอร์โมนแปรปรวนทำให้การเผาผลาญพลังงานลดลงและสะสมไขมันง่ายขึ้น  เพศหญิงมีโอกาสอ้วนง่ายกว่าเพศชาย 

ทำให้เห็นได้ชัดว่า การดูแลน้ำหนักต้องใช้มากกว่าการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย แต่ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง 

โรคอ้วนกับฮอร์โมนเพศ ส่งผลต่อทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

หนึ่งในปัญหาหลักที่หลายคนอาจมองข้าม ก็คือเรื่องฮอร์โมนกับโรคอ้วน โดยหมอแมนยังได้กล่าวถึงผลกระทบของโรคอ้วนที่มีต่อฮอร์โมนเพศชายและหญิง

ผู้ชายที่มีภาวะโรคอ้วน

  • ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง ทำให้กล้ามเนื้อลดลง ไขมันเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
  • เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่อมลูกหมากและภาวะมีบุตรยาก

ผู้หญิงที่มีภาวะโรคอ้วน

  • ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนไม่สมดุล ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และเสี่ยงต่อโรค PCOS
  • มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเบาหวานมากขึ้น

“ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คนลดน้ำหนักยาก” หมอแมนกล่าว ดังนั้น การปรับฮอร์โมนให้สมดุลจึงเป็นกุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพในระยะยาว

วิธีการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่เรื่องของการอดอาหาร

หมอเนยและหมอแมน ได้เน้นย้ำว่า การดูแลน้ำหนักที่ดี ต้องเป็นแนวทางที่ยั่งยืนและปรับใช้ได้จริง โดยมีหลักสำคัญดังนี้

  •  ปรับโภชนาการ – เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดน้ำตาลและไขมันที่ไม่ดี
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม – ไม่ต้องหักโหม แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
  •  ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต – นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียด และมีแนวคิดเชิงบวกเกี่ยวกับร่างกายตัวเอง
  • ปรึกษาแพทย์ ถ้าหากควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจจะต้องหาตัวช่วย หรือปรึกษาเพื่อหาแนวทางในการดูแลน้ำหนัก รวมถึงการตรวจฮอร์โมนเพื่อหาสาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติม
  • ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย – เช่น โปรแกรมการกลืนบอลลูน การวิเคราะห์ไขมันช่องท้อง INDIBA หรือโปรแกรมปรับฮอร์โมน 

“การลดน้ำหนักไม่ใช่แค่เรื่องของการทำให้ผอม แต่คือการสร้างสุขภาพที่ดีขึ้นและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว” หมอเนยกล่าว

โรคอ้วน: ปัญหาสุขภาพระดับประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไข

ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับอัตราผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของประชากร ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และไขมันพอกตับ เราถึงต้องมาร่วมกันตระหนักถึงความน่ากลัวนี้ และช่วยกันรถณรงค์ในวันอ้วนโลก” (World Obesity Day

สถิติที่น่าตกใจเกี่ยวกับโรคอ้วนในประเทศไทย

  • ผู้ใหญ่: จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประชากรอายุ 19 ปีขึ้นไป มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 45.6 ในปี 2563 เป็นร้อยละ 46.6 ในปี 2565
  • เด็กและเยาวชน: ข้อมูลภาวะโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่า เด็กอายุ 6-14 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนร้อยละ 13.0 และเด็กอายุ 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนร้อยละ 16.9 ซึ่งเกินกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 12.0 ​

 

“ต้าห์อู๋ พิทยา” แขกพิเศษในงาน ร่วมแชร์ประสบการณ์เปลี่ยนชีวิตจากอ้วน 81 กิโล สู่หุ่นฟิตและสุขภาพดี!

“เมื่อก่อน ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องสุขภาพเลย กินอะไรก็กิน ไม่ได้สนใจตัวเลขบนเครื่องชั่ง จนวันหนึ่งร่างกายมันบอกว่า ‘พอได้แล้ว!’”

ต้าห์อู๋ พิทยา หนุ่มสุดฮอตที่เป็นทั้งนักร้อง นักสแดง เคยเป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่ปล่อยให้ตัวเองใช้ชีวิตแบบไม่ระมัดระวัง จนน้ำหนักพุ่งไปถึง 81 กิโลกรัม โดยไม่รู้ตัว แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่เป็นเรื่องสุขภาพ!

จากร่างอ้วน สู่ร่างฟิต ไม่ใช่แค่เรื่องของรูปร่าง แต่คือสุขภาพที่ดีขึ้น!

“ตอนนั้นผมรู้สึกไม่กระฉับกระเฉงเลย เหนื่อยง่าย นอนไม่ค่อยหลับ จนร่างกายส่งสัญญาณว่า ‘เฮ้ย! มันไม่ไหวแล้วนะ!’ และนั่นคือจุดที่ผมตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง หลังจากลดน้ำหนักได้ ผมไม่ได้แค่ผอมลง แต่รู้สึกสดชื่นขึ้น พลังงานเยอะขึ้น และที่สำคัญคือสุขภาพจิตก็ดีขึ้นมาก!”

วิธีเริ่มต้น เปลี่ยนชีวิตตัวเอง ไม่ต้องรอวันไหน เริ่มเลยวันนี้!

ต้าห์อู๋บอกว่า “อย่ารอให้ถึงวันจันทร์ อย่ารอให้ถึงปีใหม่” เพราะการเปลี่ยนแปลงเริ่มได้ทุกวัน ไม่ต้องเริ่มจากการไดเอทหนัก ๆ หรือออกกำลังกายหักโหม แค่ “เปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ” ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีได้

  • เดินให้มากขึ้น แค่วันละ 10 นาที ก็ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญดีขึ้น
  • เลือกกินอาหารที่ดีขึ้น เริ่มจากเพิ่มผัก ลดของทอด น้ำหวาน
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น
  • นอนให้พอ เพราะการนอนน้อยทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน และน้ำหนักขึ้นง่าย!

นอกจากนี้ ต้าห์อู๋ ยังฝากไว้ว่า “ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการดูแลตัวเองทุกวัน เพราะถ้าร่างกายเราไม่ไหว ต่อให้มีเงิน มีเวลา มีความฝัน เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ผมอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน ลองเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ แล้วคุณจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปได้จริง”

“Beyond Weight Loss: A Daily Start for Change ” สุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเอง อย่าปล่อยให้ ‘โรคอ้วน’ เป็นตัวพรากความสุขไปจากเรา! 

ไม่ว่าจุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนักจะเป็นเรื่องของความสวยงาม หรือความมั่นใจ แต่อย่าลืมว่า… ปลายทางที่แท้จริงคือสุขภาพและชีวิตที่มีความสุข นอกจากนี้ความอ้วนไม่ใช่เรื่องที่ต้องอาย หรือรู้สึกผิด แต่เป็นเรื่องที่เราต้องเข้าใจ และปรับเปลี่ยนอย่างถูกวิธี

การลดน้ำหนักไม่ใช่แค่เรื่องของการกินน้อยหรืออดอาหาร แต่ต้องดูแลหลายมิติ ทั้งโภชนาการ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และสมดุลของร่างกาย! ความรู้ที่ S’RENE และ SLC นำเสนอในงานนี้ เน้นว่า การดูแลน้ำหนักต้องเป็นไปอย่างยั่งยืนและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ที่สำคัญ! เพียงแค่เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอให้ถึง “วันอ้วนโลก” (World Obesity Day) หรือไม่ต้องรอให้ป่วยจนสายเกินไป! เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ปรับการกิน ขยับร่างกายให้มากขึ้น และนอนหลับให้เพียงพอ ก็สามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้

S’RENE by SLC พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพและการดูแลน้ำหนัก ให้ทุกคนมีสุขภาพดีและความมั่นใจที่ยั่งยืน สามารถรับคำแนะนำด้านสุขภาพที่แม่นยำ และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกันได้ที่ S’RENE by SLC สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่ 

▪️ สาขา ทองหล่อ ชั้น 4 – โทร 064 184 5237

▪️ สาขา ชาน แจ้งวัฒนะ 14 ชั้น 2 – โทร  099 807 7261

▪️ สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร  081 249 7055

▪️ สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่