เรื่องน่ารู้

Blogs

Testosterone คือ อะไร? ทำไมต้องตรวจและปรับสมดุลให้ดีอยู่เสมอ

Testosterone คือ

Testosterone คือ ฮอร์โมนเพศชายที่เรามักได้ยินบ่อย ๆ ในบริบทของสุขภาพเพศชาย เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในกลุ่มของ Androgen ซึ่งจัดว่าเป็นฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญที่สุด โดยฮอร์โมนนี้มีความสำคัญในการควบคุมลักษณะทางกายภาพและกระบวนการในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเพศชาย เช่น การพัฒนาของอวัยวะเพศ การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและกระดูก รวมถึงการควบคุมความต้องการทางเพศ แต่ในขณะเดียวกัน ฮอร์โมนนี้ก็พบได้ในเพศหญิงด้วย แต่จะพบในระดับที่ต่ำกว่าและมีหน้าที่สำคัญต่อระบบสมดุลของร่างกายเพศหญิง เช่น การเสริมสร้างกล้ามเนื้อและควบคุมอารมณ์

ดังนั้นสุขภาพที่ดีจึงเริ่มต้นจากการที่เราทำความเข้าใจว่าฮอร์โมนแต่ละประเภททำงานอย่างไร โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายที่ไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะผู้ชายเท่านั้น นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องคอยตรวจ และปรับฮอร์โมนให้สมดุลอยู่ตลอดเวลา

ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) คือ ฮอร์โมนเพศที่สำคัญทั้งหญิงและชาย

อย่างที่กล่าวไปในด้านบนว่าTestosterone คือฮอร์โมนเพศที่มีความสำคัญต่อร่างกายของทั้งเพศชายและหญิง แต่จะพบฮอร์โมนนี้ในระดับที่สูงกว่ามากในร่างกายผู้ชาย เพราะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะเพศชาย ส่วนผู้หญิงเองก็มีเทสโทสเตอโรนในปริมาณเล็กน้อยซึ่งมีบทบาทสำคัญเช่นกัน

Testosterone ในผู้หญิงและผู้ชาย คือ ชนิดเดียวกันหรือแตกต่างกัน?

คำว่า Testosterone ในทางวิทยาศาสตร์นั้น หมายถึงฮอร์โมนชนิดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในเพศชายหรือหญิง โดยมีโครงสร้างทางเคมีเหมือนกันทุกประการ แต่ความแตกต่างนั้นจะเกิดขึ้นใน ปริมาณ และ บทบาท ที่ฮอร์โมนนี้ทำหน้าที่ในร่างกายของแต่ละเพศ

1. ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ในผู้ชาย:

  • ผลิตในปริมาณมากจากอัณฑะ (Testes) และเล็กน้อยจากต่อมหมวกไต (Adrenal Glands)
  • ทำหน้าที่ส่งเสริมลักษณะเพศชาย เช่น เสียงทุ้ม ขนตามร่างกาย และการสร้างกล้ามเนื้อ
  • ควบคุมการผลิตสเปิร์มและเสริมสร้างความต้องการทางเพศ

2. ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ในผู้หญิง:

  • ผลิตในปริมาณเล็กน้อยจากรังไข่ (Ovaries) และต่อมหมวกไต
  • มีบทบาทสำคัญในเรื่องความแข็งแรงของกระดูก ความสมดุลของอารมณ์ และความต้องการทางเพศ

บทบาทและหน้าที่ของ Testosterone ในร่างกายของผู้ชาย

Testosterone คือ ฮอร์โมนผู้ชายตัวสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง พร้อมทั้งสนับสนุนลักษณะเฉพาะของเพศชายโดยตรง ว่าแต่จะทำหน้าที่อะไรบ้าง มาดูกันได้เลย

1. พัฒนาการทางเพศและลักษณะเพศทุติยภูมิในผู้ชาย

  • กระตุ้นการเจริญเติบโตของอวัยวะเพศชาย
  • ช่วยให้เกิดลักษณะเด่นของเพศชาย เช่น หนวดเครา ขนตามร่างกาย เสียงทุ้ม และกระดูกที่แข็งแรง

2. การสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง

  • กระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
  • ส่งเสริมสมรรถภาพทางกายและพลังงาน

3. สมรรถภาพทางเพศและอารมณ์

  • เพิ่มความต้องการทางเพศและส่งเสริมการสร้างสเปิร์ม
  • ช่วยรักษาความมั่นใจ อารมณ์ที่มั่นคง และลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า

ระดับ Testosterone ที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงวัย

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน Testosterone นั้น จะเกิดขึ้นในแต่ละช่วงวัย ต่างก็มีความสำคัญในแต่ละช่วง

1. วัยรุ่น (Adolescence) ช่วงผลิตฮอร์โมนเพิ่มขึ้น

ในช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมน Testosterone จะมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและพัฒนาลักษณะเพศชาย เช่น หนวดเครา เสียงทุ้ม และมวลกล้ามเนื้อ รวมถึงมีการทำหน้าที่ร่วมกับ Estrogen ในการปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์และการเจริญเติบโต

2. วัยกลางคน (Middle Age) สู่การลดลงของเทสโทสเตอโรน โอกาสเกิด Andropause

ระดับ Testosterone เริ่มลดลงอย่างช้า ๆ หลังอายุ 30 ปี ประมาณ 1% ต่อปี รวมถึงอาจเกิด Andropause หรือ “วัยทองผู้ชาย” ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น

  • ความต้องการทางเพศลดลง
  • สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
  • อารมณ์แปรปรวน มีอาการหงุดหงิด หรือซึมเศร้า
  • มีปัญหาเรื่องพลังงานและความเหนื่อยล้า

3. ผู้ชายสูงอายุ (Elderly Men) กับผลกระทบของเทสโทสเตอโรนต่ำ

ระดับ Testosterone ลดลงถึงจุดต่ำสุด ส่งผลให้เกิดอาการได้ดังนี้

  • กระดูกบางลง เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
  • สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและเกิดไขมันสะสมมากขึ้น
  • ระบบไหลเวียนโลหิตและสุขภาพหัวใจอ่อนแอ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ สมาธิ และสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุที่ทำให้ Testosterone ลดลง

  1. อายุที่เพิ่มขึ้น: ทำให้ระดับเทสโทสเตอโรน ลดลงตามธรรมชาติเมื่ออายุเกิน 30 ปี โดยเฉพาะในผู้ชายวัยกลางคนและสูงอายุ
  2. ความเครียด: โดยเฉพาะความเครียดเรื้อรัง ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งไปยับยั้งการผลิตเทสโทสเตอโรน
  3. การพักผ่อนไม่เพียงพอ: มีการนอนหลับน้อยกว่า 6-7 ชั่วโมงต่อคืน ส่งผลต่อการผลิตเทสโทสเตอโรน ในช่วงที่ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง
  4. น้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน: รวมถึงไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง จะกระตุ้นการผลิตเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งมีผลยับยั้งเทสโทสเตอโรน
  5. ขาดการออกกำลังกาย: การไม่มีการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนแอ และลดการหลั่งเทสโทสเตอโรน
  6. อาหารที่ไม่สมดุล: การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือไขมันทรานส์ อาจรบกวนการผลิตฮอร์โมน รวมถึง ขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น สังกะสี (Zinc) และวิตามินดี (Vitamin D)
  7. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: ส่งผลต่อการทำงานของอัณฑะ (Testes) และลดการหลั่งเทสโทสเตอโรน
  8. การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาสเตียรอยด์ ยารักษาภาวะซึมเศร้า และยาความดันโลหิต อาจส่งผลต่อการลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
  9. ภาวะสุขภาพ: ไม่ว่าจะเป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคไต หรือภาวะขาดฮอร์โมน Hypogonadism ที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของอัณฑะ อาจรบกวนการผลิตเทสโทสเตอโรนได้
  10. การสูบบุหรี่และมลพิษ: สารพิษจากบุหรี่และสิ่งแวดล้อม อาจรบกวนการผลิตฮอร์โมนในร่างกาย

อาการและผลกระทบของระดับ Testosterone ที่ผิดปกติ

ถึงแม้ว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะเป็นชนิดเดียวกันในทุกเพศ แต่ระดับฮอร์โมนที่เหมาะสมในร่างกาย และความแตกต่างในการใช้งาน เป็นสิ่งที่ทำให้มีบทบาทที่หลากหลายและสำคัญในแต่ละเพศ ยกตัวอย่างเช่น

  • ในผู้ชายที่มีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ อาจนำไปสู่ปัญหา เช่น สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และภาวะซึมเศร้า
  • ในผู้หญิงที่มีระดับเทสโทสเตอโรนสูงเกินไป อาจส่งผลให้เกิดสิว ขนดก หรือประจำเดือนผิดปกติ

ผู้ชายที่มีอาการของ Testosterone ต่ำ

เมื่อผู้ชายมีระดับเทสโทสเตอโรนในร่างกายต่ำกว่าปกติ อาจส่งผลกระทบหลายด้านต่อร่างกายและจิตใจ ดังนี้

  • เหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีพลัง หรืออ่อนล้าแม้ไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง ความต้องการทางเพศลดลง หรือปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
  • ลดมวลกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงเหมือนเดิม และอาจสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
  • เพิ่มไขมันในร่างกาย มีการสะสมของไขมันโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
  • อารมณ์แปรปรวน รู้สึกหงุดหงิดหรือซึมเศร้า
  • ปัญหาการนอนหลับ นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับตลอดคืน
  • ลดความหนาแน่นของกระดูก เพิ่มความเสี่ยงต่อกระดูกพรุน (Osteoporosis)

ผู้ชายที่มีอาการของ Testosterone สูงเกินไป

ในทางกลับกัน หากระดับเทสโทสเตอโรนในผู้ชายสูงเกินไปอาจมีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ดังนี้

  • อารมณ์ก้าวร้าวหรือหงุดหงิด อาจรู้สึกโมโหง่ายหรือมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว
  • สิวและผิวมัน การผลิตน้ำมันจากผิวหนังมากเกินไป ส่งผลให้เกิดสิว
  • ปัญหาสุขภาพหัวใจ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด
  • การขยายขนาดของเต้านม (Gynecomastia) การเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนเพศชายสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเต้านม
  • ผมร่วงหรือผมบาง เพิ่มโอกาสในการผมร่วงหรือผมบางตามร่างกายและศีรษะ
  • นอนไม่หลับหรือปัญหาการนอน อาจส่งผลให้นอนหลับไม่ดีหรือนอนไม่เต็มที่
  • เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตัน (Blood Clots) ระดับ Testosterone ที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการหนืดของเลือดหรือปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนเลือด

บทบาทของ Testosterone ในร่างกายผู้หญิง

สำหรับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้หญิง ก็ยังเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญ แม้จะมีระดับต่ำกว่าผู้ชาย แต่ก็มีผลต่อหลายด้านของร่างกายและสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น

  • การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง: เทสโทสเตอโรนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรงของกระดูก
  • ความต้องการทางเพศ: เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความใคร่ในผู้หญิง การขาดเทสโทสเตอโรน อาจทำให้ความสนใจทางเพศลดลง
  • อารมณ์และพลังงาน: ฮอร์โมนนี้ช่วยให้ผู้หญิงมีพลังงานและอารมณ์ที่มั่นคง
  • สุขภาพกระดูก: มีส่วนช่วยในการรักษาความแข็งแรงของกระดูกและลดความเสี่ยงจากโรคกระดูกพรุน
  • การผลิตเซลล์เม็ดเลือด: ช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย

อาการของ Testosterone ต่ำ ในผู้หญิง

  • ความใคร่ลดลง: การขาดเทสโทสเตอโรน อาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลงหรือไม่มีความสนใจทางเพศ
  • กล้ามเนื้อลดลง: สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง ทำให้รู้สึกอ่อนแอ
  • อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า: รู้สึกไม่มีพลังงานและเหนื่อยง่าย แม้ไม่ทำกิจกรรมหนัก
  • อารมณ์แปรปรวน: มีความรู้สึกซึมเศร้า หงุดหงิด หรือวิตกกังวล
  • กระดูกบางลง: เพิ่มความเสี่ยงต่อกระดูกพรุน (Osteoporosis)
  • ปัญหาการนอนหลับ: อาจพบปัญหานอนไม่หลับหรือการนอนหลับที่ไม่สนิท

Testosterone กับความสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง

เทสโทสเตอโรนเป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบฮอร์โมนเพศหญิง แต่ยังมีฮอร์โมนอื่น ๆ เช่น Estrogen และ Progesterone ที่ทำงานร่วมกันเพื่อรักษาสมดุลทางฮอร์โมนในร่างกาย

  • Testosterone และ Estrogen: เทสโทสเตอโรนช่วยให้เอสโตรเจน มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในระบบสืบพันธุ์ เช่น มดลูก และเต้านม
  • Testosterone และ Progesterone: ฮอร์โมนทั้งสองช่วยให้ผู้หญิงสามารถควบคุมการมีประจำเดือนและการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การขาดเทสโทสเตอโรนอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง และส่งผลต่อทั้งสุขภาพทางกายและอารมณ์

วิธีการเพิ่มและรักษาระดับ Testosterone ในร่างกาย

การเพิ่มและรักษาระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เบื้องต้นสามารถปรับและทำได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าหากปรับแล้วยังไม่เห็นผล อาจจะต้องมาปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน และปรับสมดุล เพื่อสุขภาพที่ดี

1. การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างการผลิต Testosterone

  • การยกน้ำหนัก (Weightlifting): การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน Testosterone โดยการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
  • การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio): เช่น การวิ่งหรือการปั่นจักรยาน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการหลั่งฮอร์โมน
  • การฝึกแบบอินเทอร์วัล (HIIT): การฝึกด้วยความเข้มข้นสูงช่วงสั้น ๆ ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนมากขึ้น
  • การออกกำลังกายที่เพิ่มความแข็งแรงของกระดูก: เช่น การฝึกความยืดหยุ่นและสมดุล ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มการผลิต Testosterone ได้

2. อาหารที่ช่วยเพิ่มเทสโทสเตอโรน

  • โปรตีน (Protein): การบริโภคโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ และปลา ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อและส่งเสริมการผลิตฮอร์โมน
  • ไขมันดี (Healthy Fats): ไขมันจากแหล่งธรรมชาติ เช่น อะโวคาโด, ถั่ว, น้ำมันมะพร้าว และปลาที่มีไขมันสูง (เช่น ปลาแซลมอน) ช่วยกระตุ้นการผลิตเทสโทสเตอโรน
  • ธาตุสังกะสี (Zinc): สังกะสีช่วยเพิ่มการผลิตเทสโทสเตอโรน โดยสามารถพบได้ในอาหาร เช่น หอยนางรม, เนื้อแดง, ถั่ว, เมล็ดฟักทอง, และธัญพืช
  • วิตามินดี (Vitamin D): การได้รับวิตามินดีจากแสงแดดหรืออาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา หรืออาหารที่เสริมวิตามินดีสามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน

3. การใช้ฮอร์โมนทดแทน (TRT) แก้ปัญหาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนผิดปกติ

สำหรับผู้ที่มีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำอย่างรุนแรง (เช่น ภาวะ Hypogonadism) การรักษาด้วยการทดแทนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอาจจำเป็น โดยการใช้ฮอร์โมนทดแทน หรือ TRT สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การฉีด, การทาเจล, หรือการติดแผ่นแปะฮอร์โมนบนผิวหนัง

การรักษานี้ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนและปรับปรุงอาการที่เกี่ยวข้องกับการขาดเทสโทสเตอโรน เช่น ความเหนื่อยล้า ความต้องการทางเพศลดลง และมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง

คำแนะนำ: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการรักษาด้วย TRT เพื่อประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์

 

FAQ: คำถามเกี่ยวกับ Testosterone ใครอยากรู้อะไรสอบถามมาได้เลย!

Q: Testosterone คืออะไร?

ตอบ: เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศชายหลักที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะเฉพาะทางเพศของผู้ชาย แต่ก็มีบทบาทในผู้หญิงเช่นกัน มันส่งผลต่อมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกระดูก ความต้องการทางเพศ และอารมณ์

Q: ทำไม Testosterone ถึงสำคัญ?

ตอบ: เทสโทสเตอโรนช่วยในการพัฒนาลักษณะทางเพศทุติยภูมิ เช่น หนวดเครา เสียงทุ้ม และมวลกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสุขภาพกระดูก และส่งเสริมความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศและอารมณ์

Q: อะไรคือสัญญาณของการมีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ?

ตอบ: อาการของเทสโทสเตอโรนต่ำในผู้ชายรวมถึงความเหนื่อยล้า ความต้องการทางเพศลดลง มวลกล้ามเนื้อลดลง และอารมณ์แปรปรวน สำหรับผู้หญิงอาการที่พบได้คือ ความใคร่ลดลง กล้ามเนื้อลดลง และอารมณ์แปรปรวน

Q: ทำไมระดับเทสโทสเตอโรนถึงลดลง?

ตอบ: ระดับเทสโทสเตอโรนจะลดลงตามอายุ โดยเฉพาะหลังจากอายุ 30 ปี ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด, การนอนหลับไม่เพียงพอ, การขาดการออกกำลังกาย, โรคบางชนิด และการใช้ยาอาจทำให้ระดับฮอร์โมนนี้ลดลง

Q: การออกกำลังกายช่วยเพิ่มระดับ Testosterone ได้หรือไม่?

ตอบ: ใช่! การออกกำลังกาย เช่น การยกน้ำหนัก การฝึกความเข้มข้นสูง (HIIT) และการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยกระตุ้นการผลิตเทสโทสเตอโรนและรักษาระดับฮอร์โมนให้เหมาะสม

Q: อาหารใดที่ช่วยเพิ่มระดับ Testosterone?

ตอบ: อาหารที่ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน ได้แก่

  • โปรตีน: เนื้อสัตว์ ไข่ ปลา
  • ไขมันดี: อะโวคาโด, ถั่ว, น้ำมันมะพร้าว
  • ธาตุสังกะสี: หอยนางรม, เนื้อแดง, เมล็ดฟักทอง
  • วิตามินดี: น้ำมันตับปลา, แสงแดด

Q: ฮอร์โมนทดแทน Testosterone (TRT) คืออะไร?

ตอบ: ฮอร์โมนทดแทน Testosterone (TRT) คือการรักษาด้วยการทดแทนฮอร์โมนในกรณีที่ระดับ Testosterone ต่ำผิดปกติ โดยใช้วิธีต่าง ๆ เช่น การฉีด การทาเจล หรือการใช้แผ่นแปะฮอร์โมน เพื่อช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม

Q: เทสโทสเตอโรนสูงเกินไปมีผลกระทบอย่างไร?

ตอบ: การมีระดับเทสโทสเตอโรนสูงเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น อารมณ์ก้าวร้าว สิว ปัญหาสุขภาพหัวใจ การขยายขนาดเต้านม (Gynecomastia) และปัญหาการไหลเวียนเลือด

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าระดับฮอร์โมน Testosterone ผิดปกติ?

ตอบ: การรู้ว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนผิดปกติ สามารถสังเกตได้จากอาการที่เกิดขึ้นในร่างกาย และการตรวจเลือดเพื่อยืนยันระดับฮอร์โมนที่แน่นอน

Q: การตรวจสอบระดับ Testosterone ทำได้อย่างไร?

ตอบ: การตรวจฮอร์โมนเพศชาย สามารถทำได้ผ่านการตรวจเลือดที่แพทย์จัดให้ ซึ่งจะช่วยประเมินระดับฮอร์โมนในร่างกายและช่วยวางแผนการรักษาในกรณีที่ระดับฮอร์โมนต่ำหรือผิดปกติ

 

สรุปว่า Testosterone สำคัญต่อร่างกาย และต้องคอยตรวจเพื่อปรับสมดุลให้สุขภาพดี

เพราะสุขภาพดี จะเริ่มต้นที่ภายใน ถ้าฮอร์โมนไม่สมดุล ก็ดูแลสุขภาพได้ยาก หากอ่านข้อมูลมาทั้งหมดนี้แล้ว คิดว่าตนเองมีอาการฮอร์โมนไม่สมดุล และต้องการปรับสมดุลฮอร์โมน พร้อมวางแผนดูแลสุขภาพร่างกาย S’RENE by SLC ขอแนะนำบริการที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความสมดุลทางฮอร์โมนด้วยโปรแกรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • His & Her Wellness Lab Check Up Program MALE Level 3 (15,900.- 20 รายการตรวจ) ตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพศ และความสมดุลของร่างกาย เพื่อหาความเสี่ยงปัญหาสุขภาพเพศ พร้อมนำมาวางแผนการดูแล และฟื้นฟูสุขภาพเพศ
  • S’rene Hormonal Booster For Men Program (15,000.- / ครั้ง) โปรแกรมฟื้นฟูภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายด้วย T-Shot ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอย่างปลอดภัย และเพิ่มฮอร์โมนเพศชายอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมนต่ำ หรือมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล
  • โปรแกรมปรับสมดุลฮอร์โมน ด้วย IV Drip: หลังจากวิเคราะห์ระดับฮอร์โมนที่ครบถ้วน แพทย์พร้อมให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ ด้วยการเสริมวิตามินเพื่อปรับสมดุล เพื่อเสริมสร้างฮอร์โมนอย่างมีประสิทธิภาพ

สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และมีประสบการณ์ด้าน His & Her Wellness โดยเฉพาะกับ S’RENE by SLC สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่

  • สาขา ทองหล่อ – โทร 064 184 5237
  • สาขา พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
  • สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 6 – โทร 080 245 7669

________________________________________________________________

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

What Is Testosterone? Healthline.
https://www.healthline.com/health/what-is-testosterone#low-t-levels

Testosterone Overview. Cleveland Clinic.
https://my.clevelandclinic.org/health/articles/24101-testosterone

Testosterone: What It Does and Doesn’t Do. Harvard Health.
https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/testosterone–what-it-does-and-doesnt-do

Testosterone Therapy: Benefits and Risks. Mayo Clinic.
https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/sexual-health/in-depth/testosterone-therapy/art-20045728

สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่