คุณกำลังประสบปัญหาการหลั่งเร็วอยู่หรือไม่? เพียงแค่สอดใส่ก็เสร็จแล้ว หรือทำกิจกรรมไม่ถึง 2 นาทีก็ไปต่อไม่ไหว น้องชายไม่สู้ศึก ไม่อึดอย่างที่คู่ขาคิด งานนี้ถูกเรียกว่า ‘ล่มปากอ่าว’ หรือ ‘นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ’ จนกลายเป็นปมน้ำใจ แต่ว่าบางคนถึงจุดสุดยอดแล้ว ยังสามารถกลับมาแข็งตัว แล้วต่อยกสองได้ แต่บางคนก็อาจจะไปแล้วไปลับ ไม่กลับมาแข็งอีกเลย นั่นอาจจะแสดงว่าคุณกำลังมีภาวะเสื่อมสมรรถทางภาพเพศร่วมด้วยอยู่หรือเปล่า
โดยการหลั่งผิดปกติของผู้ชายนั้น จริง ๆ แล้วสามารถพบได้หลายรูปแบบ แต่หลัก ๆ ก็จะแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการหลั่งช้า, ไม่สามารถหลั่งอสุจิได้ หรือหลั่งแล้วแต่ไม่มีน้ำอสุจิออกมา แต่ที่จะเจอบ่อย ๆ และเยอะมากที่สุด ก็จะเป็นปัญหาการหลั่งเร็ว หากดูจากสถิติ และการวิจัยในหลาย ๆ ที่จะพบว่าผู้ชายมีปัญหาหลั่งไวมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นในวัยไหนก็ตาม ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัญหาสุขภาพทางเพศนี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย อีกทั้งยังส่งผลในหลาย ๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงเจ้าของน้องชาย อย่างคุณผู้ชายเท่านั้น แต่กับผู้หญิง หรือคู่ขาคนอื่น ๆ ก็จะโดนผลกระทบได้ด้วย
จึงทำให้ปัญหาโลกแตกนี้ เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม ต้องทำความเข้าใจ ทั้งสาเหตุ อาการ และ รู้วิธีการรักษา เพื่อให้สุขภาพทางเพศของเราสมบูรณ์แบบที่สุด รวมถึงความสุขทางเพศที่ส่งผลต่อชีวิตคู่ ชีวิตรัก และความสัมพันธ์ด้วย
หลั่งเร็ว คืออะไร? แบบไหนที่เรียกว่าหลั่งเร็ว?
การหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation: PE) คือการที่ผู้ชายถึงจุดสุดยอด และหลั่งน้ำอสุจิเร็วกว่าที่ตัวเองหรือคู่รักต้องการในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 2-3 นาทีหลังจากเริ่มสอดใส่
โดยการหลั่งเร็วที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หรือเรียกอีกอย่างว่า “การหลั่งเร็วเฉียบพลัน” (Rapid Ejaculation), “การถึงจุดสุดยอดเร็ว” (Premature Climax) หรือ “การหลั่งเร็วในระยะเริ่มต้น” (Early Ejaculation) อาจไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลมากนัก แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนทำให้เพศสัมพันธ์ไม่สนุก และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเพศ ก็สามารถสร้างความกดดัน หรือความเครียด ทั้งในตัวผู้ชาย และคู่รักได้
มีการศึกษา และการวิจัยออกมาว่า ระหว่าง 30% ถึง 40% ของผู้ชาย เคยประสบกับภาวะการหลั่งเร็ว ไม่ว่าจะในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต โดยข้อมูลจากสมาคมทางเดินปัสสาวะแห่งสหรัฐอเมริกา (American Urological Association) ระบุว่าภาวะการหลั่งเร็ว เป็นความผิดปกติทางเพศที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ชาย ประมาณ 1 ใน 5 ของผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 59 ปี ซึ่งมีรายงานว่าเคยประสบกับภาวะการหลั่งเร็วอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
แค่เล้าโลมก็เสร็จแล้ว คู่ขาถึงกับงง?
ถ้าหากยังไม่ได้สอดใส่อวัยวะเข้าไป แต่เสร็จก่อน จะถือว่าเป็นการหลั่งไวหรือไม่? หากคุณกำลังวางแผนที่จะประกอบกิจกรรมบนเตียง แต่ยังไม่ทันได้เริ่มก็ไปซะแล้ว ยังไงก็ถือว่าคุณคือผู้ชายหลั่งเร็วอยู่ดี เพราะคุณวางแผนที่จะมีเซ็กส์แล้ว แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจจะมาจากความตื่นเต้น หรืออาการไวต่อการสัมผัส แค่โดนจับ หรือเล้าโลมก็เสร็จแล้ว ทำให้ยังไม่ทันได้ประกอบกิจใด ๆ ก็ล่มปากอ่าวเสียแล้ว ก็อาจจะต้องหาทางออก หรือการรักษา รวมถึงใช้ตัวช่วยพิเศษ ที่จะทำให้คุณอยู่ในศึกบนเตียงได้นานขึ้น
การหลั่งเร็วมาจากสาเหตุใดบ้าง?
สาเหตุหลั่งเร็วเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะมาจากในส่วนของปัจจัยทางกายภาพ การใช้ชีวิต พฤติกรรม รวมถึงสุขภาพร่างกาย และการดูแลตัวเอง ส่วนทางด้านอารมณ์และจิตใจ ก็ถือว่าเป็นตัวหลักที่ส่งผลได้เยอะไม่น้อยไปกว่าปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งสามารถแบ่งสาเหตุมาได้ดังนี้
ปัญหาทางกายภาพ
- ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ: การมีปัญหาในการแข็งตัวอาจทำให้เกิดความกังวลใจ การแข็งตัวผิดปกติ หรือนกเขาไม่ขัน อาจส่งผลให้หลั่งเร็วขึ้น
- ปัญหาระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล: เช่น ระดับฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) ซึ่งมีบทบาทในการทำงานทางเพศของผู้ชาย นอกจากนี้ ฮอร์โมนอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมนลูทีไนซิง (Luteinizing Hormone: LH), โปรแลกติน (Prolactin) และฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (Thyroid Stimulating Hormone: TSH) ก็มีส่วนในการทำงานทางเพศเช่นเดียวกัน
- ระดับสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ: สารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก เช่น เซโรโทนินและโดปามีนที่มีผลต่อความต้องการ และความตื่นตัวทางเพศ หากมีระดับสารเหล่านี้ต่ำแล้ว อาจทำให้การควบคุมการหลั่งมีปัญหาได้
- การอักเสบหรือติดเชื้อในต่อมลูกหมากหรือลำกล้องปัสสาวะ: การติดเชื้อในบริเวณดังกล่าวสามารถส่งผลกระทบต่อการควบคุมการหลั่งได้ รวมไปถึงมีโรคทางเดินปัสสาวะก็ส่งผลได้
- พันธุกรรม: ลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างอาจทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะการหลั่งเร็วได้มากขึ้น
- ความไวต่อการกระตุ้นของอวัยวะเพศ: การที่มีความไวต่อการกระตุ้นมากเกินไปอาจทำให้ถึงจุดสุดยอดได้เร็ว ซึ่งปัญหานี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนแค่แตะน้องชาย หรือเล้าโลมก็เสร็จได้ อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
- โรคประจำตัว: ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด อย่าง ความดันโลหิตสูง หรือโรคอ้วน รวมไปถึงคนที่มีภาวะวัยทอง ก็ส่งผลเกี่ยวกับเรื่องการหลั่งได้
สาเหตุทางอารมณ์หรือจิตใจ
- ประสบการณ์ทางเพศ: การมีประสบการณ์ทางเพศที่ไม่ดี หรือมีปมเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ อาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมการหลั่งได้
- ความวิตกกังวล: ภาวะการหลั่งเร็ว และความวิตกกังวลมักเกิดร่วมกันได้ ความวิตกกังวลอาจมาจากความกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศหรือปัญหาอื่น ๆ ในชีวิต รวมไปถึงอาจเกิดจากความประหม่า เมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์กับคู่ใหม่ ความกังวลเมื่อมีเพศสัมพันธ์หลังจากการงดเว้นเป็นเวลานาน ขาดความมั่นใจ ความรู้สึกผิด หรือการถูกกระตุ้นมากเกินไปจนเกินอาการตื่นเต้น
- ความเครียด: ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน หรือปัญหาชีวิตส่วนตัว อาจส่งผลต่อการทำงานทางเพศได้
- ปัญหาความสัมพันธ์: การมีปัญหากับคู่รัก อาจทำให้เกิดความเครียด และความกังวลระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
- ภาวะซึมเศร้า: ภาวะซึมเศร้าสามารถลดความต้องการทางเพศและส่งผลต่อการควบคุมการหลั่งได้
การทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้สามารถหาวิธีการรักษา และจัดการกับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อาการหลั่งเร็ว VS การแข็งตัวบ่งพร่อง
บางครั้งอาการหลั่งเร็วอาจเกิดร่วมกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction: ED) ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ชายไม่สามารถแข็งตัวหรือรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศให้เพียงพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้ เนื่องจากการแข็งตัวจะหายไปหลังจากการหลั่ง จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าปัญหานั้นเกิดจากการหลั่งเร็วหรือภาวะ ED
แนะนำให้รักษาภาวะ ED ก่อน เนื่องจากการหลั่งเร็วอาจไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปหลังจากที่รักษาภาวะ ED สำเร็จ
ความแตกต่างระหว่างการหลั่งเร็ว และการแข็งตัวบกพร่อง
ลักษณะ | การหลั่งเร็ว | การแข็งตัวบกพร่อง |
นิยาม | หลั่งน้ำอสุจิเร็วเกินไป | ไม่สามารถแข็งตัวของอวัยวะเพศให้เพียงพอ |
สาเหตุหลัก | ปัจจัยทางจิตใจและสารเคมีในสมอง | ปัญหาการไหลเวียนเลือดและสุขภาพร่างกาย |
ผลกระทบต่อเพศสัมพันธ์ | ช่วงเวลาการมีเพศสัมพันธ์สั้นเกินไป | ไม่สามารถเริ่มหรือดำเนินกิจกรรมทางเพศได้ |
การรักษา | ฝึกควบคุมการหลั่ง ยา บำบัดทางจิตใจ | ยาเพื่อการแข็งตัว ปรับพฤติกรรม บำบัดจิตใจ |
ระดับความสามารถควบคุม | หลั่งเร็วแต่ยังสามารถแข็งตัวได้ตามปกติ | ไม่สามารถแข็งตัวของอวัยวะเพศได้พอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ |
ภาวะหลังเร็วส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?
ภาวะหลั่งเร็ว สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ชาย และผู้หญิงได้ในหลาย ๆ ด้าน แบ่งออกได้ ดังนี้
ผลกระทบต่อผู้ชาย:
- ขาดความมั่นใจ: ทำให้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศของตนเองและอาจทำให้เลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
- ความเครียดและกดดัน: ความไม่พอใจในตนเองและความกังวลเกี่ยวกับการทำให้คู่รักพึงพอใจ อาจนำไปสู่ความเครียดและภาวะซึมเศร้า
ผลกระทบต่อผู้หญิง:
- ความไม่พึงพอใจทางเพศ: อาจรู้สึกว่าไม่ได้รับความพึงพอใจเต็มที่จากการมีเพศสัมพันธ์
- ความสัมพันธ์ที่มีปัญหา: การขาดความเข้าใจ และการสื่อสารอาจทำให้เกิดความไม่พอใจและปัญหาในความสัมพันธ์
ผลกระทบต่อคู่รัก:
- การขาดความสัมพันธ์ทางอารมณ์: การหลั่งเร็วอาจทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ และส่งผลกระทบต่อความใกล้ชิดทางอารมณ์ของทั้งคู่
- การขาดการสื่อสาร: หากทั้งคู่ไม่สื่อสารกันอย่างเปิดเผย อาจทำให้เกิดความไม่พอใจและความเข้าใจผิดในความสัมพันธ์
การปรึกษาแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อรับการรักษาและคำแนะนำที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาและสร้างความพึงพอใจให้กับทั้งคู่ในระยะยาว
แนวทางการรักษาอาการหลั่งเร็ว และวิธีแก้ไม่ยาก ทำได้ด้วยตัวเอง!
วิธีแก้อาการหลั่งเร็ว และการรักษาภาวะการหลั่งเร็ว (PE) ประกอบด้วยการบำบัดทางจิตใจ การบำบัดทางพฤติกรรม (การฝึกทางเพศ) และการใช้ยา ซึ่งคุณสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้ โดยผู้ป่วยหลายคนมักจะใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
สำหรับการรักษาอาการหลั่งเร็วโดยไม่ใช้ยา จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงนัก หรือมีการหลั่งช้าที่ไม่บ่อย เกิดขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว และยังสามารถคงความแข็งได้ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น
การบำบัดทางจิตใจ
เป็นวิธีในการจัดการกับความรู้สึก และอารมณ์ที่อาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ทางเพศ เป้าหมายของการบำบัดประเภทนี้คือการค้นหาสาเหตุของปัญหา และหาทางแก้ไขที่จะช่วยลดภาวะการหลั่งเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยให้คู่รักเข้าใจกันมากขึ้นและใกล้ชิดกันมากขึ้น การบำบัดทางจิตใจช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ เสริมสร้างความมั่นใจ และเพิ่มความเข้าใจในการทำให้คู่รักมีความพึงพอใจมากขึ้น การบำบัดประเภทนี้สามารถใช้เป็นการรักษาหลักหรือร่วมกับการบำบัดทางพฤติกรรมหรือการใช้ยาได้ ไม่ว่าจะเป็น
- ปรึกษานักจิตวิทยาทางเพศ จิตบำบัด
- การทำสมาธิ การสะกดจิต การผ่อนคลายบำบัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การบำบัดทางพฤติกรรม
การบำบัดทางพฤติกรรมใช้การฝึกเพื่อสร้างความอดทนและควบคุมการหลั่ง เป้าหมายคือการฝึกให้ร่างกายคุ้นเคยกับการควบคุมการหลั่งเร็ว ตัวเลือกในการฝึกที่เป็นที่นิยมได้แก่ วิธีการบีบ (Squeeze Method) และ วิธีการหยุด-เริ่ม (Stop-Start Method) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการช่วยฝึกควบคุมการหลั่ง และเป็นวิธีแก้การหลั่งเร็ว แต่ผลลัพธ์อาจไม่คงทนในระยะยาวและอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
- วิธีการบีบ (Squeeze Method) ให้เริ่มจากคุณหรือคู่รักกระตุ้นอวัยวะเพศจนใกล้ถึงจุดสุดยอด เมื่อใกล้จะถึงจุดสุดยอด ให้บีบที่อวัยวะเพศอย่างแน่นพอสมควรเพื่อให้การแข็งตัวลดลง เป้าหมายคือการเรียนรู้และจดจำความรู้สึกของร่างกายก่อนถึงจุดสุดยอด เพื่อให้คุณสามารถควบคุมและยืดระยะเวลาการหลั่งได้ด้วยตนเอง
- วิธีการหยุด-เริ่ม (Stop-Start Method) โดยวิธีนี้เริ่มจากการกระตุ้นอวัยวะเพศจนใกล้จะถึงจุดสุดยอด เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด ให้หยุดการกระตุ้นจนความรู้สึกอยากหลั่งลดลง จากนั้นจึงเริ่มกระตุ้นใหม่ ทำซ้ำเช่นนี้สามครั้ง และให้หลั่งในครั้งที่สี่ ควรฝึกวิธีนี้สามครั้งต่อสัปดาห์ จนกว่าจะสามารถควบคุมการหลั่งได้ดีขึ้น
- ใช้ห่วงรัดอวัยวะเพศ (Cock Ring) เป็นหนึ่งในวิธีแก้หลั่งเร็ว ตัวช่วยที่ทำให้ชะลอการหลั่งได้ โดยจะทำการสวมรรัดตรงรอบโคนอวัยวะเพศชายที่แข็งตัวแล้ว
- ช่วยตัวเองก่อนมีเพศสัมพันธ์ จะทำให้รอบถัดไปสามารถหลั่งได้ช้าขึ้น ลดการหลั่งเร็ว แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศร่วม
- มีเพศสัมพันธ์ให้บ่อยขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย และฝึกประสบการณ์ในการมีเพศสัมพันธ์
- การบริหารอุ้งเชิงกราน หรือที่เรียกว่า Kegel Exercise ช่วยให้กล้ามเนื้อช่วงด้านล่างแข็งแรง
- หากมีความไวต่อการสัมผัสมากเกินไป อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตัดเส้นประสาทตรงส่วนโคนขององคชาต เพื่อลดความรู้สึก และทำให้ชะลอการหลั่งได้ ไม่เสร็จไวเกินไป จนกลายเป็นผู้ชายเสร็จเร็ว
การรักษาโดยใช้ยา
ในส่วนของการรักษา และแก้ปัญหาหลั่งเร็วโดยการใช้ยา เหมาะสำหรับผู้ที่อาการรุนแรง อาจมีการหลั่งเร็วเป็นปกติ หรือตลอดเวลา โดยสามารถทำควบคู่กับการไม่ใช้ยาได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และถึงแม้ว่าจะยังไม่มียาที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐอเมริกาสำหรับการรักษาภาวะการหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation: PE) โดยเฉพาะ แต่ก็มียาหลายชนิด รวมถึงครีมและสเปรย์ชาที่สามารถช่วยชะลอการหลั่งในผู้ชายที่มีภาวะนี้ ซึ่งมักจะใช้แบบ “off-label” คือใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การรักษาตามที่ยาได้รับอนุมัติ
ยาที่ใช้ในการรักษาภาวะการหลั่งเร็ว
- Dapoxetine: เป็นยาชะลอการหลั่งที่ออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทซีโรโทนิน (Serotonin) โดยช่วยยืดระยะเวลาการหลั่งและลดความไวในการกระตุ้น ทำให้สามารถควบคุมการหลั่งได้ดีขึ้น
- Tramadol: เป็นยาลดปวดที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน (Opioid Analgesic) ซึ่งนอกจากช่วยลดความเจ็บปวดแล้วยังส่งผลข้างเคียงให้การหลั่งช้าลง แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงในการเสพติด
- SSRIs (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors): ยากลุ่มนี้รวมถึง Fluoxetine, Sertraline, และ Paroxetine เป็นยาต้านอาการซึมเศร้าที่มีผลข้างเคียงในการชะลอการถึงจุดสุดยอด โดยการเพิ่มระดับสารซีโรโทนินในสมอง ซึ่งสามารถช่วยลดความไวในการหลั่งได้
- PDE5 Inhibitors (Phosphodiesterase Type 5 Inhibitors): ยาในกลุ่มนี้ เช่น Sildenafil และ Tadalafil มักใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการแข็งตัวของอวัยวะเพศ แต่ในบางกรณีสามารถช่วยรักษาการหลั่งเร็วได้เมื่อมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวร่วมด้วย (Erectile Dysfunction)
- TCA (Tricyclic Antidepressants) เช่น Clomipramine: ยากลุ่มนี้มักใช้ในการรักษาอาการปวดปลายประสาท (Neuropathic Pain) และมีผลข้างเคียงที่ช่วยยืดระยะเวลาการหลั่งได้เช่นกัน
- Topical Anesthetic Cream (ยาชาเฉพาะจุด): ครีมชาชนิดนี้ เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ Lidocaine หรือ Prilocaine ช่วยลดความรู้สึกไวบริเวณอวัยวะเพศ เพียงทาไว้ประมาณ 20-30 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์ และล้างออกก่อนการสอดใส่เพื่อป้องกันการทำให้คู่รักรู้สึกชาเช่นกัน
การใช้ยาและคำแนะนำในการใช้
- ยาแก้อาการหลั่งเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งแบบรับประทานทุกวันหรือเฉพาะก่อนการมีเพศสัมพันธ์ โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำเวลาที่ควรรับประทานยาตามกิจกรรมของคุณ อย่างไรก็ตาม การหยุดยาอาจทำให้ภาวะการหลั่งเร็วกลับมาอีก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักต้องใช้ยาต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการ
- หากการใช้ยาชนิดหนึ่งไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้ลองใช้ยาชนิดอื่น หรือใช้ร่วมกับการบำบัดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
- การใช้ครีมชาหรือสเปรย์ชาบริเวณอวัยวะเพศสามารถช่วยลดความไวได้ แต่ไม่ควรปล่อยให้ครีมหรือสเปรย์อยู่บนอวัยวะเพศในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดเนื่องจากอาจทำให้คู่รักรู้สึกชาได้ ควรล้างครีมออกจากอวัยวะเพศประมาณ 5-10 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์
- การรักษาด้วยยาควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ยาเป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
ตรวจอาการหลั่งเร็ว ได้ที่ S’RENE คลินิกสุขภาพคนเมือง
ก่อนที่จะทำการรักษาอาการหลั่งไว อันดับแรกต้องเริ่มจากการตรวจระดับฮอร์โมน เพื่อเช็กถึงความไม่สมดุลภายในร่างกาย และหาสาเหตุว่า คุณมีภาวะวัยทอง หรือมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือไม่ โดยสามารถเข้ารับบริการ His & Her Wellness Lab Check Up Level 3 (20 รายการตรวจ ราคา 15,900 บาท)
จากนั้น ถ้าหากพบว่ามีอาการ หรือภาวะของโรค ED หรือวัยทอง คุณหมอก็อาจจะทำการรักษาด้วยการฉีดฮอร์โมน อย่างโปรแกรม S’RENE Hormonal Booster For Men (1 ครั้ง ราคา 15,900 บาท) การรักษาภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายด้วยการฉีด T Shot หรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในการรักษา
ช่วยเพิ่มสมรรถภาพ และความต้องการทางเพศ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และความแข็งแรงของร่างกาย รวมถึงช่วยปรับอารมณ์ และรักษาภาวะวัยทองผู้ชาย
แต่ถ้าหากพบว่าไม่ได้มีอาการของภาวะ ED แต่อาการเสร็จไว มาจากภาวะหลั่งเร็วจริง ๆ คุณหมอก็จะทำการดูว่ามีสาเหตุมาจากอะไร มาจากปัญหาทางจิตใจ หรือมีความไวต่อการสัมผัส โดยการรักษากับที่ S’RENE by SLC เรามีบริการการรักษาที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความรุนแรง และความต้องการ โดยแพทย์จะทำการแนะนำวิธีที่ดีที่สุด หลังจากที่ตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น
- การฉีด PRP กับโปรแกรม S’RENE P Booster (1 ครั้ง 9,900 บาท) จะเป็นการรักษาด้วยการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เข้าไปช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้น้องชายแข็งแรงขึ้น
- การใช้เครื่อง Smart Focus Shockwave For Men (1 ครั้ง 9,900 บาท) ช่วยกระตุ้น และเร่งการฟื้นฟูน้องชายด้วยคลื่นกระแทกชนิดโฟกัส ช่วยให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอย และช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยให้น้องชายเกิดการแข็งตัวได้ดีขึ้น
- การใช้เครื่อง INDIBA ช่วยรักษา และฟื้นฟูเนื้อเยื่อ พร้อมช่วยกระตุ้นน้องชายด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ทำให้น้องชายแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดี
- การนั่งเก้าอี้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า Magneto STYM™ Therapy For Men (1 ครั้ง 30 นาที 2,500 บาท) โปรแกรมรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ด้วยเก้าอี้แม่เหล็กไฟฟ้า ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ น้องชายแข็งตัวได้ดีขึ้น
สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน His & Her Wellness โดยเฉพาะกับ S’RENE by SLC สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวได้ที่
- สาขา ทองหล่อ – โทร: 064 184 5237
- สาขา Charn แจ้งวัฒนะ14 – โทร: 099 807 7261
- สาขา Paradise Park ชั้น 3 – โทร 081 249 7055
- หรือแอด LINE: @SRENEbySLC
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Premature Ejaculation. Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15627-premature-ejaculation
Premature Ejaculation: Symptoms and Causes. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/premature-ejaculation/symptoms-causes/syc-20354900
Premature Ejaculation. Urology Care Foundation. https://www.urologyhealth.org/urology-a-z/p/premature-ejaculation
Lifelong Premature Ejaculation: Causes and Treatments. Hims. https://www.hims.com/blog/lifelong-premature-ejaculation
อ้างอิง แบบ APA
Premature Ejaculation: Causes & Treatment
Premature ejaculation – Symptoms and causes – Mayo Clinic
Premature Ejaculation: Causes & Treatment – Urology Care Foundation
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่