เลือดเปรียบเสมือนแม่น้ำชีวิตที่หล่อเลี้ยงร่างกาย ทำหน้าที่สำคัญในการลำเลียงออกซิเจน สารอาหาร และฮอร์โมน ไปสู่เซลล์ต่าง ๆ รวมถึงกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย
แต่ในปัจจุบัน ชีวิตประจำวันของเรามักต้องเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย ทั้งมลภาวะ ควันรถ สารพิษตกค้างในอาหาร อาหารแปรรูป แอลกอฮอล์ บุหรี่ และการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ส่งผลให้เลือดไม่สะอาด มีสารพิษตกค้าง และระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
DFPP หรือ Double Filtration Plasmapheresis คือ เทคโนโลยีหนึ่งที่ใช้กรองเลือด ช่วยขจัดสารพิษ กรองสารก่อโรคและของเสียตกค้าง ทำให้เลือดสะอาด ระบบไหลเวียนเลือดดี และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
DFPP คืออะไร? ทำความรู้จักกับเทคโนโลยีกรองพลาสมาสองชั้น
DFPP หรือ Double Filtration Plasmapheresis คือ กระบวนการกรองเลือดที่ช่วยขจัดสารพิษและของเสียตกค้างในเลือด ก่อนจะนำเลือดที่กรองแล้วกลับเข้าสู่ร่างกายดังเดิม ทำให้เลือดสะอาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเสริมอัลบูมินทดแทนเพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันด้วย
DFPP ทำงานอย่างไร?
DFPP ใช้วิธีการกรองเลือด 2 ชั้น โดยแยกส่วนของพลาสมา (Plasma) ซึ่งเป็นของเหลวในเลือดออกจากส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
จากนั้นพลาสมาที่แยกออกมานี้จะถูกนำไปผ่านตัวกรองอีกครั้ง เพื่อกำจัดสารพิษ ของเสีย สารก่อภูมิแพ้ และโปรตีนที่ไม่พึงประสงค์
หลักการทำงานของ DFPP
- แยกพลาสมา: เลือดจะถูกนำไปผ่านตัวกรองแรกซึ่งจะแยกพลาสมาออกจากส่วนประกอบอื่นๆ ของเลือด
- กรองพลาสมา: พลาสมาที่แยกออกมาจะถูกกรองผ่านตัวกรองอีกครั้งเพื่อกำจัดสารพิษ ของเสีย และโปรตีนที่ไม่พึงประสงค์
- คืนพลาสมาใหม่: เลือดที่ผ่านการกรองจะถูกนำกลับเข้าสู่ร่างกายโดยเติมพลาสมาใหม่ที่สะอาดและปลอดสารพิษเข้าไปแทนที่
DFPP แตกต่างจากการกรองเลือดแบบทั่วไปอย่างไร?
การกรองเลือดแบบทั่วไป มักใช้ในการรักษาโรคไตวายโดยจะช่วยกำจัดของเสียจากการเผาผลาญออกจากเลือด แต่ DFPP มุ่งเน้นไปที่การกำจัดสารพิษ โปรตีนผิดปกติและสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่าง ๆ และลดประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย
เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฟื้นฟูสุขภาพสมบูรณ์ยิ่งขึ้น การทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) เป็นอีกหนึ่งวิธีเสริมที่แนะนำ เพราะช่วยกำจัดโลหะหนักที่ตกค้างในกระแสเลือด ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น และเมื่อทำควบคู่กับ DFPP จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายและลดความเสี่ยงจากสารพิษสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ คีเลชั่น (Chelation Therapy) คลิกเพื่ออ่านบทความเต็มได้ที่นี้ [Product 2 – คีเลชั่น / Chelation *]
การทำ DFPP เหมาะกับใครและไม่เหมาะกับใคร
DFPP เป็นเทคโนโลยีการกรองเลือดที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย โรคประจำตัว และความต้องการของแต่ละบุคคล
ผู้ที่เหมาะกับการทำ DFPP
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน: เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรค SLE โรคภูมิแพ้ตัวเอง
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด: เช่น โรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคหลอดเลือดตีบ
- ผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง: เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ
- ผู้ที่มีระดับโปรตีนในเลือดสูง: เช่น ผู้ที่มีภาวะเลือดมีโปรตีนมาก (Hyperproteinemia)
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อ: เช่น ไวรัสเฮชไอวี ไวรัสตับอักเสบบีและซี
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม: เช่น ผู้ที่อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือเตรียมตัวฉีด PRP และ STEM CELL [Blog 8 – stem cell คือ]
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ DFPP
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย
- ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือดรุนแรง
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง
- ผู้ที่มีโรคติดเชื้อรุนแรง
- ผู้ที่แพ้ยาหรือสารละลายที่ใช้ในการทำ DFPP: เช่นผู้ที่มีอาการแพ้ไข่ หรือ แพ้อัลบูมีน
ประโยชน์ของการทำ DFPP
- ช่วยให้เลือดสะอาด: DFPP ช่วยขจัดสารพิษ ของเสีย ไขมันเลว (LDL) และสารก่อภูมิแพ้ที่ตกค้างในเลือด ทำให้เลือดสะอาด ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: DFPP ช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต้านทานโรค และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ลดระดับไขมันในเลือด: DFPP ช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ลดระดับโปรตีนในเลือด: DFPP ช่วยลดระดับโปรตีนในเลือด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคบางชนิด
- ลดอาการอักเสบ: DFPP ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากสารพิษ ของเสีย หรือสารก่อภูมิแพ้ที่ตกค้างในเลือด
- ฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม: DFPP ช่วยให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟู รู้สึกสดชื่น มีพลังงาน และมีสุขภาพแข็งแรง
ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการทำ DFPP
การดีท็อกเลือดด้วย DFPP เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ควรเตรียมตัวล่วงหน้า โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์: ก่อนเข้ารับการทำ DFPP ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยง และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพ
- ตรวจร่างกาย: แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจร่างกาย เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมและตรวจหาโรคประจำตัวเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายมีความพร้อมสำหรับการทำ DFPP
- งดอาหารและเครื่องดื่ม: งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดตั้งแต่เวลา 21:00 น. – 09:00 น. ก่อนวันที่ทำ DFPP เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเจาะเลือด
- แจ้งประวัติการแพ้ยา: แจ้งประวัติการแพ้ยา หรือโรคประจำตัวกับแพทย์เพื่อความปลอดภัยในการทำ DFPP
- พักผ่อนให้เพียงพอ: ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับการทำ DFPP
หากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัวและข้อควรรู้เพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ของคลินิก
การทำ DFPP มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
- การประเมินและเตรียมตัว: แพทย์จะทำการประเมินสุขภาพ ตรวจสอบประวัติการแพ้ยา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำ DFPP
- การเจาะเลือด: แพทย์จะเจาะเลือดจากผู้ป่วย โดยทั่วไปจะเจาะเลือดที่บริเวณแขนหรืออาจเลือกเจาะที่บริเวณอื่น เช่น ซอกคอ หรือขาหนีบ
- การแยกพลาสมา: เลือดที่เจาะออกมาจะถูกนำไปผ่านเครื่องกรองเลือด เพื่อแยกพลาสมา (Plasma) ออกจากส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
- การกรองพลาสมา: พลาสมาที่แยกออกมานี้จะถูกนำไปผ่านตัวกรองอีกครั้ง เพื่อกำจัดสารพิษ ของเสีย โปรตีนผิดปกติ และสารก่อภูมิแพ้
- การคืนพลาสมาใหม่: เลือดที่ผ่านการกรองจะถูกนำกลับเข้าสู่ร่างกาย โดยเติมพลาสมาใหม่ที่สะอาดและปลอดสารพิษ เข้าไปแทนที่
- การพักฟื้น: หลังจากการทำ DFPP แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยพักผ่อน และอาจมีการตรวจติดตามผล
ข้อควรปฏิบัติหลังเข้ารับการทำ DFPP
หลังจากทำ DFPP ร่างกายของคุณจะต้องฟื้นฟู เพื่อให้การทำงานของระบบต่างๆ กลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะระบบไหลเวียนเลือด
- พักผ่อนให้เพียงพอ: ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและปรับตัวหลังจากการทำ DFPP
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างราบรื่นและป้องกันอาการท้องผูก
- รับประทานอาหารที่เหมาะสม: งดอาหารรสจัด อาหารทอด อาหารมัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนักเกินไป เช่น ออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก การเดินทางไกล
- สังเกตอาการผิดปกติ: หากมีอาการผิดปกติหลังการทำ DFPP เช่น ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกเจ็บแผล หรือมีไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- ทานยาตามแพทย์สั่ง: ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
- นัดติดตามผล: นัดติดตามผลกับแพทย์ เพื่อตรวจสอบสุขภาพและประเมินผลการรักษา
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการทำ DFPP
ถึงแม้การดีท็อกซ์เลือดด้วย DFPP เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพเลือดและลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การทำ DFPP ก็อาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้เหมือนกับการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ ดังนี้
- รอยเขียวช้ำ: อาจเกิดรอยเขียวช้ำ บริเวณที่เจาะเลือด เนื่องจากเข็มที่ใช้ในการทำ DFPP มีขนาดใหญ่กว่าเข็มที่ให้น้ำเกลือทั่วไป
- ภาวะบวม: บางรายอาจมีภาวะบวมเนื่องจากการสูญเสียอัลบูมินระหว่างการทำ DFPP แต่ภาวะบวมนี้ มักเป็นชั่วคราว และจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
- คลื่นไส้ อาเจียน: บางรายอาจรู้สึกคลื่นไส้หรืออาเจียนหลังจากการทำ DFPP เนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัว
- ปวดหัว เวียนหัว: บางรายอาจรู้สึกปวดหัวหรือเวียนหัวหลังจากการทำ DFPP เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับเลือด
- ความดันโลหิตต่ำ: บางรายอาจมีอาการความดันโลหิตต่ำ หลังจากการทำ DFPP เนื่องจากการสูญเสียเลือด
- อ่อนเพลีย: บางรายอาจรู้สึกอ่อนเพลีย หลังจากการทำ DFPP เนื่องจากร่างกายกำลังฟื้นฟู
ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นชั่วคราว และหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือภายใน 1-2 วัน แต่หากมีอาการผิดปกติหรืออาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทันที
ดีท็อกเลือด DFPP ได้ที่ S’RENE by SLC คลินิกสุขภาพคนเมือง
เลือดสะอาด ระบบไหลเวียนเลือดดี เป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพ การดีท็อกซ์เลือดด้วย DFPP หรือ Double Filtration Plasmapheresis คือเทคโนโลยีกรองเลือดที่ช่วยขจัดสารพิษ ของเสียตกค้าง ไขมันเลว (LDL) และสารก่อภูมิแพ้ในเลือด ทำให้เลือดสะอาด ระบบไหลเวียนเลือดดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
DFPP ยังเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมรับการรักษาด้วยเซลล์บำบัดอื่น ๆ เช่น PRP หรือ STEM CELL (Blog 8 – stem cell คือ) การทำ DFPP ก่อนการฉีด PRP หรือ STEM CELL จะช่วยให้ร่างกาย ได้รับผลลัพธ์ที่ดีจากการรักษาเนื่องจาก
- เลือดสะอาด ร่างกายจะสามารถดูดซึมสารอาหารและ growth factor จาก PRP หรือ STEM CELL ได้ดีขึ้น
- ระบบไหลเวียนเลือดดี ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือด ไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ช่วยให้ร่างกาย ฟื้นตัวจากการรักษาได้เร็วขึ้น
S’RENE by SLC เป็นคลินิกสุขภาพคนเมืองที่มีบริการตรวจสุขภาพ และการทำ DFPP ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
สนใจบริการดีท็อกเลือดด้วย DFPP ของ S’RENE by SLC สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่
- สาขาทองหล่อ 064 184 5237
- สาขา Charn แจ้งวัฒนะ ชั้น 2 099 807 7261
- สาขา Paradise Park ชั้น 3 081 249 7055
- สาขา เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 6 080 245 7669
- LINE: @SRENEbySLC หรือคลิก https://bit.ly/3IlXtvw
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่
- Facebook: www.facebook.com/SrenebySLC
- IG: www.instagram.com/srene.byslc
- TikTok: www.tiktok.com/@srenebyslc
อ้างอิง
Mineshima, M., & Akiba, T. (2002). Double filtration plasmapheresis in critical care. Therapeutic apheresis : official journal of the International Society for Apheresis and the Japanese Society for Apheresis, 6(3), 180–183. https://doi.org/10.1046/j.1526-0968.2002.00428.x
Hirano, R., Namazuda, K., & Hirata, N. (2021). Double filtration plasmapheresis: Review of current clinical applications. Therapeutic apheresis and dialysis : official peer-reviewed journal of the International Society for Apheresis, the Japanese Society for Apheresis, the Japanese Society for Dialysis Therapy, 25(2), 145–151. https://doi.org/10.1111/1744-9987.13548
สามารถติดตาม S’RENE by SLC ได้ที่